xs
xsm
sm
md
lg

“ชุมพล” เบรกแตกตอกหน้าอีลิท ทีพีซีชงบอร์ด 3 ทางรอดสัปดาห์หน้า

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

“ชุมพล” ตอกกลับทีพีซี ไม่จำเป็นต้องรีบฟันธงอีลิทการ์ด ถ้าข้อมูลยังไม่ครบ อย่าอ้างเหตุยื้อเวลาทำบริษัทขาดรายได้ เหตุที่ผ่านมาก็ไม่มียอดขายอยู่แล้ว ชี้ ถ้ายังเป็นโครงสร้างเดิมยิ่งมีสมาชิกมาก ยิ่งขาดทุนมาก ระบุชัด คนล้นงานควรปรับลด เพื่อประหยัดค่าใช้จ่าย ด้านทีมผู้บริหารทีพีซี เตรียมชง 3 ทางเลือก ปรับขนาดองค์กร เสนอบอร์ดสัปดาห์หน้า

นายชุมพล ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กล่าวว่า การที่ให้คณะกรรมการตรวจสอบ ทำการตรวจสอบบริษัท ไทยแลนด์ พริวิเลจ คาร์ด จำกัด หรือ ทีพีซี ผู้บริหารโครงการ ไทยแลนด์อีลิทการ์ด ทำงานหาข้อมูลอย่างละเอียดทุกขั้นตอน ตั้งแต่เริ่มก่อตั้งบริษัท ก็เพราะต้องการให้ได้ข้อมูลที่จะใช้ประกอบเป็นเหตุเป็นผลไว้สำหรับตอบคำถามของคณะรัฐมนตรี (ครม.) ให้ได้มากที่สุด ดังนั้น หากการทำงานจะต้องใช้เวลาบ้างก็คงไม่ใช่เรื่องแปลก และไม่มีความจำเป็นที่จะต้องรีบนำเสนอหากยังได้ข้อมูลไม่สมบูรณ์เพียงพอ

“ถ้ารวมข้อมูลได้หมดแล้วจะนำเข้าเสนอ ครม.ทันที เมื่อไหร่ก็เมื่อนั้น แต่ตอนนี้ข้อมูลเท่าที่ได้รับมายังขาดรายละเอียดเกือบทุกเรื่องตั้งแต่เริ่มก่อตั้งบริษัท จนถึงปัจจุบัน เช่น เรื่องราคาบัตรสมาชิก ที่จำหน่ายอยู่ใบละ 1 ล้านบาทในช่วงแรก และปัจจุบันนี้ปรับขึ้นเป็น 1.5 ล้านบาทนั้น ทีพีซี ได้รับเงินเข้าบริษัทเท่าใด และต้องจ่ายให้แก่ตัวแทนจำหน่ายเท่าใด เป็นต้น”

ส่วนกรณีที่มีการเรียกร้องจากบริษัท ทีพีซี ขอให้รีบตัดสินใจว่าจะดำเนินการเช่นใดกับบริษัทนั้น เพราะยิ่งปล่อยไว้นานเงินสดที่มีอยู่ก็ต้องหมดไปทุกวัน เนื่องจากบริษัทถูกสั่งให้หยุดทำธุรกรรมทุกอย่าง แม้กระทั่งการจำหน่ายบัตรสมาชิก ทำให้สูญเสียโอกาสที่จะสร้างรายได้ ในประเด็นดังกล่าวนี้ นายชุมพล กล่าวว่า ความจริง ทีพีซี ไม่ได้มีรายได้มานานแล้ว เพราะเท่าที่ดูจากบันทึกการขาย ต่อปีมีจำนวนสมาชิกใหม่ๆ เข้ามาไม่มาก ยอดขายลดลงอย่างต่อเนื่องทุกปี และจากโครงสร้างการให้บริการสมาชิก อายุการถือครองบัตร และสิทธิประโยชน์ มองว่าถ้าทีพีซียิ่งมีสมาชิกมากขึ้นจะยิ่งทำให้บริษัทขาดทุนมากขึ้นด้วยซ้ำไป

นอกจากนั้น สาเหตุที่ต้องให้ ทีพีซี ไปพิจารณาปรับลดพนักงาน เพราะเห็นว่า มีหลายส่วนที่มีจำนวนพนักงานเกินความเป็นจริง สามารถปรับลดลงมาได้อีก เพื่อประหยัดค่าใช้จ่ายองค์กร ขณะที่เงื่อนไขการลดอัตรากำลังคน หรือพนักงานในครั้งนี้ต้องเสนอเงื่อนไขที่ต่ำกว่าคราวที่แล้วที่ปรับลดในส่วนของระดับผู้บริหาร ซึ่งมองว่า ในครั้งนั้นเงื่อนไขที่เสนอให้รวมเป็นวงเงินที่มากเกินไปที่บริษัทจะต้องจ่าย เพราะทีพีซีไม่ได้มีเงินมากมายที่จะนำมาใช้จ่ายฟุ่มเฟือย แต่ต้องใช้อย่างสมเหตุสมผล

*****ชง 3 แนวทางเสนอบอร์ดลดพนักงาน******
ทั้งนี้ แหล่งข่าวจากทีมผู้บริหารทีพีซี กล่าวว่า ขณะนี้ทีพีซีอยู่ระหว่างดำเนินการตามมติบอร์ดทีพีซีครั้งล่าสุด ที่ให้พิจารณาปรับลดองค์กรและอัตรากำลังคน โดยคาดว่าจะมี 2-3 แนวทางที่จะนำเสนอต่อที่ประชุมบอร์ด ในวันที่ 12 พ.ค.นี้ เช่น การลดพนักงาน การลดวันทำงาน และการปรับโครงสร้างเพื่อลดค่าใช้จ่ายในส่วนอื่นๆ เป็นต้น โดยในส่วนของการปรับลดพนักงาน ก็ต้องมาศึกษาในรายละเอียดด้วยว่า จะต้องปรับลดในสัดส่วนเท่าใดจึงพอดีกับงาน จากนั้นก็ต้องมาพิจารณาถึงวิธีการปรับลด ว่า จะใช้รูปแบบไหน เช่น การบอกเลิกจ้างตามกฎหมาย ด้วยเหตุผลที่ว่าบริษัทอยู่ในภาวะขาดทุนจากการดำเนินกิจการ จึงมีความจำเป็นต้องเลิกจ้างงาน แต่ตรงนี้ต้องศึกษาข้อกฎหมายให้รอบคอบ เพราะ ทีพีซี เป็นหน่วยงานรัฐวิสาหกิจ จึงต้องให้ความยุติธรรมในการตัดสินว่าจะเลิกจ้างใครด้วยเหตุผลใด เพื่อป้องกันการถูกฟ้องร้อง

ส่วนอีกรูปแบบหนึ่งคือการจัดโครงการเออร์ลี รีไทร์ เปิดรับพนักงานที่สมัครใจออก ซึ่งทั้งสองวิธีดังกล่าวก็ต้องจ่ายค่าชดเชยให้แก่พนักงานตามกฎหมายกำหนด แต่ในส่วนของเออลี่ น่าจะต้องมีอินเซนทีฟ เพื่อจูงใจเป็นพิเศษบ้าง แต่คงไม่มากเท่ากับครั้งก่อน

“หากทีพีซีเลือกในส่วนของการปรับลดพนักงาน ก็จะมีทั้งส่วนของพนักงานระดับปฏิบัติการ และระดับผู้บริหาร เช่น ผู้ช่วยผู้จัดการใหญ่ และ รองผู้จัดการใหญ่ ซึ่งขณะนี้มีตำแหน่งละ 2 คน ทุกวันนี้ก็ไม่ได้ทำอะไร เพราะบริษัทยังไม่สามารถดำเนินกิจการใดๆ ได้จนกว่าจะมีคำสั่งจาก ครม.” แหล่งข่าวกล่าว
กำลังโหลดความคิดเห็น