ผู้ประกอบการทัวร์จีนปาดเหงื่อ วิกฤตเศรษฐกิจโลก การเมือง ฉุดกำลังซื้อหด ทุกประเทศเปิดสงครามราคา ชาวจีนแห่เที่ยวแดนซากุระ เหตุแพกเกจทัวร์ถูกจ่ายเท่ามาเมืองไทย สงกรานต์นี้ทำใจ ชาร์เตอร์ไฟล์ทได้อย่างดี 50 เที่ยว วอนนายกฯมาร์คช่วยเป็นพรีเซ็นเตอร์ ทำใจสิ้นปีภาพรวมตลาดจีนได้ 8 แสนคน
นายศิษฎิวัชร ชีวรัตนพร นายกสมาคมผู้ประกอบการธุรกิจท่องเที่ยวสัมพันธ์ไทย-จีน(T.C.T.A) เปิดเผยว่า สถานการณ์นักท่องเที่ยวจากประเทศจีนขณะนี้หลายมณฑล กำลังซื้อลดลง เพราะได้รับผลกระทบจากวิกฤตเศรษฐกิจโลก เช่น เซี่ยงไฮ้ นานกิง เจ๋อเจียง เพราะเป็นเมืองธุรกิจมีโรงงานอุตสาหกรรมจำนวนมากผลิตสินค้าเพื่อส่งออก จึงได้รับผลกระทบจากกำลังซื้อในตลาดโลกที่ลดลง
นอกจากนั้นปัจจัยการเมืองของประเทศไทยที่ยังไม่นิ่งเท่าที่ควร ทำให้ชาวจีนยังกังวลใจจึงไม่ต้องการเดินทางเข้ามา ซึ่งเป็นพฤติกรรมปกติของนักท่องเที่ยวแถมเอเชีย โดยจะเห็นว่าตลาดนักท่องเที่ยวจาก ฮ่องกง ไต้หวัน จีน เกาหลี ญี่ปุ่น ยังไม่กลับมาเที่ยวประเทศไทยมากนัก
ส่วนกลุ่มที่มีกำลังซื้อที่ยังสามารถเดินทางไปเที่ยวต่างประเทศได้ก็เลือกที่จะไปเที่ยวในประเทศอื่นๆ ที่จัดโปรโมชั่นน่าสนใจ โดยชาวจีนเลือกที่ไปเที่ยว ญี่ปุ่น ไต้หวัน มากขึ้น เพราะช่วงนี้เสียค่าใช้จ่ายไม่แพง เพียง 3-4 พันหยวน พัก 5-6 วัน จากปกติจะราคา 5 พันหยวนขึ้นไป การลดราคานี้ทำให้ราคาแพกเกจทัวร์ไปญี่ปุ่นราคาเท่ากับมาประเทศไทย
จากเหตุผลทั้งหมดดังกล่าว ทำให้ผู้ประกอบการไทยทำตลาดได้ลำบากขึ้น เพราะการแข่งขันสูง ซึ่งประเทศไทยเป็นเดสติเนชั่นที่ใกล้ชาวจีนเดินทางมาได้บ่อยครั้งในราคาไม่แพง เมื่อมีประเทศอื่นๆ เช่น ญี่ปุ่น ลดราคาเขาจึงไปใช้บริการก่อน เพราะเป็นโอกาสเหมาะที่จะได้เที่ยวญี่ปุ่นในราคาถูก จึงต้องการเสนอให้นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ได้ใช้โอกาสที่จะเดินทางไปประเทศจีนในเดือน พ.ค.นี้ เพื่อเจรจาเรื่องการค้าการลงทุน ให้พูดสร้างความมั่นใจชวนคนจีนมาเที่ยวไทยด้วย
สำหรับช่วงเทศกาลสงกรานต์ปีนี้ ประมาณว่าจะมีเที่ยวบินเช่าเหมาลำ(ชาร์เตอร์ไฟล์ท)จากประเทศจีนมาเที่ยวประเทศไทยที่ 40-50 ลำ จากช่วงปกติจะมีประมาณ70-80 ลำ แต่ผู้ประกอบการก็ยังพอใจว่าตลาดเริ่มตอบรับแล้วแต่คงต้องใช้เวลากว่าจะฟื้นเป็นปกติ ประกอบกับการจัดชาร์เตอร์ไฟล์ท ต้องมีการเดินทางทั้ง 2 ฝั่ง คือ ไทย และ จีน ไม่ใช่จะขนผู้โดยสารจีนมาอย่างเดียว ต้องมีผู้โดยสารไทยกลับไปด้วย แต่ปีนี้ตลาดคนไทยก็ยังมียอดจองน้อย
ปัจจัยทั้งหมดดังกล่าว ทำให้สมาคมฯคาดว่าภาพรวมปีนี้ตลาดนักท่องเที่ยวจีนจะเดินทางมาประเทศไทยประมาณ 8 แสนคน ไม่ถึง 1.1 ล้านคนตามที่ ททท.ตั้งเป้าหมายไว้ แต่น่าจะเพิ่มจากปีก่อนที่ได้ไว้ประมาณ 7 แสนคนเศษ อย่างไรก็ตาม จากการที่รัฐบาลจีนออก 68 มาตรการควบคุมบริษัทนำเที่ยวของรัฐหรือ สเตท ออเดอร์ เพื่อคุ้มครองผู้บริโภคด้วยการบังคับให้ขายทัวร์คุณภาพไม่หลอกลวง ทางสมาคมจะชี้แจงกับสมาชิก เพื่อปรับแผนการตลาดให้สอดรับกับมาตรการดังกล่าว
นายศิษฎิวัชร ชีวรัตนพร นายกสมาคมผู้ประกอบการธุรกิจท่องเที่ยวสัมพันธ์ไทย-จีน(T.C.T.A) เปิดเผยว่า สถานการณ์นักท่องเที่ยวจากประเทศจีนขณะนี้หลายมณฑล กำลังซื้อลดลง เพราะได้รับผลกระทบจากวิกฤตเศรษฐกิจโลก เช่น เซี่ยงไฮ้ นานกิง เจ๋อเจียง เพราะเป็นเมืองธุรกิจมีโรงงานอุตสาหกรรมจำนวนมากผลิตสินค้าเพื่อส่งออก จึงได้รับผลกระทบจากกำลังซื้อในตลาดโลกที่ลดลง
นอกจากนั้นปัจจัยการเมืองของประเทศไทยที่ยังไม่นิ่งเท่าที่ควร ทำให้ชาวจีนยังกังวลใจจึงไม่ต้องการเดินทางเข้ามา ซึ่งเป็นพฤติกรรมปกติของนักท่องเที่ยวแถมเอเชีย โดยจะเห็นว่าตลาดนักท่องเที่ยวจาก ฮ่องกง ไต้หวัน จีน เกาหลี ญี่ปุ่น ยังไม่กลับมาเที่ยวประเทศไทยมากนัก
ส่วนกลุ่มที่มีกำลังซื้อที่ยังสามารถเดินทางไปเที่ยวต่างประเทศได้ก็เลือกที่จะไปเที่ยวในประเทศอื่นๆ ที่จัดโปรโมชั่นน่าสนใจ โดยชาวจีนเลือกที่ไปเที่ยว ญี่ปุ่น ไต้หวัน มากขึ้น เพราะช่วงนี้เสียค่าใช้จ่ายไม่แพง เพียง 3-4 พันหยวน พัก 5-6 วัน จากปกติจะราคา 5 พันหยวนขึ้นไป การลดราคานี้ทำให้ราคาแพกเกจทัวร์ไปญี่ปุ่นราคาเท่ากับมาประเทศไทย
จากเหตุผลทั้งหมดดังกล่าว ทำให้ผู้ประกอบการไทยทำตลาดได้ลำบากขึ้น เพราะการแข่งขันสูง ซึ่งประเทศไทยเป็นเดสติเนชั่นที่ใกล้ชาวจีนเดินทางมาได้บ่อยครั้งในราคาไม่แพง เมื่อมีประเทศอื่นๆ เช่น ญี่ปุ่น ลดราคาเขาจึงไปใช้บริการก่อน เพราะเป็นโอกาสเหมาะที่จะได้เที่ยวญี่ปุ่นในราคาถูก จึงต้องการเสนอให้นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ได้ใช้โอกาสที่จะเดินทางไปประเทศจีนในเดือน พ.ค.นี้ เพื่อเจรจาเรื่องการค้าการลงทุน ให้พูดสร้างความมั่นใจชวนคนจีนมาเที่ยวไทยด้วย
สำหรับช่วงเทศกาลสงกรานต์ปีนี้ ประมาณว่าจะมีเที่ยวบินเช่าเหมาลำ(ชาร์เตอร์ไฟล์ท)จากประเทศจีนมาเที่ยวประเทศไทยที่ 40-50 ลำ จากช่วงปกติจะมีประมาณ70-80 ลำ แต่ผู้ประกอบการก็ยังพอใจว่าตลาดเริ่มตอบรับแล้วแต่คงต้องใช้เวลากว่าจะฟื้นเป็นปกติ ประกอบกับการจัดชาร์เตอร์ไฟล์ท ต้องมีการเดินทางทั้ง 2 ฝั่ง คือ ไทย และ จีน ไม่ใช่จะขนผู้โดยสารจีนมาอย่างเดียว ต้องมีผู้โดยสารไทยกลับไปด้วย แต่ปีนี้ตลาดคนไทยก็ยังมียอดจองน้อย
ปัจจัยทั้งหมดดังกล่าว ทำให้สมาคมฯคาดว่าภาพรวมปีนี้ตลาดนักท่องเที่ยวจีนจะเดินทางมาประเทศไทยประมาณ 8 แสนคน ไม่ถึง 1.1 ล้านคนตามที่ ททท.ตั้งเป้าหมายไว้ แต่น่าจะเพิ่มจากปีก่อนที่ได้ไว้ประมาณ 7 แสนคนเศษ อย่างไรก็ตาม จากการที่รัฐบาลจีนออก 68 มาตรการควบคุมบริษัทนำเที่ยวของรัฐหรือ สเตท ออเดอร์ เพื่อคุ้มครองผู้บริโภคด้วยการบังคับให้ขายทัวร์คุณภาพไม่หลอกลวง ทางสมาคมจะชี้แจงกับสมาชิก เพื่อปรับแผนการตลาดให้สอดรับกับมาตรการดังกล่าว