xs
xsm
sm
md
lg

“ฟิทช์” หั่นเครดิต 4 แบงก์ไทย เตือนจุดเสี่ยงจีดีพีหดตัวแรงกว่า 3.8%

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


“ฟิทช์” หั่นเครดิตธนาคารไทยอีก 4 แห่ง ทั้ง กรุงไทย ธสน. สแตนดาร์ดฯ และ ยูโอบี หลังหั่นสกุลเงินต่างประเทศระยะยาวของไทย ขณะที่ 5 แบงก์ใหญ่ ยังไม่สะเทือน พร้อมเตือนหากเศรษฐกิจไทยหดตัวแรงกว่า 3.8% อาจส่งผลต่อการดำเนินธุรกิจของแบงก์ได้

รายงานข่าวจาก ฟิทช์ เรทติ้งส์ เปิดเผยว่า ได้ประกาศปรับลดอันดับเครดิตสากลของธนาคารไทย 4 แห่ง ประกอบด้วย ธนาคารกรุงไทย ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย (ธสน.) หรือ เอ็กซิมแบงก์ ธนาคารสแตนดาร์ดชาร์เตอร์ด (ไทย) และ ธนาคารยูโอบี พร้อมทั้งได้ทบทวนแนวโน้มสู่ระดับมีเสถียรภาพ จากเดิมที่ระดับลบ ซึ่งการประกาศลดอันดับครั้งนี้เป็นผลจากการที่ฟิทช์ได้ปรับลดอันดับเครดิตสากลสกุลเงินต่างประเทศและอันดับเครดิตสากลสกุลเงินในประเทศระยะยาวของประเทศไทยเป็น BBB จากเดิม BBB+ และเป็น A- จากเดิม A พร้อมทั้งปรับแนวโน้มอันดับเครดิตของประเทศไทยเป็นมีเสถียรภาพ จากแนวโน้มอันดับเครดิตเป็นลบ

นอกจากนี้ ฟิทช์ ยังได้ปรับลดอันดับเครดิตสากลสกุลเงินต่างประเทศระยะสั้นของประเทศไทยเป็น F 3 จากเดิม F 2 และปรับลดเครดิตประเทศไทยเป็น BBB+ จากเดิม A- ทั้งนี้ การที่ฟิทช์ประกาศทบทวนแนวโน้มความน่าเชื่อถือของไทยเป็นมีเสถียรภาพ จากเดิมเป็นลบ และการลดอันดับเครดิตสากลของธนาคารกรุงไทย และ ธสน.สะท้อนถึงการอ่อนแอลงของความสามารถของรัฐบาลที่จะให้การสนับสนุนแก่ธนาคารทั้ง 2 แห่ง หากมีความจำเป็น โดยกองทุนเพื่อการฟื้นฟูและพัฒนาสถาบันการเงินที่จัดตั้งโดยธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ถือหุ้นธนาคารกรุงไทย ในสัดส่วนร้อยละ 55 ขณะที่กระทรวงการคลังถือหุ้นทั้งหมดใน ธสน.

ส่วนการปรับลดอันดับเครดิตสากลของธนาคารสแตนดาร์ดชาร์เตอร์ด (ไทย) และธนาคารยูโอบี เป็นผลมาจากการปรับลดเครดิตของประเทศไทย โดยได้พิจารณาถึงความเสี่ยงด้านการโอนเงินออกนอกประเทศ และการแลกเปลี่ยนสกุลเงินในประเทศเป็นสกุลเงินต่างประเทศ และจำกัดระดับของการสนับสนุนจากบริษัทแม่ที่อยู่ในต่างประเทศที่มีต่อธนาคารไทยที่เป็นบริษัทลูก ที่สะท้อนอยู่ในอันดับเครดิตสากลระยะยาวของบริษัทลูก

ส่วนอันดับเครดิตสากลของธนาคารเอกชน 5 แห่ง ซึ่งรวมถึงธนาคารกรุงเทพ ธนาคารไทยพาณิชย์ ธนาคารกสิกรไทย ธนาคารกรุงศรีอยุธยา และธนาคารทหารไทย ไม่ได้รับผลกระทบจากการปรับลดอันดับเครดิตของประเทศ เนื่องจากอันดับเครดิตของธนาคาร 5 แห่ง มีปัจจัยหลักมาจากความแข็งแกร่งทางการเงินของตัวธนาคารเอง อย่างไรก็ตาม การที่เศรษฐกิจหดตัวลงรุนแรง ฟิทช์ประมาณการว่า ปีนี้เศรษฐกิจไทยจะติดลบร้อยละ 3.8 และอาจส่งผลกระทบต่อผลการดำเนินงานของธนาคารในอีก 2 ปีข้างหน้า ดังนั้น แนวโน้มอันดับเครดิตสากลของธนาคารเอกชนทั้ง 5 แห่งจึงยังเป็นลบอยู่ การถือหุ้นและการควบคุมของรัฐบาลในธนาคารเอกชนอยู่ในระดับที่จำกัด และธนาคารเอกชนมีการลงทุนในตราสารของรัฐบาลไทย รวมทั้งมีการปล่อยสินเชื่อให้รัฐบาลรวมกันในสัดส่วนที่ต่ำกว่าร้อยละ 20 ของสินทรัพย์ ซึ่งเป็นระดับที่ไม่สูงนัก
กำลังโหลดความคิดเห็น