xs
xsm
sm
md
lg

โกลด์ฟิวเจอร์คึก แนะดันไทยเป็นศูนย์กลางค้าทองคำเอเชีย

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


เซียนค้าทองโดดลงสนามโกลด์ฟิวเจอร์ นายกสมาคมผู้ค้าทอง แนะรัฐบาลดันไทยเป็นศูนย์กลางค้าทองคำเอเชีย เพราะจะมีปริมาณเม็ดเงินหมุนเวียนนับล้านล้านบาท ยันหากได้รับไฟเขียวทำได้ภายใน 3 ปี ย้ำการเมืองต้องนิ่ง พร้อมคาดการณ์คาดราคาทองคำปีนี้ แนวโน้มทะลุ 1,034 ดอลลาร์/ออนซ์ ส่วนราคาในประเทศมีแนวโน้มจะทะลุ 16,450 บาทอีกครั้ง

นายจิตติ ตั้งสิทธิ์ภักดี นายกสมาคมค้าทองคำ ในฐานะประธานกรรมการบริษัท จีที เวล แมเนจเมนท์ จำกัด กล่าวภายหลังเปิดตัวให้บริการธุรกรรมโกลด์ฟิวเจอร์ ในวันนี้ (11 พฤษภาคม 2552) โดยระบุว่า ด้วยประสบการณ์การดำเนินธุรกิจค้าทองคำปลีกและส่ง มากว่า 50 ปี ของสมาชิกส่วนใหญ่ในสมาคมค้าทองคำ ซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นทั้งหมดของบริษัท บริษัทเห็นว่า โกลด์ฟิวเจอร์เป็นช่องทางการลงทุนทองคำในอนาคต และเป็นทางเลือกหนึ่งสำหรับนักลงทุนที่มีการลงทุนในทองคำ ซึ่งบริษัทเป็นสมาชิกบริษัท ตราสารอนุพันธ์ ประเทศไทย จำกัด(มหาชน) ด้วยทุนจดทะเบียน 120 ล้านบาท

ทั้งนี้ บริษัทคาดการณ์ส่วนแบ่งการตลาดในช่วงปีแรก ไว้ที่ร้อยละ 3 และมีเป้าหมายลูกค้าเปิดบัญชีภายในปี 2552 ทั้งสิ้น 500 บัญชี และจะเพิ่มเป็น 1,000 บัญชี ในปี 2553

นายจิตติ ยังกล่าวถึงสถานการณ์ราคาทองคำในระยะกลางถึงระยะยาว ยังมีโอกาสจะปรับขึ้น เพื่อทดสอบระดับสูงสุดเดิมที่ 1,034 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ภายในปีนี้ โดยกำลังรอปัจจัยมากระตุ้นราคาทองคำ ซึ่งหากสถานการณ์เศรษฐกิจโลกเลวร้ายลง หรือมีข่าวสถาบันการเงินมีปัญหา ราคาทองคำก็จะพุ่งขึ้นทันที จากปัจจุบันเคลื่อนไหวที่ 870-920 ดอลลาร์ต่อออนซ์

ส่วนราคาขายทองคำในประเทศ ก็มีแนวโน้มจะทะลุ 16,450 บาทอีกครั้ง หากราคาในตลาดโลกทำลายสถิติเกิน 1,034 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แต่เนื่องจากเงินบาทแข็งค่าขึ้นประมาณ 34 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐฯ ทำให้ราคาขายทองคำในประเทศถูกลง แม้ว่าราคาทองคำในตลาดโลกที่ทะลุเกิน 924 ดอลลาร์ต่อออนซ์ไปแล้ว

ส่วนราคาขายทองคำที่ประกาศโดยสมาคมค้าทองคำประจำวันนี้ (11 พ.ค.) ทองคำแท่งขายออกที่บาทละ 15,100 บาท รับซื้อ 15,000 บาท ขณะที่ทองรูปพรรณ ขายออกที่บาทละ 15,500 บาท และรับซื้อที่ 14,781 บาท

นายจิตติ ยังกล่าวด้วยว่า ทางสมาคมผู้ค้าทองคำได้มีการศึกษาถึงการพัฒนาให้ประเทศไทยเป็นศูนย์ค้าทองคำในภาคพื้นเอเชียเพื่อแข่งขันกับฮ่องกงและสิงคโปร์ โดยได้เคยเสนอรัฐบาลชุดก่อนหน้านี้เมื่อ 4 ปีก่อน แต่เรื่องก็เงียบหายไป

ทั้งนี้ หากประเทศไทยเป็นศูนย์ค้าทองคำในภาคพื้นเอเชียได้ จะเป็นผลดีต่อภาวะเศรษฐกิจไทย เพราะจะมีปริมาณเม็ดเงินหมุนเวียนนับล้านล้านบาท

ดังนั้น หากรัฐบาลสนใจในเรื่องดังกล่าว สมาคมค้าทองคำพร้อมที่จะนำเสนอผลการศึกษา เพราะภาคเอกชนไม่สามารถพัฒนาได้โดยลำพัง เนื่องจากจะต้องมีการแก้ไขกฎหมาย เพื่อให้เกิดเสรีในเรื่องภาษีทองคำโดยยกเว้นภาษีมูลค่าเพิ่มและภาษีศุลกากร และจะต้องมีการเปิดเสรีในการซื้อขายแลกเปลี่ยนเงินตรา ซึ่งหากรัฐบาลสนใจที่จะพัฒนาก็สามารถดำเนินการได้ภายใน 3 ปี ก็จะเกิดเป็นศูนย์ค้าทองคำได้

อย่างไรก็ตาม ยอมรับว่า สถานการณ์ทางการเมืองที่มีการเปลี่ยนแปลงรัฐบาลบ่อยครั้ง ทำให้ขาดความต่อเนื่องในนโยบาย และคงจะมีผลต่อการลงทุนของต่างชาติ ดังนั้นจึงยอมรับว่า ในจังหวะที่การเมืองไทยมีปัญหา อาจไม่ใช่ช่วงเวลาที่เหมาะสม ต้องรอให้การเมืองมีเสถียรภาพมากกว่านี้
กำลังโหลดความคิดเห็น