xs
xsm
sm
md
lg

“ชาลอต”ปฎิเสธเขี่ย“ไตรภพ” โขกโฆษณาข่าวสูงสุด3แสน

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

“ชาลอต” บอสใหญ่มีเดียออฟมีเดียส์ปฎิเสธลั่นไม่ได้เขี่ย “ไตรภพ” หลุดผังช่อง 7 ยอมรับได้เวลาใหม่ไพร์มไทม์ เหตุนำเสนอรายการข่าวที่ตลาดต้องการ แต่ช่อง 7 เพิ่งอนุมัติครั้งนี้ มั่นใจรายการใหม่ “ประเด็นเด็ด 7 สี” จะทำเงินได้ 100 ล้านบาทปีนี้

นางชาลอต โทณวณิก ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท มีเดีย ออฟ มีเดียส์ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยถึงกระแสข่าวที่ว่า บริษัทมีเดียฯร่วมมือกับทางบริษัท เวิร์คพ้อยท์ เอนเตอร์เทนเม้นท์ จำกัด (มหาชน) ในการเปลี่ยนแปลงเวลาการออกอากาศของรายการชิงร้อยชิงล้านไปเป็นวันอังคารเพื่อเขี่ยรายการคลับเซเว่นของบริษัท บอร์น ออปเปอเรชั่น จำกัด ของนายไตรภพ ลิมปพัทธ์ พ้นจากผังช่อง 7 ว่า  
“ขอปฎิเสธว่าข่าวดังกล่าวไม่เป็นความจริง บริษัทฯไม่มีการร่วมมือกับเวิร์คพ้อยท์ทำเช่นนั้น”

อย่างไรก็ตาม ยอมรับว่าบริษัทฯได้เวลาใหม่เพิ่มจากทางช่อง 7 คือเวลา 22.30-23.00 น. ทุกวันจันทร์-ศุกร์ (ยกเว้นวันอังคาร) หรือประมาณ 107 นาทีต่อสัปดาห์ ส่งผลให้มีเวลาในช่อง 7 รวมทั้งสิ้น  905 นาทีต่อสัปดาห์ จากเดิมอยู่ที่ 798 นาทีต่อสัปดาห์

“เวลาใหม่ที่ได้รวมทั้งรายการใหม่นี้ เราได้เคยนำเสนอให้กับช่อง 7 ไปก่อนหน้านี้แล้ว แต่ว่าตอนนั้นทางช่อง 7 ไม่สนใจ แต่พอตอนนี้ที่ช่อง 7 ได้เวลากลับคืนมา ก็เสนอรายการข่าว ประเด็นเด็ด 7 สี ไปอีก ตกลงช่อง 7 เอา เราไม่ได้ร่วมกับเวิร์คพ้อยท์แย่งเวลาเลย”

สาเหตุที่ช่อง 7 รับรายการนี้ของบริษัทฯซึ่งจะเริ่มออกอากาศวันที่ 4 พฤษภาคมนี้ นางชาลอตมองว่า อาจจะเป็นเพราะว่าช่วงนี้ปัญหาการเมืองไทยก็ยังไม่นิ่ง ภาวะเศรษฐกิจก็ยังแย่ รวมทั้งปัญหาของโลก ที่เศรษฐกิจ การเงินแย่ด้วย ส่งผลให้ผู้บริโภคต้องการรับรู้ข่าวสารมากขึ้น เพื่อติดตามข้อมูลต่างๆที่เป็นประโยชน์ ที่เกี่ยวข้องกับชีวิตประจำวัน ทำให้รายการข่าวยังน่าสนใจ และมั่นใจว่าปีนี้ยังคงเป็นปีของรายการข่าวอีกแน่นอน จากแนวโน้มดังกล่าวบริษัทฯจึงนำเสนอรายการข่าวนี้ให้ช่อง 7 พิจารณา และได้รับอนุมัติ ซึ่งเป็นไพร์มไทม์ด้วย  หลังจากจบละคร ซึ่งช่อง 7 ลดราคาค่าเวลาให้ 25%

รายการนี้ตั้งค่าโฆษณาไว้ที่  300,000 บาทต่อนาที ซึ่งนางชาลอตย้ำว่า เป็นราคาที่ถือได้ว่าสูงที่สุดในรายการประเภทข่าวในช่องอื่นๆของอุตสาหกรรมนี้  และย้ำว่าปัจจุบันมีสปอนเซอร์ตอบรับโฆษณาเรียบร้อยหมดแล้ว ซึ่งมั่นใจว่าเฉพาะรายการนี้รายการเดียวบริษัทฯจะมีรายได้เพิ่มขึ้นกว่า 100 ล้านบาท ภายในช่วงเวลา 8 เดือนที่เหลือจากนี้

โดยปีนี้บริษัทฯตั้งเป้าหมายรายได้จากการโฆษณาในปีนี้เติบโตที่ 10% หรือมีรายได้ 870 ล้านบาท จากปีที่แล้วที่มีรายได้รวมกว่า 792 ล้านบาท  ขณะที่ไตรมาสแรกปีนี้มีกำไรแล้ว 27 ล้านบาท (ถ้ารวมบริษัทในเครือมีกำไร 33 ล้านบาท)  ส่วนปี 2550 มีรายได้ 725 ล้านบาท และปี 2549 มีรายได้ 656 ล้านบาท ซึ่งช่วง 3 ปีที่ผ่านมาบริษัทฯมีการเติบโตเฉลี่ย 10% ต่อปี และมีสัดส่วนรายได้จากเคเบิลทีวี 10%

นอกจากนั้นแล้วในปีนี้ยังมีแผนที่จะผลิตรายการใหม่ประเภทวาไรตี้อีก 2 รายการ และละครอีก 1-2 เรื่อง  ซึ่งเสนอให้กับช่องอื่นด้วย รวมทั้งหมดปัจจุบันบริษัทฯมีรายการที่ออกอากาศแล้ว 7 รายการทางฟรีทีวี และ 1 รายการทางเคเบิล
ปีนี้ยังได้ลงทุนประมาณ 50 ล้านบาท ในการซื้อวิดีโอวอลล์และอุปกรณ์ถ่ายทำจากต่างประเทศ ซึ่งเป็นเทคโนโลยีใหม่ในการนำเสนอ รุ่นใหม่ล่าสุด Zero Group Interactive จากต่างประเทศ
กำลังโหลดความคิดเห็น