เทสโก้ เดินหน้าต่อเนื่อง โฟกัส 2 เรื่องหลัก ทั้งทุ่มทำราคามัดใจผู้บริโภคทั้งปี เฉพาะ มี.ค.-พ.ค.คาดช่วยลูกค้าประหยัดได้กว่า 2.5 พันล้านบาท พร้อมเทต่อเนื่อง 7,000 ล้านบาท ขยายสาขาใหญ่อีก 5-6 สาขา และ 50 สาขาเทสโก้โลตัสเอ็กซ์เพรส อุบโปรโมชันเช็คช่วยชาติ 2,000 บาท – เบี้ยคนชรา 500 บาท ย้ำเริ่มเห็นแนวโน้มเศรษฐกิจเริ่มดีขึ้น
นายสตีฟ แฮมเมทท์ ประธานกรรมการบริหาร เทสโก้ โลตัส เปิดเผยว่า ทิศทางในการดำเนินธุรกิจภายใต้สถานการณ์ที่คาดเดาได้ยากนี้ ทางบริษัทจะยังเดินหน้าอย่างต่อเนื่อง โดยโฟกัสใน 2 เรื่องหลัก คือ 1.แผนการทำตลาดในเรื่องของราคา ที่จะต้องมีความแตกต่างอย่างชัดเจนว่าเทสโก้โลตัส มีการจำหน่ายสินค้าในราคาที่ต่ำที่สุดกว่าท้องตลาด รวมทั้งจะต้องตอบโจทย์ และหาสินค้าที่ลูกค้าต้องการซื้อมาจำหน่ายในราคาพิเศษให้ได้ โดยในแง่ของการทำราคานั้น จะเป็นเรื่องของการจัดแคมเปญโปรโมชั่น ซึ่งเมื่อเทียบทั้งปีแล้ว ถือว่ามีจำนวนและเม็ดเงินที่ช่วยให้ลูกค้าประหยัด ได้มากกว่าปีก่อนค่อนข้างสูง และมากที่สุดในรอบ 14 ปี
ล่าสุดกับแคมเปญใหญ่ในช่วงเดือน มี.ค.-พ.ค.ที่จะถึงนี้ บริษัท ได้จัดแคมเปญ “เทสโก้ โลตัส ช่วยคุณ ช่วยชาติ” ซึ่งได้นำสินค้ากว่า 4,000 รายการ มาจัดจัดจำหน่ายในราคาพิเศษ แบ่งเป็นในกลุ่มกิจกรรมสินค้าราคาประหยัด กับ “โรลแบ็ค ถูกลงกว่าเดิม” ประมาณ 2,600 รายการ เป็นกลุ่มฟู้ด 800 รายการ เฉลี่ยราคาถูกลง 10% และ นอนฟู้ด 1,600 รายการ เฉลี่ยราคาถูกลง 20% ซึ่งแคมเปญในกลุ่มโรลแบ็คครั้งนี้ คิดเป็นมูลค่าในการลดราคาสินค้าลงกว่า 2,500 ล้านบาท ขณะที่ในปีก่อนแคมเปญโรลแบ็คทั้งปี คิดเป็นมูลค่าการลดราคาสินค้าไปประมาณ 500 ล้านบาท และสินค้าอีก 1,400 รายการที่เหลือ จะนำมาจัดจำหน่ายในราคาพิเศษอีกส่วนหนึ่งด้วย
2.แผนการลงทุน ปีนี้ได้เตรียมงบประมาณไว้กว่า 7,000 ล้านบาท เป็นตัวเลขการลงทุนที่ใช้ใกล้เคียงหรือมากกว่าในปีก่อน ในการที่จะนำมาใช้ขยายสาขาเพิ่ม ทั้งเทสโก้โลตัสขนาดใหญ่ 5-6 สาขา และแบบเอ็กซ์เพรสอีกกว่า 50 สาขาในปีนี้ด้วย เชื่อว่าการขยายสาขาดังกล่าว จะช่วยให้เกิดการจ้างงานอีกกว่า 4,000 อัตรา
นายกวิน สัณฑกุล กรรมการและประธานบริหารฝ่ายการตลาด เทสโก้ โลตัส กล่าวต่อว่า หลังจากที่ดำเนินธุรกิจมาได้ประมาณ 2 เดือน พบว่า ลูกค้าประหยัดการใช้จ่ายมากขึ้น โดยสินค้าที่ลูกค้าซื้อน้อยลงมากที่สุด คือ กลุ่มนอนฟู้ด หรือพวกสินค้าตกแต่งบ้านลดลงมากกว่า 10% ดังนั้นแคมเปญ “เทสโก้ โลตัส ช่วยคุณ ช่วยชาติ” จึงได้มีการนำกลุ่มสินค้าประเภทนอน ฟู้ด มาลดราคาร่วมด้วยเป็นครั้งแรก เพื่อกระตุ้นให้ลูกค้าหันมาซื้อสินค้าในกลุ่มนี้ พร้อมทั้งยังช่วยซัปพลายเออร์ได้อีกทางหนึ่งด้วย
อย่างไรก็ตาม ปีนี้บริษัทจะเน้นในเรื่องของการทำราคาเป็นเครื่องมือในการทำตลาดมากขึ้น เพราะเป็นเครื่องมือที่สำคัญในการกระตุ้นให้ผู้บริโภคเกิดการใช้จ่าย โดยคาดว่าเริ่มมีสัญญาณที่ดีหลังจากนี้ว่า สถานการณ์ต่างๆ น่าจะดีขึ้นเรื่อยๆ เห็นได้จากการที่รัฐบาลเริ่มนิ่ง และสิ่งที่รัฐทำเพื่อกระตุ้นให้เศรษฐกิจเดินต่อไปได้ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของเช็คช่วยชาติ 2,000 บาท และเบี้ยคนชราอีกคนละ 500 บาท ที่จะช่วยกระตุ้นให้เศรษฐกิจหมุนเวียนมากขึ้น ทั้งนี้ ทางเทสโก้มีแผนการจัดกิจกรรมการตลาดรองรับทั้ง 2 นโยบายที่กล่าวมาไว้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว คาดว่าในระยะอันใกล้นี้จะสามารถเปิดเผยอย่างเป็นทางการได้ ส่วนบนของฟอร์ม
นายสตีฟ แฮมเมทท์ ประธานกรรมการบริหาร เทสโก้ โลตัส เปิดเผยว่า ทิศทางในการดำเนินธุรกิจภายใต้สถานการณ์ที่คาดเดาได้ยากนี้ ทางบริษัทจะยังเดินหน้าอย่างต่อเนื่อง โดยโฟกัสใน 2 เรื่องหลัก คือ 1.แผนการทำตลาดในเรื่องของราคา ที่จะต้องมีความแตกต่างอย่างชัดเจนว่าเทสโก้โลตัส มีการจำหน่ายสินค้าในราคาที่ต่ำที่สุดกว่าท้องตลาด รวมทั้งจะต้องตอบโจทย์ และหาสินค้าที่ลูกค้าต้องการซื้อมาจำหน่ายในราคาพิเศษให้ได้ โดยในแง่ของการทำราคานั้น จะเป็นเรื่องของการจัดแคมเปญโปรโมชั่น ซึ่งเมื่อเทียบทั้งปีแล้ว ถือว่ามีจำนวนและเม็ดเงินที่ช่วยให้ลูกค้าประหยัด ได้มากกว่าปีก่อนค่อนข้างสูง และมากที่สุดในรอบ 14 ปี
ล่าสุดกับแคมเปญใหญ่ในช่วงเดือน มี.ค.-พ.ค.ที่จะถึงนี้ บริษัท ได้จัดแคมเปญ “เทสโก้ โลตัส ช่วยคุณ ช่วยชาติ” ซึ่งได้นำสินค้ากว่า 4,000 รายการ มาจัดจัดจำหน่ายในราคาพิเศษ แบ่งเป็นในกลุ่มกิจกรรมสินค้าราคาประหยัด กับ “โรลแบ็ค ถูกลงกว่าเดิม” ประมาณ 2,600 รายการ เป็นกลุ่มฟู้ด 800 รายการ เฉลี่ยราคาถูกลง 10% และ นอนฟู้ด 1,600 รายการ เฉลี่ยราคาถูกลง 20% ซึ่งแคมเปญในกลุ่มโรลแบ็คครั้งนี้ คิดเป็นมูลค่าในการลดราคาสินค้าลงกว่า 2,500 ล้านบาท ขณะที่ในปีก่อนแคมเปญโรลแบ็คทั้งปี คิดเป็นมูลค่าการลดราคาสินค้าไปประมาณ 500 ล้านบาท และสินค้าอีก 1,400 รายการที่เหลือ จะนำมาจัดจำหน่ายในราคาพิเศษอีกส่วนหนึ่งด้วย
2.แผนการลงทุน ปีนี้ได้เตรียมงบประมาณไว้กว่า 7,000 ล้านบาท เป็นตัวเลขการลงทุนที่ใช้ใกล้เคียงหรือมากกว่าในปีก่อน ในการที่จะนำมาใช้ขยายสาขาเพิ่ม ทั้งเทสโก้โลตัสขนาดใหญ่ 5-6 สาขา และแบบเอ็กซ์เพรสอีกกว่า 50 สาขาในปีนี้ด้วย เชื่อว่าการขยายสาขาดังกล่าว จะช่วยให้เกิดการจ้างงานอีกกว่า 4,000 อัตรา
นายกวิน สัณฑกุล กรรมการและประธานบริหารฝ่ายการตลาด เทสโก้ โลตัส กล่าวต่อว่า หลังจากที่ดำเนินธุรกิจมาได้ประมาณ 2 เดือน พบว่า ลูกค้าประหยัดการใช้จ่ายมากขึ้น โดยสินค้าที่ลูกค้าซื้อน้อยลงมากที่สุด คือ กลุ่มนอนฟู้ด หรือพวกสินค้าตกแต่งบ้านลดลงมากกว่า 10% ดังนั้นแคมเปญ “เทสโก้ โลตัส ช่วยคุณ ช่วยชาติ” จึงได้มีการนำกลุ่มสินค้าประเภทนอน ฟู้ด มาลดราคาร่วมด้วยเป็นครั้งแรก เพื่อกระตุ้นให้ลูกค้าหันมาซื้อสินค้าในกลุ่มนี้ พร้อมทั้งยังช่วยซัปพลายเออร์ได้อีกทางหนึ่งด้วย
อย่างไรก็ตาม ปีนี้บริษัทจะเน้นในเรื่องของการทำราคาเป็นเครื่องมือในการทำตลาดมากขึ้น เพราะเป็นเครื่องมือที่สำคัญในการกระตุ้นให้ผู้บริโภคเกิดการใช้จ่าย โดยคาดว่าเริ่มมีสัญญาณที่ดีหลังจากนี้ว่า สถานการณ์ต่างๆ น่าจะดีขึ้นเรื่อยๆ เห็นได้จากการที่รัฐบาลเริ่มนิ่ง และสิ่งที่รัฐทำเพื่อกระตุ้นให้เศรษฐกิจเดินต่อไปได้ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของเช็คช่วยชาติ 2,000 บาท และเบี้ยคนชราอีกคนละ 500 บาท ที่จะช่วยกระตุ้นให้เศรษฐกิจหมุนเวียนมากขึ้น ทั้งนี้ ทางเทสโก้มีแผนการจัดกิจกรรมการตลาดรองรับทั้ง 2 นโยบายที่กล่าวมาไว้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว คาดว่าในระยะอันใกล้นี้จะสามารถเปิดเผยอย่างเป็นทางการได้ ส่วนบนของฟอร์ม