xs
xsm
sm
md
lg

“โอสถสภา” ซุ่มสลัดภาพโบราณเจาะวัยโจ๋-ปรับองค์กร-โกอินเตอร์

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

โอสถสภา วางหมากรีแบรนดิ้ง คอร์ปอเรต 3-5 ปี สลัดภาพองค์กรเก่าแก่ สานภาพลักษณ์ทันสมัย เข้าถึงคนรุ่นใหม่ พร้อมดัน M-150 โกอินเตอร์เทียบชั้นเรดบูล หลังตลาดเครื่องดื่มชูกำลังในประเทศ หดตัวต่อเนื่อง 3 ปี อัดกลยุทธ์เรียลิตี ส่งเกมส์กลยุทธ์ ซีซั่น 2 ลงจอไตรมาส 2 หรือ 3 โยกหน่วยงานไบท์แบงค็อกผนวก M-150 หวังบริหารจัดการง่ายขึ้น

ผศ.รอ.นพ.ดร.สุมาส วงศ์สุนพรัตน์ ผู้เชี่ยวชาญด้านกลยุทธ์การตลาดและดูแลภาพลักษณ์องค์กร บริษัท โอสถสภา จำกัด ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายเครื่องดื่มชูกำลัง M-150 และสินค้าอุปโภคบริโภค เปิดเผยว่า บริษัทวางแผนดำเนินการคอร์ปอเรต รีแบรนดิ้ง โอสถสภา อย่างต่อเนื่องในช่วง 3-5 ปี เพื่อสร้างการรับรู้กลุ่มเป้าหมายเจนเนอเรชัน Y และ Z หลังจากก่อนหน้านี้ภาพลักษณ์ของบริษัทดูเก่าแก่ โดยมีอายุร่วม 117 ปี ทำให้เข้าถึงฐานลูกค้าคนรุ่นใหม่ได้ยาก

จากนโยบายดังกล่าว ล่าสุด เตรียมสานต่อการทำเรียลิตีโชว์ ภายใต้ “เกมส์กลยุทธ์ ซีซัน 2” โดยปีนี้การดำเนินงานจะลงลึกและมีมิติมากขึ้น ซึ่งจะเปิดตัวรายการในช่วงไตรมาส 2 หรือ 3 มีทั้งหมด 8 ตอน ผ่านทางช่อง 9 ทั้งนี้ เพื่อสร้างภาพลักษณ์โอสถสภา ให้มีความทันสมัยมากยิ่งขึ้น โดยหลังจากจบรายการเรียลิตี้โชว์เกมส์กลยุทธ์ ซีซัน 1 ทำให้บริษัทฯเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายคนรุ่นใหม่ได้มากขึ้น

“การรับรู้ของคนทั่วไปต่อโอสถสภา เป็นบริษัทที่ดำเนินธุรกิจยา และเครื่องดื่มชูกำลัง ทั้งๆที่ผ่านมาเรามีสินค้าเจาะกลุ่มเป้าหมายวัยรุ่นมากมาย อาทิ โคโลญจ์และแป้งเย็นทเวลฟ์พลัส ผลิตภัณฑ์ระงับกลิ่นกายเอ็กซ์ซิส หรือกระทั่งแป้งเบบี้ มายด์ แต่การรับรู้ในกลุ่มสินค้าเหล่านี้ว่าเป็นของโอสถสภา ยังมีน้อยมาก” ผศ.รอ.นพ.ดร.สุมาส กล่าว

สำหรับเป้าหมายของโอสถสภา นอกจากต้องการเข้าถึงคนรุ่นใหม่แล้ว ขณะเดียวกัน ยังวางแนวทางขยายตลาดสู่โกลเบิ้ลให้มากขึ้น โดยเฉพาะการทำตลาดเครื่องดื่มชูกำลัง ซึ่งปัจจุบันเป็นผู้นำตลาดในประเทศไทย ครองส่วนแบ่งกว่า 50% จากตลาดเครื่องดื่มชูกำลังมูลค่า 1.5-1.6 หมื่นล้านบาท แต่ในตลาดต่างประเทศยังทำตลาดได้ไม่มากนัก เมื่อเทียบกับคู่แข่งอย่างกระทิงแดง ที่สามารถขยายตลาดเรดบูลไปทั่วโลก

ผศ.รอ.นพ.ดร.สุมาส กล่าวว่า การที่บริษัทขยายเครื่องดื่มชูกำลังสู่ตลาดต่างประเทศมากขึ้น ส่วนหนึ่งเพราะแนวโน้มตลาดเครื่องดื่มชูกำลังหดตัวลงอย่างต่อเนื่องในช่วง 3 ปี เพราะเป็นตลาดแมส โดยมีฐานลูกค้าเป็นผู้ใช้แรงงานเป็นหลัก และประการสำคัญไม่สามารถขยายกลุ่มเป้าหมายคนรุ่นใหม่ได้

อย่างไรก็ตาม การทำตลาดเครื่องดื่มชูกำลังต้องปรับกลยุทธ์ใหม่ ด้วยการสร้างมูลค่าเพิ่มเติมคุณค่าทางอาหาร อาทิ ใส่ไฟเบอร์ ขณะเดียวกันก็ต้องปรับการสื่อสารให้เข้าใจถึงความต้องการของกลุ่มเป้าหมาย นอกจากนี้ ยังต้องมีการสร้างความสัมพันธ์ระหว่างแบรนด์กับลูกค้าให้มากขึ้นและต่อเนื่องอย่างมีประสิทธิภาพด้วย

ทั้งนี้ โอสถสภาได้มีการปรับโครงสร้างการทำงาน โดยโยกหน่วยงานไบท์แบงค็อก หรือผู้ดูแลด้านการตลาดเครื่องดื่มเจาะกลุ่มนิชมาร์เก็ต ขยายกลุ่มคนรุ่นใหม่หรือคนเมือง เป็นหลัก อาทิ เอ็ม-แม็กซ์, ชาร์กคูลไบท์ เครื่องดื่มผลิตภัณฑ์แก้อาการเมาค้างแฮง มารวมอยู่กับกลุ่มเครื่องดื่มชูกำลัง M-150 ทั้งนี้ เพื่อให้การบริหารจัดการง่ายขึ้น
กำลังโหลดความคิดเห็น