เอกชนวอนรัฐตั้งคณะ กก.ระดับชาติ ดูแลปัญหามาบตาพุด โดยจะให้มีการศึกษาวิจัย เพื่อให้ได้ข้อเท็จจริง และไม่ให้เกิดความคิดเห็นที่ไม่ตรงกันในการแก้ปัญหา หวั่นยืดเยื้อ อาจกระทบต่อบรรยากาศการลงทุน ขณะที่ชาวบ้านแห่งวางพวงหรีดหน้า ส.อ.ท.จี้เลิกให้ข่าวลบ
นายพยุงศักดิ์ ชาติสุทธิผล รองประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย กล่าวว่า ในการประชุมคณะกรรมกลั่นกรองการประชุมภาครัฐและเอกชน 3 สถาบัน วันนี้ ได้มีการพิจารณาวาระที่จะนำเสนอที่ประชุมคณะกรรมการร่วมภาครัฐและเอกชน (กกร.) ในวันที่ 18 มีนาคม 2552 โดยเฉพาะประเด็นคำพิพากษาของศาลปกครองระยอง ที่ประกาศให้พื้นที่มาบตาพุดเป็นเขตควบคุมมลพิษภายใน 60 วัน
“เรื่องดังกล่าวคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติมีสิทธิ์อุทธรณ์หากมีเหตุผล อย่างไรก็ตาม จากการหารือของ กกร.และการนิคมฯ เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาอยากให้มีการตั้งคณะกรรมการระดับชาติ เพื่อดูแลกรณีมาบตาพุด โดยจะให้มีการศึกษาวิจัยเพื่อให้ได้ข้อเท็จจริงไม่ให้เกิดความคิดเห็นที่ไม่ตรงกันในการแก้ปัญหา จนส่งผลกระทบต่อการลงทุนต่อเนื่อง ตลอดจนนักลงทุนที่กำลังจะลงทุน เพราะตราบใดที่ไม่มีความชัดเจนต่างชาติก็จะยังชะลอการลงทุน”
สำหรับนิคมอุตสาหกรรมที่อยู่ในข่ายจะได้รับผลกระทบตามคำพิพากษานั้น มี 6 นิคมอุตสาหกรรม 138 โรงงาน มีเม็ดเงินลงทุนรวมกันประมาณ 4-5 แสนล้านบาท และขณะนี้ยังมีโครงการรอการพิจารณาผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมอีกหลายโครงการ ส่วนใหญ่เป็นปิโตรเคมี
มีรายงานข่าวว่า เช้าวันนี้ มีชาวบ้านจากมาบตาพุดและบ้านฉาง รวมทั้งกลุ่มกรีนพีซ ได้มายื่นพวงหรีดให้สภาอุตสาหกรรมฯ โดยเรียกร้องให้สภาอุตสาหกรรมฯ หยุดให้ข่าวว่า การประกาศเป็นเขตควบคุมมลพิษจะกระทบการท่องเที่ยวและเศรษฐกิจของจังหวัด พร้อมระบุว่าแม้จะมีการให้ข่าวว่าหลายโรงงานมีมาตรฐานดูและเรื่องสิ่งแวดล้อม แต่ยังมีคำบ่งชี้จากสถาบันมะเร็งว่า ที่จังหวัดระยองมีค่าความเสี่ยงมะเร็งสูงกว่าจังหวัดอื่น 3-5 เท่า
นายพยุงศักดิ์ ชาติสุทธิผล รองประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย กล่าวว่า ในการประชุมคณะกรรมกลั่นกรองการประชุมภาครัฐและเอกชน 3 สถาบัน วันนี้ ได้มีการพิจารณาวาระที่จะนำเสนอที่ประชุมคณะกรรมการร่วมภาครัฐและเอกชน (กกร.) ในวันที่ 18 มีนาคม 2552 โดยเฉพาะประเด็นคำพิพากษาของศาลปกครองระยอง ที่ประกาศให้พื้นที่มาบตาพุดเป็นเขตควบคุมมลพิษภายใน 60 วัน
“เรื่องดังกล่าวคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติมีสิทธิ์อุทธรณ์หากมีเหตุผล อย่างไรก็ตาม จากการหารือของ กกร.และการนิคมฯ เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาอยากให้มีการตั้งคณะกรรมการระดับชาติ เพื่อดูแลกรณีมาบตาพุด โดยจะให้มีการศึกษาวิจัยเพื่อให้ได้ข้อเท็จจริงไม่ให้เกิดความคิดเห็นที่ไม่ตรงกันในการแก้ปัญหา จนส่งผลกระทบต่อการลงทุนต่อเนื่อง ตลอดจนนักลงทุนที่กำลังจะลงทุน เพราะตราบใดที่ไม่มีความชัดเจนต่างชาติก็จะยังชะลอการลงทุน”
สำหรับนิคมอุตสาหกรรมที่อยู่ในข่ายจะได้รับผลกระทบตามคำพิพากษานั้น มี 6 นิคมอุตสาหกรรม 138 โรงงาน มีเม็ดเงินลงทุนรวมกันประมาณ 4-5 แสนล้านบาท และขณะนี้ยังมีโครงการรอการพิจารณาผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมอีกหลายโครงการ ส่วนใหญ่เป็นปิโตรเคมี
มีรายงานข่าวว่า เช้าวันนี้ มีชาวบ้านจากมาบตาพุดและบ้านฉาง รวมทั้งกลุ่มกรีนพีซ ได้มายื่นพวงหรีดให้สภาอุตสาหกรรมฯ โดยเรียกร้องให้สภาอุตสาหกรรมฯ หยุดให้ข่าวว่า การประกาศเป็นเขตควบคุมมลพิษจะกระทบการท่องเที่ยวและเศรษฐกิจของจังหวัด พร้อมระบุว่าแม้จะมีการให้ข่าวว่าหลายโรงงานมีมาตรฐานดูและเรื่องสิ่งแวดล้อม แต่ยังมีคำบ่งชี้จากสถาบันมะเร็งว่า ที่จังหวัดระยองมีค่าความเสี่ยงมะเร็งสูงกว่าจังหวัดอื่น 3-5 เท่า