“พลังงาน” การันตีแก๊สโซฮอล์เจ๋ง โยนเบนซิน-รถเก่า ต้นเหตุอากาศพิษ

กระทรวงพลังงาน เปิดโต๊ะแถลงข่าวชี้แจงคุณภาพน้ำมันแก๊สโซฮอล์ ยืนยันมีความปลอดภัย และก่อมลพิษน้อยกว่าเบนซิน ยอมรับ กรณีดังกล่าวอาจเกิดขึ้นได้ หากเป็นรถยนต์เก่าที่ระบบเผาไหม้เกิดความไม่สมบูรณ์ พร้อมโต้งานวิจัยกรมควบคุมมลพิษ แค่ผลทดลองเบื้องต้น ชี้ปม “สารฟอร์มัลดีไฮด์-อะเซทัลดีไฮด์” เกิดจากการหมักเอทานอลจริง แต่ก็มีในขยะ และน้ำเสีย ทั่วโลกยังไม่ได้ประกาศให้สารทั้ง 2 ประเภท เป็นอันตรายต่อสุขภาพ

นายเมตตา บันเทิงสุข อธิบดีกรมธุรกิจพลังงาน กล่าวในการแถลงข่าว โดยยืนยันว่า น้ำมันแก๊สโซฮอล์มีความปลอดภัยและไม่เป็นอันตรายต่อสุขภาพ หลังมีนักวิจัยออกมาระบุมีสารก่อมะเร็ง แต่ยอมรับว่า กรณีดังกล่าวอาจเกิดขึ้นได้ หากกระบวนการเผาไหม้เกิดความไม่สมบรูณ์

“น้ำมันแก๊สโซฮอล์มีความปลอดภัย ไม่มีสารก่อมะเร็งในผลิตภัณฑ์ แต่อาจเกิดขึ้นได้ หากการเผาไหม้เครื่องยนต์ไม่สมบูรณ์”

นายเมตตา ระบุว่า เมื่อสัปดาห์ก่อน นักวิจัยด้านอากาศของกรมส่งเสริมคุณภาพสิ่งแวดล้อม ออกมาระบุตรวจสอบพบสารในกลุ่มคาร์บอนิล (carbonyl group) ซึ่งเป็นสารก่อมะเร็งในน้ำมันแก๊สโซฮอล์

ทั้งนี้ กรมธุรกิจพลังงาน ยืนยันว่า สารกลุ่มดังกล่าวไม่ได้อยู่ในน้ำมันแก๊สโซฮอล์ หรือเอทานอล แต่ในการเผาไหม้อาจเกิดขึ้นได้และปะปนออกมาพร้อมกับไอเสียของรถยนต์ ซึ่งในส่วนนี้หน่วยงานที่มีส่วนเกี่ยวข้องจะต้องเป็นผู้ดูแลสภาพเครื่องยนต์ อุปกรณ์ท่อไอเสีย ให้อยู่ในสภาพที่ไม่ก่อให้เกิดสารดังกล่าว ด้วยการดูแลให้เกิดการเผาไหม้ที่สมบูรณ์ซึ่งจะลดสารดังกล่าวได้

อธิบดีกรมธุรกิจพลังงาน ระบุเพิ่มเติมว่า หลังจากนี้ จะประสานกับหน่วยงานที่มีส่วนเกี่ยวข้องเพื่อร่วมกันตรวจสอบสารดังกล่าว ทั้งกรมควบคุมมลพิษ กรมการขนส่งทางบก สำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม

“ผมยืนยันว่า แก๊สโซฮอล์ เป็นน้ำมันที่ปลอดภัย ก่อมลพิษน้อยกว่าเบนซินที่ใช้กันแต่ดั้งเดิมมาก” นายเมตตา กล่าวสรุปทิ้งท้าย

ขณะที่ นายพรชัย รุจิประภา ปลัดกระทรวงพลังงาน กล่าวว่า น้ำมันแก๊สโซฮอล์ที่ใช้อยู่ในปัจจุบันมีสารฟอร์มัลดีไฮด์ และอะเซทัลดีไฮด์ ที่เกิดจากการหมักเอทานอลจริง หรือเกิดจากน้ำเสีย และขยะ แต่ขณะนี้กรมควบคุมมลพิษยังไม่ได้มีการประกาศให้สารทั้ง 2 ชนิดเป็นสารอันตรายต่อสุขภาพ และในต่างประเทศก็ยังไม่มีการกำหนดค่ามาตรฐานของสาร 2 ชนิดดังกล่าวเช่นกัน

นอกจากนี้ ผลการวิจัยที่มีออกเป็นเพียงการทดลองเบื้องต้นในห้องทดลองเท่านั้น โดยไม่ได้กระทำในพื้นที่เปิดทั่วไป ดังนั้นการทดลองควรจะต้องให้ลึกซึ้งกว่านี้ เพราะสารฟอร์มัลดีไฮด์ และอะเซทัลดีไฮด์ เป็นสารที่ย่อยสลายง่าย ทำให้ยังไม่สามารถระบุว่าจะก่อให้เกิดอันตรายต่อผู้ใช้น้ำมันแก๊สโซฮอล์ได้อย่างไร