โบรกฯ คาดจีดีพีปีนี้ติดลบ เล็งหั่นเป้าดัชนีตลาดหุ้นไทยลงอีก 5-10% จากเป้าหมายเดิมอยู่ที่ 547 จุด โดยให้น้ำหนักปัจจัยเศรษฐกิจทรุด-ส่งออกติดลบ
นายสมบัติ นราวุฒิชัย เลขาธิการสมาคมนักวิเคราะห์หลักทรัพย์ เปิดเผยว่า ต้นเดือนมีนาคม 2552 นี้ สมาคมนักวิเคราะห์หลักทรัพย์ จะส่งแบบสำรวจความคิดเห็นนักวิเคราะห์ เพื่อปรับเป้าหมายดัชนีหุ้นไทยสิ้นปี 2552 ใหม่ และประเมินปัจจัยบวกปัจจัยลบที่มีผลต่อการลงทุน รวมทั้งสถานการณ์ภาวะเศรษฐกิจไทยล่าสุด ซึ่งการประเมินเมื่อเดือนธันวาคม 2551
ทางสมาคมฯ คาดการณ์ว่าเศรษฐกิจไทยในปีนี้ขยายตัวร้อยละ 0.7 และดัชนีหุ้นไทยสิ้นปีนี้อยู่ที่ 547 จุด แต่หลังจากที่หน่วยงานด้านเศรษฐกิจได้ปรับลดอัตราการขยายตัวเศรษฐกิจไทยใน 2552 ว่ามีโอกาสที่จะติดลบสูง ทำให้ทางสมาคมฯ ต้องมีการปรับข้อมูลทางเศรษฐกิจใหม่
ทั้งนี้ ได้เห็นสอดคล้องกันว่า เศรษฐกิจไทยแย่กว่าที่คิดและมีแนวโน้มติดลบแน่นอน โดยเฉพาะไตรมาส 1 ที่คาดว่าจะติดลบมาก เนื่องจากตัวเลขการส่งออกในเดือนมกราคมที่ผ่านมาหดตัวลงถึงร้อยละ 26.5 ซึ่งมีผลทำให้ต้องลดเป้าหมายดัชนีหุ้นไทยลงประมาณร้อยละ 5-10 จากเป้าหมายเดิมที่ 547 จุด เพราะภาวะเศรษฐกิจมีส่วนสำคัญมากต่อการลงทุนในตลาดหุ้นไทย หากเศรษฐกิจหดตัวก็จะทำให้นักลงทุนขาดความมั่นใจและชะลอการลงทุนต่อเนื่อง
“ในการสำรวจความเห็นนักวิเคราะห์หลักทรัพย์ในเดือนมีนาคมนี้ มั่นใจว่าจะต้องมีการปรับเป้าหมายดัชนีหุ้นไทยลงมาประมาณร้อยละ 5-10 เพราะภาวะเศรษฐกิจไทยแย่ลงกว่าที่คาดไว้ หลังจากจีดีพีไตรมาส 4 ปี 2551 ออกมาติดลบถึงร้อยละ 4.3 ซึ่งเมื่อเศรษฐกิจอ่อนล้า ก็จะทำให้นักลงทุนหยุดนิ่งมูลค่าการซื้อขายก็จะเบาบางลงไปอีก และนักวิเคราะห์เริ่มมองว่าดัชนีอาจจะลงมาเคลื่อนไหวระหว่าง 380-360 จุด อย่างไรก็ตาม หากเศรษฐกิจไทยฟื้นตัวได้ในไตรมาส 4 ดัชนีก็มีโอกาสที่จะฟื้นตัวขึ้นได้”
นายสมบัติ กล่าวถึงอัตราการจ่ายเงินปันผลของบริษัทจดทะเบียนสำหรับกำไรรอบปี 2551 โดยเชื่อว่า ไม่ค่อยสดใส บริษัทส่วนใหญ่ลดอัตราการจ่ายปันผล ซึ่งก็มีผลทำให้ราคาหุ้นของบริษัทลดลงตามไปด้วย แต่เชื่อว่ากำไรของบริษัทในรอบปี 2552 ซึ่งจะจ่ายในเดือนมีนาคม 2553 จะดีขึ้น เพราะเชื่อว่าบริษัทจดทะเบียนสามารถปรับตัวเพื่อรับมือกับการชะลอตัวของเศรษฐกิจได้และมีโอกาสที่เศรษฐกิจไทยจะฟื้นตัวจากนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาล และอัตราดอกเบี้ยที่อยู่ในระดับต่ำ