ถึงคิวเชือด สพท.“ชุมพล” ไล่บี้ตัวเลขสถิตินักท่องเที่ยว สายตรงถึงผู้บัญชาการ ตม.ขอข้อมูลคนเข้าเมืองเป็นรายวัน พร้อมสั่ง สพท.ทำตัวเลขรายงานทุกสัปดาห์ ด้าน ศศิธารา เตรียมยึดคืนงานเก็บสถิติ ยื่นขอ ก.พ.ตั้งสำนักเศรษฐกิจการท่องเที่ยวและกีฬา ฉะ สพท.ทำงานล่าช้า อ้อนพาต้าทำบทวิเคราะห์แนวโน้มท่องเที่ยวเป็นรายประเทศ
นายชุมพล ศิลปอาชา รมว.กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เปิดเผยว่า ทางกระทรวงได้ขอความร่วมมือไปยังผู้บัญชาการตำรวจตรวจคนเข้าเมือง (ตม.) เพื่อขอยอดตัวเลขคนเข้าเมืองเป็นรายวัน และได้สั่งการให้ สพท.รวบรวมตัวเลขคนเข้าเมืองจาก ตม.ในรอบสัปดาห์ทุกวันศุกร์ เพื่อนำมาคัดแยกว่าเป็นจำนวนนักท่องเที่ยวเท่าใด แล้วจัดทำเป็นรายงานส่งถึง รมว.กระทรวงการท่องเที่ยวฯรับทราบทุกวันจันทร์
“ที่ต้องทำอย่างนี้เพราะต้องการทราบจำนวนนักท่องเที่ยวและผู้ที่เดินทางเข้าประเทศไทยในช่วงหลังเกิดเหตุการณ์ปิดสนามบินว่าเป็นอย่างไร และ การอัดฉีดเงินของภาครัฐที่ได้ดำเนินการไปนั้นได้ผลเพียงใด เพื่อนำข้อมูลนี้ไปชี้แจงแก่คณะรัฐมนตรี หากมีความจำเป็นต้องของบประมาณเพิ่มเติม หรือแสดงให้เห็นผลของการทำงาน” นายชุมพล กล่าว
***อัด “สพท.” อืดอาด
ด้าน นางสาวศศิธารา พิชัยชาญณรงค์ ปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เปิดเผยว่า กระทรวงการท่องเที่ยวฯอยู่ระหว่างการยื่นหนังสือถึงสำนักงานคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน (ก.พ.) เพื่อเสนอขอจัดตั้งสำนักเศรษฐกิจการท่องเที่ยวและกีฬา โดยทำงานขึ้นตรงกับสำนักงานปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวฯ ใช้งบประมาณ 27 ล้านบาท จัดทำระบบข้อมูลเพื่อจัดเก็บสถิติด้านการท่องเที่ยวทั้งหมด อาทิ ตัวเลขนักท่องเที่ยว การใช้จ่ายและพฤติกรรมของนักท่องเที่ยว เป็นต้น
โดยสำนักงานดังกล่าวนี้จะมาแทนที่สำนักนโยบายการท่องเที่ยวแห่งชาติที่มีอยู่ในปัจจุบัน ซึ่งมีหน้าที่ดูแลเรื่องกองทุนเพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวไทย, การให้ความช่วยเหลือทางการเงินแก่ผู้ประกอบการท่องเที่ยวที่ได้รับผลกระทบกรณีปิดสนามบินสุวรรณภูมิและดอนเมือง และการเบิกจ่ายเงินช่วยเหลือนักท่องเที่ยว ที่ได้รับผลกระทบกรณีปิดสนามบินสุวรรณภูมิ และดอนเมือง
ทั้งนี้ หลังการจัดตั้งสำนักเศรษฐกิจการท่องเที่ยวและกีฬาเสร็จแล้ว กระทรวงก็จะโอนย้ายงานการจัดเก็บสถิตินักท่องเที่ยว จากสำนักพัฒนาการท่องเที่ยว (สพท.) เข้ามาอยู่ด้วย เพราะที่ผ่านมา หลังจากงานจัดเก็บสถิตินักท่องเที่ยวโอนย้ายจากความรับผิดชอบของการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) มาอยู่ที่ สพท.พบว่า การจัดเก็บสถิติทำได้ล่าช้ามาก ไม่ทันต่อเหตุการณ์ ซึ่งอาจเป็นเพราะการทำงานของ สพท.ไม่ได้มีการติดตามตัวเลขอย่างใกล้ชิด แต่เชื่อว่า เมื่อโอนย้ายมาอยู่ที่ สำนักเศรษฐกิจการท่องเที่ยวและกีฬา ทางสำนักงานปลัดฯจะเร่งรัดให้ติดตามจัดเก็บตัวเลขสถิติได้เร็วขึ้น เพราะสถิติมีความสำคัญกับการประเมินสถานการณ์เพื่อจัดทำแผนงานได้ตรงตามเป้าหมาย
***เสนอแยกวิเคราะห์รายประเทศ
อย่างไรก็ตาม ปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวฯ ยังกล่าวอีกว่า ในการหารือกับ นายเกรกอรี่ เอ.ดัฟเฟล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร สมาคมส่งเสริมการท่องเที่ยวภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก (พาต้า)ได้ขอให้พาต้า ขยายการทำงานในด้านการจัดทำบทวิเคราะห์แนวโน้มการท่องเที่ยวเป็นรายประเทศในกลุ่มอาเซียน จากปัจจุบันที่ทำเฉพาะบทวิเคราะห์อาเซียนในภาพรวม เพราะประเทศในอาเซียนจะได้นำบทวิเคราะห์นี้ไปใช้เป็นข้อมูลการจัดทำแผนการตลาดได้แม่นยำขึ้น
สำหรับรายงานข้อมูลสถิตินักท่องเที่ยวล่าสุด พบว่า จำนวนนักท่องเที่ยวเฉพาะด่านสนามบินสุวรรณภูมิประจำเดือน มกราคม 2552 มีจำนวนทั้งสิ้น 841,340 คน ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 19.69% ส่วนตัวเลข 12 เดือนของปี 2551 มีจำนวนนักท่องเที่ยวเดินทางผ่านด่านที่สนามบินสุวรรณภูมิรวมทั้งสิ้น 10,062,855 คน ลดลงจากปี 2550 ประมาณ 2.97% ขณะที่ตัวเลขนักท่องเที่ยวรวมทุกด่านในรอบ 11 เดือนของปี 2551 (ม.ค.-พ.ย.) มีจำนวนทั้งสิ้น 13,374,453 คน เพิ่มขึ้น 3.34%
นายชุมพล ศิลปอาชา รมว.กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เปิดเผยว่า ทางกระทรวงได้ขอความร่วมมือไปยังผู้บัญชาการตำรวจตรวจคนเข้าเมือง (ตม.) เพื่อขอยอดตัวเลขคนเข้าเมืองเป็นรายวัน และได้สั่งการให้ สพท.รวบรวมตัวเลขคนเข้าเมืองจาก ตม.ในรอบสัปดาห์ทุกวันศุกร์ เพื่อนำมาคัดแยกว่าเป็นจำนวนนักท่องเที่ยวเท่าใด แล้วจัดทำเป็นรายงานส่งถึง รมว.กระทรวงการท่องเที่ยวฯรับทราบทุกวันจันทร์
“ที่ต้องทำอย่างนี้เพราะต้องการทราบจำนวนนักท่องเที่ยวและผู้ที่เดินทางเข้าประเทศไทยในช่วงหลังเกิดเหตุการณ์ปิดสนามบินว่าเป็นอย่างไร และ การอัดฉีดเงินของภาครัฐที่ได้ดำเนินการไปนั้นได้ผลเพียงใด เพื่อนำข้อมูลนี้ไปชี้แจงแก่คณะรัฐมนตรี หากมีความจำเป็นต้องของบประมาณเพิ่มเติม หรือแสดงให้เห็นผลของการทำงาน” นายชุมพล กล่าว
***อัด “สพท.” อืดอาด
ด้าน นางสาวศศิธารา พิชัยชาญณรงค์ ปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เปิดเผยว่า กระทรวงการท่องเที่ยวฯอยู่ระหว่างการยื่นหนังสือถึงสำนักงานคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน (ก.พ.) เพื่อเสนอขอจัดตั้งสำนักเศรษฐกิจการท่องเที่ยวและกีฬา โดยทำงานขึ้นตรงกับสำนักงานปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวฯ ใช้งบประมาณ 27 ล้านบาท จัดทำระบบข้อมูลเพื่อจัดเก็บสถิติด้านการท่องเที่ยวทั้งหมด อาทิ ตัวเลขนักท่องเที่ยว การใช้จ่ายและพฤติกรรมของนักท่องเที่ยว เป็นต้น
โดยสำนักงานดังกล่าวนี้จะมาแทนที่สำนักนโยบายการท่องเที่ยวแห่งชาติที่มีอยู่ในปัจจุบัน ซึ่งมีหน้าที่ดูแลเรื่องกองทุนเพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวไทย, การให้ความช่วยเหลือทางการเงินแก่ผู้ประกอบการท่องเที่ยวที่ได้รับผลกระทบกรณีปิดสนามบินสุวรรณภูมิและดอนเมือง และการเบิกจ่ายเงินช่วยเหลือนักท่องเที่ยว ที่ได้รับผลกระทบกรณีปิดสนามบินสุวรรณภูมิ และดอนเมือง
ทั้งนี้ หลังการจัดตั้งสำนักเศรษฐกิจการท่องเที่ยวและกีฬาเสร็จแล้ว กระทรวงก็จะโอนย้ายงานการจัดเก็บสถิตินักท่องเที่ยว จากสำนักพัฒนาการท่องเที่ยว (สพท.) เข้ามาอยู่ด้วย เพราะที่ผ่านมา หลังจากงานจัดเก็บสถิตินักท่องเที่ยวโอนย้ายจากความรับผิดชอบของการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) มาอยู่ที่ สพท.พบว่า การจัดเก็บสถิติทำได้ล่าช้ามาก ไม่ทันต่อเหตุการณ์ ซึ่งอาจเป็นเพราะการทำงานของ สพท.ไม่ได้มีการติดตามตัวเลขอย่างใกล้ชิด แต่เชื่อว่า เมื่อโอนย้ายมาอยู่ที่ สำนักเศรษฐกิจการท่องเที่ยวและกีฬา ทางสำนักงานปลัดฯจะเร่งรัดให้ติดตามจัดเก็บตัวเลขสถิติได้เร็วขึ้น เพราะสถิติมีความสำคัญกับการประเมินสถานการณ์เพื่อจัดทำแผนงานได้ตรงตามเป้าหมาย
***เสนอแยกวิเคราะห์รายประเทศ
อย่างไรก็ตาม ปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวฯ ยังกล่าวอีกว่า ในการหารือกับ นายเกรกอรี่ เอ.ดัฟเฟล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร สมาคมส่งเสริมการท่องเที่ยวภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก (พาต้า)ได้ขอให้พาต้า ขยายการทำงานในด้านการจัดทำบทวิเคราะห์แนวโน้มการท่องเที่ยวเป็นรายประเทศในกลุ่มอาเซียน จากปัจจุบันที่ทำเฉพาะบทวิเคราะห์อาเซียนในภาพรวม เพราะประเทศในอาเซียนจะได้นำบทวิเคราะห์นี้ไปใช้เป็นข้อมูลการจัดทำแผนการตลาดได้แม่นยำขึ้น
สำหรับรายงานข้อมูลสถิตินักท่องเที่ยวล่าสุด พบว่า จำนวนนักท่องเที่ยวเฉพาะด่านสนามบินสุวรรณภูมิประจำเดือน มกราคม 2552 มีจำนวนทั้งสิ้น 841,340 คน ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 19.69% ส่วนตัวเลข 12 เดือนของปี 2551 มีจำนวนนักท่องเที่ยวเดินทางผ่านด่านที่สนามบินสุวรรณภูมิรวมทั้งสิ้น 10,062,855 คน ลดลงจากปี 2550 ประมาณ 2.97% ขณะที่ตัวเลขนักท่องเที่ยวรวมทุกด่านในรอบ 11 เดือนของปี 2551 (ม.ค.-พ.ย.) มีจำนวนทั้งสิ้น 13,374,453 คน เพิ่มขึ้น 3.34%