ขุนคลัง นั่งหัวโต๊ะประชุม คกก.พัฒนาตลาดทุนฯ ใส่เกียร์ห้าปฏิรูปโครงสร้างครั้งใหญ่ วางคอนเซปต์ “BIG BANG” เตรียมตั้งบอร์ดร่างแผน ก่อนชงเข้า ครม.กลางปีนี้ โดยมีกรอบการปฏิรูป 7 ด้านสำคัญ สั่งสำรวจทรัพย์สินในมือทั้งหมดของคลัง ประกาศเดิมพันทุ่มหมดหน้าตัก หวังพลิกวิกฤตเป็นบวกในสิ้นปีนี้
นายกรณ์ จาติกวณิช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยถึงการประชุมคณะกรรมการพัฒนาตลาดทุนไทย นัดแรก วันนี้ เตรียมวางคอนเซปต์ “BIG BANG” เพื่อยกระดับตลาดทุนไทย 7 ด้าน ซึ่งจะเป็นการปฏิรูปตลาดทุนให้มีประสิทธิภาพในการพัฒนาเศรษฐกิจโดยรวม ซึ่งจะเชื่อมโยงตลาดทุนกับประชาชน และการลงทุนในทุกภาคส่วน
ทั้งนี้ กระทรวงการคลังจะมีการตั้งคณะอนุกรรมการ (บอร์ด) ร่างแผนขึ้นมาดำเนินการให้แล้วเสร็จ เพื่อเสนอที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ภายในกลางปีนี้ โดยมีกรอบการปฏิรูป 7 ด้าน ได้แก่ ยกระดับประสิทธิภาพของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) เพื่อเปิดทางให้มีการแข่งขันภายใต้โครงสร้างที่เป็นประโยชน์กับผู้เกี่ยวข้องทุกฝ่าย การเปิดเสรีธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับตลาดทุน การปฏิรูปโครงสร้างการกำกับดูแลตลาดทุน การปฏิรูปโครงสร้างกฎหมายที่เกี่ยวข้อง การปฏิรูปโครงสร้างภาษีที่มีความเหลื่อมล้ำ การออกผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ และการพัฒนาตลาดตราสารหนี้
“เมื่อปี ค.ศ.1985 ผมทำงานที่อังกฤษ และปี 1986 อังกฤษมี BIG BANG ปฏิรูปตลาดทุนครั้งใหญ่ และสามารถผลักดันตัวเองให้เป็นตลาดหุ้นชั้นนำของโลกได้ แต่การปฎิรูปก็มีผลต่อการเปลี่ยนแปลง มีการควบรวม ปรับวิธีการทำงาน แต่สุดท้ายเพื่อให้ตลาดทุนเป็นไปตามวัตถุประสงค์ เพื่อให้ผู้ประกอบการระดมทุนในต้นทุนถูกลง ของเราก็ต้องการให้เป็นแบบนี้”
รมว.คลัง กล่าวว่า ขณะนี้ ตนเองได้มอบหมายให้หน่วยงานในสังกัดกระทรวง สำรวจทรัพย์สินที่มีอยู่ทั้งหมด เพื่อนำมาพิจารณาสร้างรายได้ เกิดประโยชน์ให้คุ้มค่า ทั้งในส่วนที่ราชพัสดุ 12 ล้านไร่ ทรัพย์สินที่คลังถือหุ้นอยู่ หรืออื่นๆ ซึ่งเห็นว่าหากมีการประเมินสำรวจทรัพย์สินทั้งหมด และศึกษาถึงการใช้ประโยชน์ของทรัพยากรให้คุ้มค่า และเพื่อประโยชน์ของประชาชน ก็น่าจะช่วยเพิ่มเครดิตของประเทศให้มากขึ้นอีก
“ทรัพย์สินบางส่วนอาจมาจากความจำเป็นช่วงกอบกู้วิกฤต ซึ่งที่ผ่านมาไม่เคยทบทวนว่าจะคงหุ้นนี้ไว้หรือไม่ เชื่อว่ายังมีทรัพยากรอยู่มาก แต่ยังไม่ชัดเจน ไม่มีการทำบัญชีของประเทศไว้ ซึ่งเชื่อว่ามูลค่าจะมีมากกว่าที่คำนวณไว้ โจทย์คือต้องการดูข้อเท็จจริงก่อนจะประเมินว่าจะทำอย่างไรก็ทรัพย์สินพวกนี้ เพื่อให้ประชาชนสามารถใช้ความคุ้มค่านี้ได้” รมว.คลัง กล่าวสรุปทิ้งท้าย