"สาระแน" ขอขมา "หม่ำ" ยันไม่ได้โปรโมต แต่เตรียมเปิดตัววันที่ 1 เม.ย. ด้านตลกชื่อดังบอกให้อภัยแล้ว แต่ทำงงไม่รู้ว่าเป็นหนังของสหมงคลฯ ทั้งที่ตัวเองเป็นคนแนะนำให้ไปทำกับค่ายดังกล่าว
หลังจากไปแกล้งตลกชื่อดัง "หม่ำ จ๊กมก" ด้วยการหลอกให้ไปถ่ายโฆษณาเมาไม่ขับ แล้วให้นั่งรถแท็กซี่ฝ่าถังแก๊สระเบิดนับ 10 ถัง สุดท้ายมาเฉลยว่าเป็นแค่การจัดฉากของรายการ "สาระแน" จนตลกชื่อดังออกมาโวยด้วยความไม่พอใจ พร้อมขู่จะฟ้องหากไม่ออกมารับผิดชอบ
ล่าสุดวันนี้(25 มี.ค.) 3 พิธีกรรายการดังกล่าว ประกอบด้วย วิลลี่ แมคอินทอช, เปิ้ล นาคร ศิลาชัย และ หอย เกียรติศักดิ์ อุดมนาค ก็ได้นำดอกไม้ธูปเทียนแพมาขอขมาตลกชื่อดัง ที่ บริษัทเวิร์คพ้อยท์ ระหว่างที่เจ้าตัวมาอัดราย "การชิงร้อยชิงล้าน" ซึ่งในขณะที่ 3 พิธีกรได้จัดเตรียมพานดอกไม้ ตลกชื่อดังก็ได้อยู่อีกห้องหนึ่ง โดยทางทีมงานได้เซ็ตฉากหลัง ด้วยการนำโปสเตอร์ หม่ำ ออน สเตจ มาแปะไว้ที่ฝาผนัง โดยมีหม่ำยืนดู
ต่อจากนั้นพิธีกรรายการสาระแนทั้ง 3 คน จึงได้นำดอกไม้ธูปเทียนแพที่เตรียมไว้มาขอโทษ พร้อมกับเปิดโอกาสให้ผู้สื่อข่าวสัมภาษณ์ และในระหว่างให้สัมภาษณ์ทั้ง 3 พิธีกรก็พยายามเอาใจตลกดัง ด้วยการชงเรื่องโชว์ "หม่ำ ออน สเตจ" ที่กำลังจะมีขึ้นเร็วๆ นี้ แถมยังแหย่กันไปมาอย่างอารมณ์ดี
หม่ำ : “ก็บอกแล้วว่าไม่ได้โกรธอะไร แค่งอนเฉยๆ แต่ถ้าเป็นเรื่องหนังผมก็ต้องขอดูก่อนล่ะ เพราะว่ามีหลายฉากที่ระเบิดอารมณ์เยอะไป มันก็ดูไม่ดี (หันไปถามหอย) เห็นอารมณ์พี่แล้วใช่มั้ย มันค่อนข้างรุนแรงเกินไปนะ"
เปิ้ล : “เราก็ไม่ได้คิดว่าพี่หม่ำจะโกรธขนาดนี้ไง”
หม่ำ : “(หันไปหาเปิ้ล) อย่าพูดแบบนั้นสิ...”
ผู้สื่อข่าวถามถึงข้อสรุปว่าเป็นอย่างไรกันแน่ เพราะก่อนหน้านี้ที่ให้สัมภาษณ์ หม่ำยืนยันด้วยตัวเองว่า ยังไงก็ไม่ให้เอาฉากที่ตนโดนแกล้งออกฉาย แล้วมาวันนี้กลับบอกคำเดียวว่าขอดูก่อน ซึ่งการพูดกลับไปกลับมาแบบนี้ กลัวคนจะหาว่าเป็นการโปรโมตหรือไม่ กับเรื่องนี้ทุกคนชี้แจงว่า.....
เปิ้ล : “คือผมดูในฉบับที่ตัดต่อแล้ว พี่หม่ำด่าได้น่ารักมากเลยครับ เวลาจะด่าเขาก็ยังน่ารักนะ”
หม่ำ : “ยังไงก็ต้องขอดูก่อนน่ะ เห็นบอกว่ามันไม่ได้เลวร้ายอะไรมาก ผมไม่รู้ว่าเขาตัดต่อยังไงด้วยไง ถ้าทำดีๆ มันก็ไม่มีปัญหาไง ก็ต้องขอดูก่อนใช่มั้ย คือก่อนวันนั้นผมยอมรับเลยว่าระเบิดอารมณ์มาก ไม่ขอเป็นพี่เป็นน้องกับพวกมันแล้ว 3 คนนั้นก็รู้ดี เห็นขาผมจะรู้เลย ขาผมสั่นแบบนั้น มันยังมีหน้ามายิ้มกันอีกนะ ผมก็หันไปด่ามัน ไม่ต้องมายิ้มเลยไอ้เปิ้ล มันคล้ายๆ กับว่าจิตผมออกจากร่างไปแล้ว มันสนุกสนานกัน แต่ว่าผมสิไม่ตลกด้วย ก็ไม่รู้เหมือนกัน ตอนนี้ก็ยังไม่มีใครมาคุยเป็นคนกลางไกล่เกลี่ยอะไรให้”
เปิ้ล : “อ้าว ไหนว่าเสี่ยจะเคลียร์ให้ไง”
หม่ำ : “ไม่รู้ล่ะ ถ้าจะคุยก็ค่อยมาว่ากันอีกที”
เปิ้ล : “แล้วพี่หายโกรธยังล่ะ”
หม่ำ : “หายแล้วๆ พี่บอกสื่อไปแล้วว่าไม่ได้โกรธ แค่งอนเฉยๆ ตามบทสัมภาษณ์น่ะ”
เปิ้ล : “ถ้าอย่างนั้นพี่หายงอนรึยังล่ะ”
หม่ำ : “ก็ดีขึ้นนะ น่าจะมาตั้งนานแล้ว”
แจงที่ปล่อยให้เรื่องผ่านไปเนิ่นนาน ไม่ยอมมาขอโทษเพราะอยากรอให้ตลกชื่อดังอารมณ์เย็นลงก่อน อีกทั้งเชื่อว่าคงไม่โกรธนาน
เปิ้ล : “ตัดสินใจตั้งแต่วินาทีแรกแล้วที่พี่โดน แล้วเราก็รอคำนวณอารมณ์พี่หม่ำเขา ไม่คิดเลยว่าจะโกรธถึงขนาดนี้ ผมกับหอยนี่วิ่งแล้วนะ กะว่าจะไปขอโทษพี่เขา แล้วมีวันนึงโทรไปขอโทษเขา ปกติพี่หม่ำเขาไม่ค่อยรับสายอยู่แล้ว แต่เขาก็รับ สาดมาในโทรศัพท์สายแทบไหม้ไปเลย แต่ผมมีความเชื่ออยู่อย่างหนึ่งที่ว่าพี่หม่ำน่ารักมาก เขาไม่โกรธเรานานหรอก”
หม่ำ : “จริงๆ คุณวิลลี่โทร.หาผมแล้ว และผมก็บอกว่าผมไม่ได้โกรธ แค่งอนเฉยๆ วันนี้ที่เขามาขอโทษเพราะเขาก็รู้ว่าผมต้องมาอัดรายการชิงร้อยชิงล้าน”
เปิ้ล : “ขอบัตรฟรีไปดูหม่ำโชว์ได้ป่าว”
หม่ำ : “ไม่ครับ งานนี้จะดูต้องเสียตังค์ ถ้าคุณจะดูหม่ำ ออน สเตจ คุณต้องเสียตังค์ แล้วถ้าผมให้คุณขึ้น คุณก็ต้องขึ้นด้วย นี่ แล้วค่าตัวผมที่ไปออกรายการคุณ ผมยังไม่เรียกเลย”
เนื่องจากหนังดังกล่าวมีกำหนดใกล้จะเข้าฉายเต็มที งานนี้จึงเลี่ยงไม่ได้ที่จะถูกมองว่าเป็นแผนโปรโมตหนัง ซึ่งกับเรื่องนี้ตลกชื่อดังออกตัว ไม่รู้ว่าจะเอาไปออกในหนัง คิดว่าเป็นของรายการสาระแนมากกว่า
หม่ำ : “หนังกำลังจะเข้าฉายแล้ว แต่บอกก่อนนะ ว่าผมไม่รู้เรื่องหนัง ผมนึกว่าที่ไปออกนี่เป็นสาระแนนะ ไม่เกี่ยวกัน จะทำอะไรก็เป็นเรื่องของพวกคุณอยู่แล้ว แต่ผมจะตายนะ ยังไงก็ขอดูก่อน (เหมือนลดท่าที?)ยังไงก็ขอดูก่อน อยู่ๆ จะให้ออกเลยหรอ เป็นไปไม่ได้”
เปิ้ล : “แต่มันน่ารักดีนะพี่”
หม่ำ : “มันขึ้นอยู่กับการตัดต่อไง”
เปิ้ล : “สองก็คือ เรามั่นใจปฏิกิริยาที่เขาโกรธ คือมันน่ารัก อันนี้จริงๆ นะ เราก็ไม่รู้ว่าเขาโกรธจริงหรือโกรธเล่น”
หม่ำ : “แล้วได้ดูขาตอนที่พี่ลงมาจากรถมั้ย”
เปิ้ล : “ในใจผมตอนนั้นคิดว่าพี่โกรธแน่ แต่คิดว่าเดี๋ยวไปเฉลย ไปขอโทษ พี่น่าจะเข้าใจ เราศึกษานิสัยเขามาเยอะมาก ไปกินด้วยกัน เที่ยวด้วยกัน ไปกินเบียร์หิมะ ไปกินโพนยางคำด้วยกัน”
หอย : “หม่ำ ออน สเตจ นี่ 15-18 ครับ”
เปิ้ล : “เราสนิทกันมาก ไปเที่ยวด้วยกัน อยู่ในวงอาหารก็ด่ากันกระจาย ก็คิดว่าครั้งนี้เขาโกรธเล่นๆ แบบว่าแกล้งโกรธ ไปเฉลยก็คงหาย ไม่หายเว้ย เอาจริง ชีวิตเขาไม่เคยโกรธใคร มาโกรธเราเป็นไปไม่ได้ (ลากเสียงยาว) แต่พอเขาโกรธเรา ก็เริ่มมาคิดมากว่าเราเป็นคนแรกในชีวิตที่เขาโกรธรึเปล่า”
หม่ำ : “นั่นแหละ งอน...”
ส่วนความสัมพันธ์ หนุ่มเปิ้ลบอกว่ายังเป็นพี่ที่เคารพเหมือนเดิม ด้านตลกชื่อดังแย้มรู้สึกดีขึ้น
เปิ้ล : “ผมก็ยังเป็นน้องเขาเหมือนเดิมครับ แต่ช่วงนี้เขาก็คงโกรธไง”
หม่ำ : “ไม่ได้โกรธ แหม ก็รู้ว่าเคียงบ่าเคียงไหล่กันมา ถ้ามาบอกนะ เดี๋ยวพี่แอคให้เลย ตอนที่เราขึ้นรถแล้วมันล็อคเลย แล้วมันก็ตู้มๆๆๆๆ เราก็คิดว่า เอาแล้ว โดนแล้ว กัดฟันทนทำเป็นว่าเหมือนเราเล่นไวกิ้งเอาแล้วกันวะ แต่ ณ วันนี้ก็คือแค่งอนเท่านั้นเอง”
เปิ้ล : “หายแล้ว?”
หม่ำ : “ดีขึ้นแล้ว แต่ยังไงเราขอดูหนังก่อนนะ”
บอกวันที่จะตัดต่อหนังจะแจ้งมาทางหม่ำให้รับทราบ แต่ตลกดังยังสงวนท่าที บอกไม่ว่างเพราะต้องซ้อม”หม่ำ ออน สเตจ”
เปิ้ล : “ก็ต้องแจ้งครับ”
หม่ำ : “ผมไม่ว่างนะครับ ผมต้องซ้อมไอ้เนี่ย (ชี้มือไปที่โปสเตอร์หม่ำ ออน สเตจ)”
หอย : “วันไหนนะ (ถามยิ้มๆ)”
หม่ำ : “15-18 ครับ”
วิลลี่ : “ที่ไหนนะครับ (ส่งมุข)”
หม่ำ : “ธันเดอร์โดมครับ วิลลี่นี่เป็นคนดีมากเลย ส่งมุขให้ตลอด”
ผู้สื่อข่าวถามแซวว่าแบบนี้จะมีเลี้ยงใหญ่มั้ย หนุ่มเปิ้ลบอกว่ามี ถ้าหม่ำยอมให้ฉากนั้นตัดออกในหนัง ซึ่งถึงตรงนี้ทั้งหมดก็ส่งมุขกันไปมาอย่างอารมณ์ดี
หม่ำ : “มีสิ”
เปิ้ล : “มี แต่พี่ต้องให้หนังผมออก (หันไปบอกหม่ำ)”
หม่ำ : “ขอดูหนังก่อนแล้วกัน ดีไม่ดีพี่จะขอตัดเอง”
วิลลี่ : “แขกรับเชิญพิเศษนี่ใครมั่งครับ”
หม่ำ : “เราชอบวิลลี่มากเลย (หัวเราะชอบใจ) ก็มีแก๊งสามช่า พี่เท่ง พี่โหน่ง แล้วก็แทททูคัลเลอร์”
วิลลี่ : “แล้วเซอร์ไพรส์ล่ะครับ”
หม่ำ : “อาจจะมีสาระแนมั้งครับ ส่วนบัตรก็ 500 1,000 1,500 2,000”
เปิ้ล : “เปิดจองบัตรเมื่อไหร่ครับ”
หม่ำ : “โทรไปถามเวิร์คพ้อยท์ได้เลย”
วิลลี่ : “มีบัตร 9 บาทด้วยไม่ใช่หรอ”
หม่ำ : “คุณวิลลี่ คุณเป็นคนดีจริงๆ ผมหายงอนคุณแล้วแหละ (หัวเราะ) เหลือก็แต่ไอ้นี่ (ชี้ไปที่เปิ้ล)”
เปิ้ล : “แสดงกี่รอบนะครับ”
หม่ำ : “5 รอบครับ...อ้าว ดีขึ้นแล้วนี่ (หัวเราะชอบใจ) ก็ไม่มีอะไรแล้วครับ แค่งอน”
หนุ่มเปิ้ลเผย ทางทีมงานต้องได้รับอนุญาตจากหม่ำเร็วที่สุด เนื่องจากจะมีการแถลงข่าวในวันที่ 1 เม.ย. ที่จะถึงนี้ ซึ่งทันทีที่นักข่าวถามว่าหนังเรื่องนี้จะให้คิวฉายได้เมื่อไหร่ ยังไม่ทันที่เปิ้ลจะตอบ หม่ำก็พูดแทรกขึ้นมาว่า หนังเสี่ย(เสี่ยเจียง)หรอเนี่ย? หนุ่มเปิ้ล หันมายิ้ม แล้วถามกลับว่า ถ้าเป็นหนังของเสี่ยล่ะ? ตลกชื่อดังไม่ตอบ เพียงแต่ยิ้มรับเท่านั้น
เปิ้ล : “ถ้าพี่ไม่ให้หนังเรื่องนี้ออก เสี่ยเขาจะแคนเซิลหนังของพี่“
หม่ำ : “เสี่ยไม่กล้ากับพี่หรอก (หัวเราะกันทั้ง 4 คน) แล้วเรื่องเลี้ยงนี่เตรียมตัวมาเลยนะ ผมจะพาไปยังสถานที่ที่คาดไม่ถึง พามาทั้งหมู่บ้านเลย เรื่องเจ็ตสกีของเปิ้ลนี่ผมยังหาโอกาสเผาอยู่นะครับ ราคาแค่ลำละล้านสองล้านเอง บ้านไอ้หอยนี่ก็จะเผาแล้วเอาน้ำสาดๆๆ”
เมื่อนักข่าวถามว่าฉากนั้นสำคัญขนาดไหนถ้าไม่มีหม่ำ หนุ่มเปิ้ลตอบว่าสำคัญมาก แต่ถ้าหากไม่มีก็คงต้องยอมรับความจริง จากนั้นหม่ำจึงสวนทันควันว่าไม่แน่ ว่าตนจะตัดเองด้วย และเมื่อถามถึงความเสียหายของหนังถ้าไม่มีฉากดังกล่าวของหม่ำ หนุ่มเปิ้ลเผยว่าทางทีมงานได้ลงทุนกับฉากนี้ไปเยอะพอสมควร ความเสียหายจึงมีมาก พร้อมกับแซวต่อด้วยว่า ดาราคนอื่นที่โดนอำแรงกว่านี้ก็มี แต่ไม่เห็นมีใครโกรธแบบนี้เลย ด้านหนุ่มวิลลี่เองก็ถึงกับออกปากเข็ดที่จะแกล้งใครแรงๆ แบบนี้
อย่างไรก็ตาม แม้ว่าจะมีการออกมาแถลงข่าวของทั้งสองฝ่าย แต่เหตุการณ์ที่ทีมงานติดโปสเตอร์โปรโมตไว้ด้านหลังก่อนจะมีการแถลงข่าวนั้น ก็ยังเป็นที่กังขาในใจใครหลายคน อีกทั้งกรณีที่วิลลี่เองเคยให้สัมภาษณ์ว่า หม่ำเป็นคนติดต่อให้สาระแนได้ทำหนังเรื่อง “สาระแนห้าวเป้ง” ร่วมกับ “เสี่ยเจียง สมศักดิ์ เตชะรัตนประเสริฐ” แต่หม่ำกลับทำมึนเหมือนเพิ่งรู้ โดยถามวิลลี่กลับว่าเป็นหนังของเสี่ยเองหรือ
และไม่ว่าความจริงจะเป็นเช่นไร นักข่าวเองหรือไม่ที่เป็นฝ่ายถูกอำในครั้งนี้ ที่สุดแล้วฉากแถลงข่าวในวันนี้จะไปอยู่ในหนังอีกหรือไม่ ทุกสิ่งทุกอย่างล้วนเกิดขึ้นได้ และยังไม่มีข้อสรุปที่แน่ชัด ตราบใดที่ข่าวนี้ยังเกี่ยวข้องกับทีมงานสาระแนอยู่