สศค.เผย ศก.ไทย Q1/52 หดตัวลง 5% ต่ำสุดในรอบปี แต่ได้รับอานิสงส์มาตรการกระตุ้น ศก.พยุงผลกระทบ ทำให้การลงทุนและการบริโภคไม่หดตัวอย่างรุนแรง พร้อมแสดความเป็นห่วง ตัวแปรใหม่ๆ ทั้งการเมืองใต้ดิน ไข้หวัดเม็กซิโก อาจฉุดรั้งการขยายตัวทาง ศก.ครึ่งปีหลัง
สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) รายงานภาวะเศรษฐกิจไทยในไตรมาส 1 ปี 2552 หดตัวราว 5% โดยเชื่อว่าเป็นจุดต่ำสุดของปีนี้แล้ว เพราะเริ่มเห็นสัญญาณการส่งออกที่ดีขึ้นหลายกลุ่มสินค้าในเดือนมีนาคม 2552
พร้อมกันนี้ ยังระบุว่า มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐ ได้มีบทบาทสำคัญในการขยายตัวของเศรษฐกิจไทยในไตรมาส 1 ปี 2552 ซึ่งเป็นช่วงที่การใช้จ่ายเอกชน ทั้งการบริโภคและการลงทุนหดตัวลงอย่างมาก
ขณะที่ภาคการส่งออกที่หดตัวมาตลอดทั้งไตรมาส แต่ในเดือนมีนาคม 2552 พบว่า เริ่มมีสัญญาณที่ดีขึ้นในบางกลุ่มสินค้า โดยเฉพาะอุตสาหกรรมเกษตร เครื่องใช้ไฟฟ้า อิเล็คทรอนิคส์ ที่ส่งออกไปยัง จีน แอฟริกา ตะวันออกกลาง ด้านการนำเข้าที่ลดลงมากจากอุปสงค์ในประเทศที่หดตัวรุนแรงกว่า
อย่างไรก็ตาม ไทยยังมีความเสี่ยงจากอัตราการว่างงานที่สูงขึ้น ซึ่งไตรมาส 1 ปี 2552 อยู่ที่ 2.1% เมื่อเทียบกำลังแรงงาน จากไตรมาส 4 ปี 2551 อัตราการว่างงานอยู่ที่ 1.3%
สศค.ยังกังวลว่า ในเดือนเมษายน 2552 มีปัจจัยใหม่ๆ เข้ามาเพิ่มเติม ทั้งเหตุการณ์ความวุ่นวายจากการชุมนุมทางการเมือง และการแพร่ระบาดของไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์เม็กซิโก ซึ่ง สศค.ก็จะนำปัจจัยดังกล่าวไปพิจารณาในการทบทวนประมาณการอัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจ (GDP) ของไทยในปี 2552 ที่จะมีขึ้นในเดือนมิถุนายน 2552 นี้ จากที่ปัจจุบันที่คาดว่าจะติดลบราว 2-3%
นายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาส ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านเศรษฐกิจมหภาค ในฐานะโฆษก สศค. เปิดเผยว่า สถานการณ์ทางเศรษฐกิจของไทย เริ่มมีสัญญาณที่ดีขึ้นในเดือนมีนาคม 2552 เมื่อเทียบจากเดือนก่อนหน้า โดยภาคการส่งออกมีสัญญาณการปรับตัวดีขึ้นในหลายกลุ่มอุตสาหกรรม ทั้งอุตสาหกรรมเกษตร เครื่องใช้ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิคส์ ที่ส่งออกไปยังประเทศจีน แอฟริกา และประเทศตะวันออกกลาง ซึ่งจำเป็นต้องเร่งการส่งออกในตลาดเหล่านี้มากขึ้น
นอกจากนี้ พบว่า จากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาล ทั้งการเร่งรัดการเบิกจ่ายเงินงบประมาณที่พบว่าไตรมาส 1 ปี 2552 รัฐบาลมีการเบิกจ่ายงบประมาณได้ถึง 567,400 ล้านบาท เป็นการเบิกจ่ายงบประจำถึง 44.7% และเบิกจ่ายงบลงทุน 30.4% และมีการเบิกจ่ายงบกลางปีเพื่อใช้ในโครงการเพิ่มค่าครองชีพให้ผู้มีรายได้น้อย (เช็คช่วยชาติ) โครงการเรียนฟรี 15 ปี ดังนั้น รัฐบาลจำเป็นต้องดำเนินการเร่งรัดการเบิกจ่ายเงินงบประมาณอย่างต่อเนื่อง
โฆษก สศค.ยังประเมินว่า เศรษฐกิจไทยไตรมาส 1 ปี 2552 น่าจะติดลบ 5% ซึ่งเป็นจุดต่ำสุดของปี เป็นการหดตัวต่อเนื่องจากไตรมาส 4 ปี 2551 ที่ติดลบ 4.3% แต่คาดว่าไตรมาส 2 ปี 2552 เศรษฐกิจจะเริ่มปรับตัวดีขึ้น และจะดีขึ้นต่อเนื่องไปในไตรมาสต่อๆ ไป แต่คงต้องดูตัวแปรใหม่ๆ ที่เข้ามาด้วย
“แม้จะมีสัญญาที่ดีขึ้นในไตรมาส 2 แต่เราก็ต้องติดตามสถานการณ์ต่างๆ ที่แปรปรวนได้ตลอด สัญญาณที่ดีขึ้น แต่ไม่ใช่เราจะพอใจแค่นี้ คงต้องยอมรับว่า ตอนนี้เศรษฐกิจไทย ก็เหมือนมีขอนไม้ที่กำลังอยู่ท่ามกลางน้ำเชี่ยวจะดูว่าขอนไม้นี้จะช่วยเราได้มากน้อยแค่ไหน”
สำหรับการระบาดของโรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่จากเม็กซิโกนั้น นายเอกนิติ ยอมรับว่า มีผลกระทบต่อทั่วโลก เพราะทำให้ประชาชนตื่นกลัว ลดการเดินทางและท่องเที่ยว แต่ท่ามกลางวิกฤติเราสามารถแปลงเป็นโอกาสได้ โดยไทยซึ่งอยู่ในพื้นที่ที่ห้างไกลจากแหล่งระบาดของโลกค่อนข้างมากอยู่แล้ว ต้องควบคุมป้องกันดูแลไม่ให้มีโรคระบาดในไทย ซึ่งจะช่วยทำให้ไทยมีความน่าสนใจมากขึ้น
อีกทั้งไทยและประเทศในเอเชีย มีประสบการณ์ในการควบคุม ป้องกันการระบาดของโรคซาร์ส และไข้หวัดนก มาก่อนหน้านี้แล้ว และมีการบริหารจัดการที่ดีกว่าประเทศในยุโรป และฝั่งอเมริกา ดังนั้น หากไทยสามารถดึงนักท่องเที่ยวจากเอเชียที่มีกำลังซื้อสูงหันมาท่องเที่ยวในไทยจะช่วยเพิ่มรายได้มากขึ้น
“หากเราดูแลให้ดี ไม่ให้มีโรคระบาดในประเทศ ก็น่าจะดึงความน่าสนใจได้มากขึ้น โดยเฉพาะให้คนเอเชียหันมาเที่ยวในเอเชี แทนที่จะไปยุโรป หรืออเมริกา ซึ่งจะพลิกวิกฤตเป็นโอกาส สร้างรายได้เข้าประเทศได้มากขึ้น” นายเอกนิติ กล่าวสรุปทิ้งท้าย