xs
xsm
sm
md
lg

“ทรัพย์อนันต์” ชน “สแปลช-ทวิสเตอร์” ปั้น “เชปเป้จูซมี” รุกน้ำผลไม้มีเกล็ด

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ทรัพย์อนันต์ เดินหน้าสร้างตลาดเครื่องดื่มแนวคิดใหม่ ขยายอาณาจักรเครื่องดื่มปราศจากแอลกอฮอล์เต็มสูบ ปั้น “เชป เป้ จูซ มี” ลงสมรภูมิน้ำผลไม้เซกเมนต์ใหม่ผสมเกล็ดผลไม้ สร้างความต่างน้ำผลไม้ 60%  ชิงชิ้นเค้ก สแปลช-ทวิสเตอร์ รุกขยายตลาดต่างประเทศ สร้างสมดุลรายได้ลดความเสี่ยง สิ้นปีรายได้โต 53%

นายอดิศักดิ์ รักอริยะพงษ์ ผู้จัดการทั่วไป บริษัท ทรัพย์อนันต์ เยนเนอรัล ฟู้ด จำกัด ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายน้ำผลไม้โมกุ โมกุ และ บิวติ ดริ้งค์ เปิดเผยว่า ท่ามกลางวิกฤตเศรษฐกิจที่เกิดขึ้นในขณะนี้ นโยบายการดำเนินธุรกิจกลุ่มเครื่องดื่มของบริษัท ตอกย้ำการใช้กลยุทธ์บลูโอเชียน (Blue Ocean) หรือการสร้างตลาดใหม่ โดยนำเสนอสินค้าที่มีความแตกต่าง และต้องเป็นสินค้าที่ไม่มีในตลาดมาก่อน เพื่อเจาะกลุ่มเป้าหมายคนรุ่นใหม่ มีไลฟ์สไตล์ทันสมัย ทั้งนี้เพื่อรองรับกับภาวะตลาดเครื่องดื่มที่มีการแข่งขันอย่างรุนแรง  

“ทรัพย์อนันต์เป็นบริษัทที่มีอายุยังน้อย เราจึงต้องเน้นพัฒนาสินค้าแปลก และแตกต่าง เพื่อสู้กับบริษัทยักษ์ใหญ่ในตลาดเครื่องดื่มให้ได้ และจากการเปิดตัวสินค้าที่ผ่านมาถือว่าเรามาถูกทาง โดยท่ามกลางวิกฤตเศรษฐกิจที่เกิดขึ้น แต่ในช่วงไตรมาสแรกบริษัทกลับมีการเติบโต 30% สะท้อนว่าเครื่องดื่มของบริษัทตอบสนองความต้องการผู้บริโภคได้เป็นอย่างดี ทั้งด้านคอนเซปต์สินค้า รสชาติ และบรรจุภัณฑ์”

ทิศทางการดำเนินธุรกิจของบริษัทโฟกัสเครื่องดื่มที่ปราศจากแอลกอฮอล์ ซึ่งในช่วงที่มาบริษัทเปิดตัวสินค้าด้วยกันหลากหลายตัว โดยมีด้วยกัน 3 กลุ่ม ได้แก่ กลุ่มฟังก์ชันนัลดริงก์ยี่ห้อ “บิวติ ดริ้งค์” ซึ่งเป็นกลุ่มสินค้าเรือธงที่สร้างรายได้หลักให้กับบริษัท ตามด้วยกลุ่มน้ำผลไม้ อาทิ ยี่ห้อ “โมกุ โมกุ” น้ำผลไม้ 25% ผสมวุ้นมะพร้าว เจาะกลุ่มเป้าหมายวัยเด็ก และกลุ่มเสริมอาหารบิวติ ช็อต สมาร์ท ช็อต  ฯลฯ  

นายอดิศักดิ์ กล่าวว่า ในระยะ 3 ปี บริษัทวางแผนขยายตลาดต่างประเทศเพิ่มจาก 35% เป็น 50%  จากปัจจุบันบริษัทส่งออกสินค้ากว่า 30 ประเทศ ส่วนตลาดในประเทศจาก 65% เป็น 50% เพื่อสร้างความสมดุลและลดความเสี่ยงในการดำเนินธุรกิจ แต่ปีนี้บริษัทให้ความสำคัญกับตลาดภายในประเทศ เนื่องจากมีอัตราการเติบโตเร็วกว่า ขณะที่ตลาดต่างประเทศการเติบโตชะลอตัวลง เพราะได้รับผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจถดถอย

ล่าสุด ได้เปิดตัวน้ำผลไม้ผสมเกล็ดผลไม้ภายใต้แบรนด์ “เชปเป้ จูซ มี” โดยเป็นน้ำผลไม้ 60% แตกต่างจากสินค้าในตลาดทั้งสแปลชและทวิสเตอร์ ซึ่งเป็นน้ำผลไม้ผสมเนื้อผลไม้ต่ำกว่า 20% ราคา 15-16 บาท ซึ่งมีด้วยกัน 2 รสชาติ ได้แก่ รสส้มแมนดาริน และส้มเช้ง ขนาด 300 มล.ราคา 20 บาท สูงกว่าคู่แข่ง 4-5 บาท สำหรับน้ำผลไม้เชปเป้ จูซมี เจาะกลุ่มเป้าหมายวัยรุ่น โดยนำร่องวางจำหน่ายผ่านมาร้านสะดวกซื้อ และอีก 3 เดือนวางจำหน่ายผ่านทางโมเดิร์นเทรด และภายในปีนี้เปิดตัวน้ำผลไม้ใหม่ 3 รสชาติ เพื่อสร้างความหลากหลายให้กับผู้บริโภค

สภาพตลาดน้ำผลไม้โดยรวมมูลค่า 7,500 ล้านบาท แม้ว่าปีนี้จะได้รับผลพวงจากวิกฤตเศรษฐกิจ มีการเติบโตเป็นตัวเลขหลักเดียว แต่ในช่วงที่ผ่านมาตลาดน้ำผลไม้ มีอัตราการเติบโตอย่างต่อเนื่อง สำหรับน้ำผลไม้ผสมเกล็ดผลไม้ เป็นการสร้างเซกเมนต์ย่อยในตลาดน้ำผลไม้ ซึ่งขณะนี้ตลาดกำลังเป็นที่จับตามอง จากการมีค่ายน้ำอัดลมอย่างโค้กและเป๊ปซี่เปิดตัวสินค้าดังกล่าวทั้งสแปลชและทวิสเตอร์ลงตลาด และล่าสุดบริษัททรัพย์ อนันต์ได้เปิดตัวเชปเป้ จูซ มี น้ำผลไม้ผสมเกล็ดผลไม้ ซึ่งบริษัทได้มีการพัฒนามาร่วมกว่า 3ปี  

นายอดิศักดิ์ กล่าวว่า การทำตลาดเชปเป้ จูซ มี ในช่วงแรกวางงบการตลาดไม่มากนัก โดยเน้นสื่อโฆษณา ณ จุดขาย เป็นหลัก เพื่อสร้างการรับรู้และกระตุ้นให้เกิดการซื้อสินค้า ณ จุดขาย เป็นหลัก อย่างไรก็ตาม ในช่วงแนะนำสินค้าบริษัทได้เตรียมทำโปรโมชัน ซึ่งขณะนี้กำลังอยู่ระหว่างการเจรจาทำโปรโมชันกับร้านค้าสะดวกซื้อในช่วงแรกบริษัทยังไม่ได้คาดหวังด้านยอดขายหรือส่วนแบ่งตลาด เนื่องจากเป็นตลาดใหม่ อย่างไรก็ตาม จากการดำเนินการตลาดเชิงรุกในสิ้นปีนี้ ผลประกอบการของบริษัทตั้งเป้ามีอัตราการเติบโต 53%
กำลังโหลดความคิดเห็น