สภาพัฒน์เตือนรัฐแก้ปัญหาสังคมควบคู่เศรษฐกิจ ชี้ครึ่งปีแรกรายได้และกำลังซื้อของผู้บริโภคลดลง หลังเกิดเงินฝืดช่วงสั้น
รายงานข่าวจากทำเนียบรัฐบาล แจ้งว่า สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) ได้สรุปภาวะสังคมประจำเดือนม.ค. 52 โดยระบุว่า อัตราเงินเฟ้อในปี52 จะอยู่ในระดับต่ำเนื่องจากราคาน้ำมันลดลงต่ำกว่าช่วงครึ่งแรกของปี51 มาก ทำให้ต้นทุนการผลิตลดลง ประกอบกับภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัว รายได้และกำลังซื้อของผู้บริโภคลดลง ส่งผลต่อความต้องการสินค้าอ่อนตัวลง การปรับขึ้นราคาจึงเป็นไปได้ยาก และเมื่อเทียบกับดัชนีราคาในช่วงครึ่งแรกของปี51 ที่สูงขึ้นมาก จึงเป็นไปได้ที่อาจเกิดภาวะเงินฝืดในช่วงสั้นๆ ในช่วงครึ่งแรกของปีนี้
อย่างไรก็ตาม แรงกดดันด้านค่าครองชีพลดลง แต่มีความเสี่ยงด้านรายได้เพิ่มขึ้น เพราะการจ้างงานในภาคอุตสาหกรรมการผลิตลดลง และมีแนวโน้มอัตราว่างงานสูงขึ้น จากข้อมูลล่าสุดของกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงานในช่วงระหว่างวันที่ 1-26 ม.ค.52 พบว่า มีลูกจ้างที่ถูกเลิกจ้าง 2,864 คน และสถานประกอบการที่มีแนวโน้มการเลิกจ้าง 104 แห่ง มีลูกจ้างรวม 68,179 คน คาดว่าจะถูกเลิกจ้าง 18,983 คน ที่เหลืออีกเกือบ 40,000 คนจะได้รับผลกระทบในระดับต่างๆ กัน เช่น ลดชั่วโมงการทำงาน ลดค่าจ้าง และผลประโยชน์อื่นๆ ซึ่งอาจกระทบต่อมาตรฐานการครองชีพของลูกจ้าง โดยเฉพาะกลุ่มรายได้น้อย
ทั้งนี้ปัญหาการว่างงาน รายได้ที่ฝืดเคือง และค่าครองชีพสูง เป็นปัจจัยสำคัญหนึ่งที่ทำให้ธุรกิจค้ายาขยายตัว เนื่องจากผู้ที่หาทางออกไม่ได้บางรายหันไปเป็นผู้ค้ายารายย่อย เพราะเห็นว่าสร้างรายได้มากในเวลารวดเร็ว คุ้มค่าการเสี่ยง ดังนั้น การเร่งรณรงค์และปราบปราม ต้องได้รับความร่วมมือทุกภาคส่วน ไม่ว่าภาคเอกชน ภาคประชาชน ที่รู้ข้อมูลและสถานการณ์ในพื้นที่ได้ใกล้ชิดและรวดเร็วกว่าเจ้าหน้าที่จึงจะสามารถสร้างสังคม และประเทศที่ปลอดสารเสพติดได้
ภาพรวมของคดียาเสพติดในปี 51 สามารถปราบปรามและจับกุมได้มากกว่าปีก่อนอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดเดือนธ.ค. 51 สามารถจับกุมคดียาเสพติดได้ถึง 19,981 ราย เพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนหน้า 38% ขณะที่คดีชีวิต ร่างกาย และเพศ เพิ่มขึ้นจาก 2,662 คดีในเดือนก่อนหน้าเป็น 2,836 คดี ในเดือนธ.ค.51 หรือเพิ่มขึ้น 6.5% ส่วนคดีประทุษร้ายต่อทรัพย์เพิ่มขึ้นจาก 5,013 คดีในเดือนพ.ย. เป็น5,842 คดี หรือเพิ่มขึ้น16.5% เป็นต้น
รายงานข่าวจากทำเนียบรัฐบาล แจ้งว่า สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) ได้สรุปภาวะสังคมประจำเดือนม.ค. 52 โดยระบุว่า อัตราเงินเฟ้อในปี52 จะอยู่ในระดับต่ำเนื่องจากราคาน้ำมันลดลงต่ำกว่าช่วงครึ่งแรกของปี51 มาก ทำให้ต้นทุนการผลิตลดลง ประกอบกับภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัว รายได้และกำลังซื้อของผู้บริโภคลดลง ส่งผลต่อความต้องการสินค้าอ่อนตัวลง การปรับขึ้นราคาจึงเป็นไปได้ยาก และเมื่อเทียบกับดัชนีราคาในช่วงครึ่งแรกของปี51 ที่สูงขึ้นมาก จึงเป็นไปได้ที่อาจเกิดภาวะเงินฝืดในช่วงสั้นๆ ในช่วงครึ่งแรกของปีนี้
อย่างไรก็ตาม แรงกดดันด้านค่าครองชีพลดลง แต่มีความเสี่ยงด้านรายได้เพิ่มขึ้น เพราะการจ้างงานในภาคอุตสาหกรรมการผลิตลดลง และมีแนวโน้มอัตราว่างงานสูงขึ้น จากข้อมูลล่าสุดของกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงานในช่วงระหว่างวันที่ 1-26 ม.ค.52 พบว่า มีลูกจ้างที่ถูกเลิกจ้าง 2,864 คน และสถานประกอบการที่มีแนวโน้มการเลิกจ้าง 104 แห่ง มีลูกจ้างรวม 68,179 คน คาดว่าจะถูกเลิกจ้าง 18,983 คน ที่เหลืออีกเกือบ 40,000 คนจะได้รับผลกระทบในระดับต่างๆ กัน เช่น ลดชั่วโมงการทำงาน ลดค่าจ้าง และผลประโยชน์อื่นๆ ซึ่งอาจกระทบต่อมาตรฐานการครองชีพของลูกจ้าง โดยเฉพาะกลุ่มรายได้น้อย
ทั้งนี้ปัญหาการว่างงาน รายได้ที่ฝืดเคือง และค่าครองชีพสูง เป็นปัจจัยสำคัญหนึ่งที่ทำให้ธุรกิจค้ายาขยายตัว เนื่องจากผู้ที่หาทางออกไม่ได้บางรายหันไปเป็นผู้ค้ายารายย่อย เพราะเห็นว่าสร้างรายได้มากในเวลารวดเร็ว คุ้มค่าการเสี่ยง ดังนั้น การเร่งรณรงค์และปราบปราม ต้องได้รับความร่วมมือทุกภาคส่วน ไม่ว่าภาคเอกชน ภาคประชาชน ที่รู้ข้อมูลและสถานการณ์ในพื้นที่ได้ใกล้ชิดและรวดเร็วกว่าเจ้าหน้าที่จึงจะสามารถสร้างสังคม และประเทศที่ปลอดสารเสพติดได้
ภาพรวมของคดียาเสพติดในปี 51 สามารถปราบปรามและจับกุมได้มากกว่าปีก่อนอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดเดือนธ.ค. 51 สามารถจับกุมคดียาเสพติดได้ถึง 19,981 ราย เพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนหน้า 38% ขณะที่คดีชีวิต ร่างกาย และเพศ เพิ่มขึ้นจาก 2,662 คดีในเดือนก่อนหน้าเป็น 2,836 คดี ในเดือนธ.ค.51 หรือเพิ่มขึ้น 6.5% ส่วนคดีประทุษร้ายต่อทรัพย์เพิ่มขึ้นจาก 5,013 คดีในเดือนพ.ย. เป็น5,842 คดี หรือเพิ่มขึ้น16.5% เป็นต้น