ไทยแอร์เอเชีย แหยงพิษการเมือง ทำอุตสาหกรรมท่องเที่ยวป่วน ระบุ 3 ปัจจัยลบสุ่มเสี่ยง ปฏิวัติ นองเลือด ราคาน้ำมัน กระทบยอดนักท่องเที่ยววูบในพริบตา เข็นทัพสินค้าขายบนเครื่องบิน สร้างรายได้เพิ่ม
นายทัศพล แบเลเว็ลด์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร สายการบินไทยแอร์เอเชีย เปิดเผยว่า ในสถานการณ์ขณะนี้ สายการบินไทยแอร์เอเชีย ยังมั่นใจว่า ถึงสิ้นปีจะสามารถขนส่งผู้โดยสารได้รวมทั้งสิ้น 4.6-4.7 ล้านคน ตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ โดย 3 ไตรมาสที่ผ่านมา ขนส่งผู้โดยสารได้รวม 3 ล้านคน ซึ่งจะทำให้ผลประกอบการมีกำไร แต่ไม่สามารถบอกได้ว่าจะเป็นเท่าใด ต้องยอมรับว่า สถานการณ์ทางการเมืองของประเทศไทยที่มีปัญหา เป็นปัจจัยสำคัญต่ออุตสาหกรรมท่องเที่ยวและธุรกิจของสายการบิน เห็นได้จากช่วงเดือนกันยายนที่รัฐบาลประกาศใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ไทยแอร์เอเชียมีผู้โดยสารยกเลิกการเดินทางจำนวนมาก โดยเฉพาะตลาดจีน ยกเลิกแทบทั้งหมด
“สถานการณ์ปัจจุบันนี้ ทำให้คาดการณ์ล่วงหน้าได้ไม่เกิน 30 วัน เพราะปัจจัยลบ 3 ประเด็นสำคัญหากเกิดขึ้นจะทำให้อุตสาหกรรมท่องเที่ยวและธุรกิจสายการบินพลิกผันได้ตลอดเวลา คือ การปฎิวัติ เหตุปะทะนองเลือด และความผันผวนของราคาน้ำมัน แต่ถ้าทุกอย่างนิ่ง แม้มีการประท้วงแต่ไม่รุนแรง ก็จะไม่มีผลกระทบ”
***ยังไม่ลดค่าฟิวเซอร์ชาร์จ***
อย่างไรก็ตาม ยอมรับว่า จำนวนผู้โดยสารที่เป็นนักท่องเที่ยวจากต่างประเทศ มีจำนวนลดลงราว 5% โดยเฉพาะเส้นทางกรุงเทพฯ-ภูเก็ต แต่ไม่มากนัก แต่ได้ตลาดคนไทยมาทดแทน ทำให้ภาพรวมการขนส่งผู้โดยสารเฉลี่ยต่อเที่ยว (โหลดแฟกเตอร์) ของไทยแอร์เอเชีย ยังเป็นปกติอยู่ที่ 85-85% สำหรับค่าธรรมเนียมน้ำมัน หรือ ฟิวเซอร์ชาร์จ ยังไม่พิจารณาปรับลด เพราะแม้ราคาน้ำมันจะลดลงต่อเนื่อง แต่ก็ยังลงไปไม่ถึงจุดที่ปรับขึ้นฟิวเซอร์ชาร์จ ขณะเดียวกัน ค่าฟิวเซอร์ชาร์จของไทยแอร์เอเชีย ขณะนี้ก็ยังถูกกว่าสายการบินอื่นๆ ที่มีการปรับลดไปแล้ว
ผู้โดยสารไทยแอร์เอเชียส่วนใหญ่เป็นชาวต่างชาติเป็นนักท่องเที่ยวจากประเทศในแถบอาเซียน จึงไม่ได้รับผลกระทบจากวิกฤตการเงินในประเทศสหรัฐอเมริกา แต่บริษัทก็ไม่นิ่งนอนใจ ปรับแผนการตลาดรองรับความเสี่ยงได้ในทุกโอกาส ได้แก่ การทำโปรโมชั่นถี่ขึ้น ใช้ราคาเป็นตัวนำ ล่าสุด ออกแคมเปญตั๋วโดยสารราคาเริ่มต้น 9 บาท สำหรับเส้นทางในประเทศ และ 99 บาท สำหรับเส้นทางต่างประเทศ
**ปั้นรายได้เสริมลดความเสี่ยง**
นอกจากนั้น ยังเร่งสร้างรายได้เสริม จากการขายสินค้าบนเครื่องบิน ทั้ง อาหาร เครื่องดื่ม และของที่ระลึก โดยเร็วๆ นี้ จะเปิดขายสินค้าดิวตี้ฟรี ด้วย ปรับพื้นที่ทุกส่วนของเครื่องบินทั้งด้านในและด้านนอกสำหรับขายโฆษณา โดยเลือกใช้วัสดุราคาถูก เช่น ปรับจากการใช้แผ่นฟิล์ม มาเป็น ใช้กระดาษ ช่วยลูกค้าประหยัดต้นทุนโฆษณาได้ 30% เป็นราคาที่จูงใจให้บริษัทห้างร้าน เลือกใช้สื่อโฆษณาในช่องทางนี้มากขึ้น เพราะเป็นโฆษณาที่ ถึงตรงกลุ่มลูกค้าเป้าหมาย
ปัจจุบันรายได้เสริม คิดเป็น 8% ของรายได้รวม ตั้งเป้า 2-3 ปีข้างหน้าจะเพิ่มเป็น 20% และทุกบริการเสริมทั้งหมดจะทยอยปรับขึ้นบนเว็บไซต์ แม้กระทั่ง อาหาร ที่ลูกค้าสามารถสั่งล่วงหน้าได้ โดยใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิต ซึ่งขณะนี้ 70% ของผู้โดยสารไทยแอร์เอเชีย จองตั๋วผ่านเว็บไซต์ ซึ่งเป็นไลฟ์สไตล์ของคนรุ่นใหม่
นายทัศพล แบเลเว็ลด์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร สายการบินไทยแอร์เอเชีย เปิดเผยว่า ในสถานการณ์ขณะนี้ สายการบินไทยแอร์เอเชีย ยังมั่นใจว่า ถึงสิ้นปีจะสามารถขนส่งผู้โดยสารได้รวมทั้งสิ้น 4.6-4.7 ล้านคน ตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ โดย 3 ไตรมาสที่ผ่านมา ขนส่งผู้โดยสารได้รวม 3 ล้านคน ซึ่งจะทำให้ผลประกอบการมีกำไร แต่ไม่สามารถบอกได้ว่าจะเป็นเท่าใด ต้องยอมรับว่า สถานการณ์ทางการเมืองของประเทศไทยที่มีปัญหา เป็นปัจจัยสำคัญต่ออุตสาหกรรมท่องเที่ยวและธุรกิจของสายการบิน เห็นได้จากช่วงเดือนกันยายนที่รัฐบาลประกาศใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ไทยแอร์เอเชียมีผู้โดยสารยกเลิกการเดินทางจำนวนมาก โดยเฉพาะตลาดจีน ยกเลิกแทบทั้งหมด
“สถานการณ์ปัจจุบันนี้ ทำให้คาดการณ์ล่วงหน้าได้ไม่เกิน 30 วัน เพราะปัจจัยลบ 3 ประเด็นสำคัญหากเกิดขึ้นจะทำให้อุตสาหกรรมท่องเที่ยวและธุรกิจสายการบินพลิกผันได้ตลอดเวลา คือ การปฎิวัติ เหตุปะทะนองเลือด และความผันผวนของราคาน้ำมัน แต่ถ้าทุกอย่างนิ่ง แม้มีการประท้วงแต่ไม่รุนแรง ก็จะไม่มีผลกระทบ”
***ยังไม่ลดค่าฟิวเซอร์ชาร์จ***
อย่างไรก็ตาม ยอมรับว่า จำนวนผู้โดยสารที่เป็นนักท่องเที่ยวจากต่างประเทศ มีจำนวนลดลงราว 5% โดยเฉพาะเส้นทางกรุงเทพฯ-ภูเก็ต แต่ไม่มากนัก แต่ได้ตลาดคนไทยมาทดแทน ทำให้ภาพรวมการขนส่งผู้โดยสารเฉลี่ยต่อเที่ยว (โหลดแฟกเตอร์) ของไทยแอร์เอเชีย ยังเป็นปกติอยู่ที่ 85-85% สำหรับค่าธรรมเนียมน้ำมัน หรือ ฟิวเซอร์ชาร์จ ยังไม่พิจารณาปรับลด เพราะแม้ราคาน้ำมันจะลดลงต่อเนื่อง แต่ก็ยังลงไปไม่ถึงจุดที่ปรับขึ้นฟิวเซอร์ชาร์จ ขณะเดียวกัน ค่าฟิวเซอร์ชาร์จของไทยแอร์เอเชีย ขณะนี้ก็ยังถูกกว่าสายการบินอื่นๆ ที่มีการปรับลดไปแล้ว
ผู้โดยสารไทยแอร์เอเชียส่วนใหญ่เป็นชาวต่างชาติเป็นนักท่องเที่ยวจากประเทศในแถบอาเซียน จึงไม่ได้รับผลกระทบจากวิกฤตการเงินในประเทศสหรัฐอเมริกา แต่บริษัทก็ไม่นิ่งนอนใจ ปรับแผนการตลาดรองรับความเสี่ยงได้ในทุกโอกาส ได้แก่ การทำโปรโมชั่นถี่ขึ้น ใช้ราคาเป็นตัวนำ ล่าสุด ออกแคมเปญตั๋วโดยสารราคาเริ่มต้น 9 บาท สำหรับเส้นทางในประเทศ และ 99 บาท สำหรับเส้นทางต่างประเทศ
**ปั้นรายได้เสริมลดความเสี่ยง**
นอกจากนั้น ยังเร่งสร้างรายได้เสริม จากการขายสินค้าบนเครื่องบิน ทั้ง อาหาร เครื่องดื่ม และของที่ระลึก โดยเร็วๆ นี้ จะเปิดขายสินค้าดิวตี้ฟรี ด้วย ปรับพื้นที่ทุกส่วนของเครื่องบินทั้งด้านในและด้านนอกสำหรับขายโฆษณา โดยเลือกใช้วัสดุราคาถูก เช่น ปรับจากการใช้แผ่นฟิล์ม มาเป็น ใช้กระดาษ ช่วยลูกค้าประหยัดต้นทุนโฆษณาได้ 30% เป็นราคาที่จูงใจให้บริษัทห้างร้าน เลือกใช้สื่อโฆษณาในช่องทางนี้มากขึ้น เพราะเป็นโฆษณาที่ ถึงตรงกลุ่มลูกค้าเป้าหมาย
ปัจจุบันรายได้เสริม คิดเป็น 8% ของรายได้รวม ตั้งเป้า 2-3 ปีข้างหน้าจะเพิ่มเป็น 20% และทุกบริการเสริมทั้งหมดจะทยอยปรับขึ้นบนเว็บไซต์ แม้กระทั่ง อาหาร ที่ลูกค้าสามารถสั่งล่วงหน้าได้ โดยใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิต ซึ่งขณะนี้ 70% ของผู้โดยสารไทยแอร์เอเชีย จองตั๋วผ่านเว็บไซต์ ซึ่งเป็นไลฟ์สไตล์ของคนรุ่นใหม่
