ส่งออกปีนี้ส่อแววเข็นไม่ขึ้น ทูตพาณิชย์ขอหดเป้าขยายตัวทั้งตลาดใหม่ ตลาดเก่า คาดโอกาสเป้ารวม 0-3% ทำได้ยาก หลังวิกฤตเศรษฐกิจส่งผลกระทบรุนแรง
รายงานข่าวจากกระทรวงพาณิชย์ แจ้งว่า การประชุมเพื่อประเมินสถานการณ์การส่งออกไทยปี 2552 ในวันนี้ (25 ก.พ.) ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ที่ประจำอยู่ทั่วโลก จะรายงานตัวเลขการส่งออกรายตลาดให้ทางนางพรทิวา นาคาศัย รมว.พาณิชย์ รับทราบ เพื่อนำมาประกอบการพิจารณากำหนดเป้าหมายการส่งออกปีนี้ใหม่
ทั้งนี้ มีแนวโน้มที่จะมีการปรับลดเป้าหมายการส่งออกในปีนี้ต่ำกว่า 0-3% ตามเป้าหมายเดิมที่ได้กำหนดไว้ เนื่องจากมีการปรับลดเป้าส่งออกในแต่ละตลาดเกือบทุกภูมิภาคทั้งตลาดใหม่ เช่น ตะวันออกกลาง อินเดีย แอฟริกา และตลาดหลัก เช่น ยุโรป เป็นต้น
นายปิลัณ พานิชศุภผล ผู้อำนวยการอาวุโสสำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ดูไบ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ กล่าวว่า ได้ปรับเป้าหมายการส่งออกตลาดตะวันออกกลางขยายตัวที่ 10% ลดจากเป้าหมายเดิมที่คาดว่าขยายตัว 18% ซึ่งการชะลอตัวดังกล่าว เป็นผลกระทบจากราคาน้ำมันที่ปรับลดลง ทำให้กลุ่มประเทศเหล่านี้มีรายได้ลดลง รวมทั้งผลกระทบจากวิกฤตเศรษฐกิจโลก ทำให้การลงทุนในประเทศอื่นของกลุ่มตะวันออกกลางประสบปัญหาไปด้วย แต่หากเทียบสัดส่วนการส่งออกไปยังตลาดแห่งนี้ยังเพิ่มขึ้นเป็น 5.9% ของมูลค่าการส่งออกไทยทั้งหมด จากปีที่แล้วมีสัดส่วนการส่งออกตลาดแห่งนี้ 5.6% โดยกลยุทธ์ที่จะผลักดันการส่งออกจะมุ่งเน้นธุรกิจบริการทุกประเภท ยกเว้นกลุ่มอสังหาริมทรัพย์และก่อสร้างที่มีแนวโน้มชะลอตัว
นางสาวจิราภรณ์ ตุลยานนท์ ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ มุมไบ อินเดีย กล่าวว่า เป้าหมายการส่งออกตลาดอินเดียปีนี้ คาดว่าขยายตัว 10% มูลค่า 3,700 ล้านเหรียญสหรัฐ ลดจากเป้าหมายเดิมขยายตัว 20% ซึ่งการปรับลดดังกล่าวเพื่อให้สอดคล้องกับวิกฤตเศรษฐกิจโลกชะลอตัว แต่ยังถือว่าตลาดอินเดียมีโอกาสในการส่งออก เพราะมูลค่าการส่งออกยังน้อยอยู่ โดยสินค้าสำคัญที่จะส่งออกยังเป็นกลุ่มอิเล็กทรอนิกส์ แผงวงจรไฟฟ้า และสินค้าผลไม้ที่ได้ประโยชน์จากการลดภาษีตามกรอบเขตการค้าเสรี (เอฟทีเอ) 82 รายการ
นายสมเด็จ สุสมบูรณ์ ผู้อำนวยการอาวุโสสำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ พริทอเรีย แอฟริกาใต้ กล่าวว่า การส่งออกไปยังตลาดแอฟริกา คาดว่าจะขยายตัว 5-8% ลดจากการคาดการณ์เดิมที่คาดว่าขยายตัว 10% ซึ่งเป็นผลจากปัจจัยลบภาวะเศรษฐกิจแอฟริกาชะลอตัว โดยทางกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) คาดว่าเศรษฐกิจของแอฟริกาจะขยายตัวเหลือ 3-5% จากเดิมที่คาดว่าขยายตัว 6-7% ซึ่งเป็นผลกระทบวิกฤตการเงินโลกทางอ้อม อย่างไรก็ตาม คาดว่ากลุ่มสินค้าจำเป็นต่อชีวิตประจำวัน เช่น อาหาร และข้าว ยังส่งออกได้ดีอยู่
นายไพจิตร วิบูลย์ธนสาร ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ นครเซี่ยงไฮ้ ประเทศจีน กล่าวว่า การส่งออกไปตลาดจีนปีนี้คาดว่าจะขยายตัว 7% ลดลงจากประมาณการณ์เดิมที่คาดว่าขยายตัว 15% ซึ่งสำนักงานฯ จะใช้กลยุทธ์ในการเจาะตลาดด้วยการขยายจำนวนและพื้นที่การจัดงานแสดงสินค้าให้มีขนาดใหญ่ขึ้น และเพิ่มเป้าหมายผลักดันสินค้าและบริการใหม่ๆในตลาดจีนเพิ่มขึ้น
นางสาวบรรจงจิตต์ อังศุสิงห์ ผู้อำนวยการส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ลอนดอน สหราชอาณาจักร กล่าวว่า การส่งออกไปตลาดยุโรปคาดว่าจะขยายตัว 3% ลดลงจากเป้าหมายเดิมที่คาดว่าขยายตัว 4-5% ซึ่งเป็นผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจโลกชะลอตัว โดยสินค้าที่คาดว่าจะส่งออกลดลง คือ กลุ่มยานยนต์ และกลุ่มอิเล็กทรอนิกส์ แต่ก็ยังมีสินค้าที่คาดว่าจะส่งออกได้ดีอยู่ คือ ไก่แปรรูป ผักผลไม้สด เสื้อผ้า และอัญมณี
นางจันทิรา ยิมเรวัต ผู้อำนวยการอาวุโสสำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ลอสแอนเจลีส สหรัฐอเมริกา กล่าวว่า การส่งออกไปตลาดสหรัฐฯ คาดว่าจะขยายตัว 2% เท่ากับเป้าหมายเดิมที่เคยเสนอไปเมื่อปลายปีที่แล้ว แม้ว่าตลาดสหรัฐฯ จะประสบปัญหาวิกฤตเศรษฐกิจภายในประเทศ แต่เชื่อว่าการส่งออกยังขยายตัวได้อยู่ เพราะมีการเพิ่มช่องทางการขายสินค้าไทยให้มากขึ้น เช่น การขายผ่านสถาบันศึกษา โรงพยาบาล กองทัพ เรือสำราญ สวนสนุก
รายงานข่าวจากกระทรวงพาณิชย์ แจ้งว่า การประชุมเพื่อประเมินสถานการณ์การส่งออกไทยปี 2552 ในวันนี้ (25 ก.พ.) ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ที่ประจำอยู่ทั่วโลก จะรายงานตัวเลขการส่งออกรายตลาดให้ทางนางพรทิวา นาคาศัย รมว.พาณิชย์ รับทราบ เพื่อนำมาประกอบการพิจารณากำหนดเป้าหมายการส่งออกปีนี้ใหม่
ทั้งนี้ มีแนวโน้มที่จะมีการปรับลดเป้าหมายการส่งออกในปีนี้ต่ำกว่า 0-3% ตามเป้าหมายเดิมที่ได้กำหนดไว้ เนื่องจากมีการปรับลดเป้าส่งออกในแต่ละตลาดเกือบทุกภูมิภาคทั้งตลาดใหม่ เช่น ตะวันออกกลาง อินเดีย แอฟริกา และตลาดหลัก เช่น ยุโรป เป็นต้น
นายปิลัณ พานิชศุภผล ผู้อำนวยการอาวุโสสำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ดูไบ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ กล่าวว่า ได้ปรับเป้าหมายการส่งออกตลาดตะวันออกกลางขยายตัวที่ 10% ลดจากเป้าหมายเดิมที่คาดว่าขยายตัว 18% ซึ่งการชะลอตัวดังกล่าว เป็นผลกระทบจากราคาน้ำมันที่ปรับลดลง ทำให้กลุ่มประเทศเหล่านี้มีรายได้ลดลง รวมทั้งผลกระทบจากวิกฤตเศรษฐกิจโลก ทำให้การลงทุนในประเทศอื่นของกลุ่มตะวันออกกลางประสบปัญหาไปด้วย แต่หากเทียบสัดส่วนการส่งออกไปยังตลาดแห่งนี้ยังเพิ่มขึ้นเป็น 5.9% ของมูลค่าการส่งออกไทยทั้งหมด จากปีที่แล้วมีสัดส่วนการส่งออกตลาดแห่งนี้ 5.6% โดยกลยุทธ์ที่จะผลักดันการส่งออกจะมุ่งเน้นธุรกิจบริการทุกประเภท ยกเว้นกลุ่มอสังหาริมทรัพย์และก่อสร้างที่มีแนวโน้มชะลอตัว
นางสาวจิราภรณ์ ตุลยานนท์ ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ มุมไบ อินเดีย กล่าวว่า เป้าหมายการส่งออกตลาดอินเดียปีนี้ คาดว่าขยายตัว 10% มูลค่า 3,700 ล้านเหรียญสหรัฐ ลดจากเป้าหมายเดิมขยายตัว 20% ซึ่งการปรับลดดังกล่าวเพื่อให้สอดคล้องกับวิกฤตเศรษฐกิจโลกชะลอตัว แต่ยังถือว่าตลาดอินเดียมีโอกาสในการส่งออก เพราะมูลค่าการส่งออกยังน้อยอยู่ โดยสินค้าสำคัญที่จะส่งออกยังเป็นกลุ่มอิเล็กทรอนิกส์ แผงวงจรไฟฟ้า และสินค้าผลไม้ที่ได้ประโยชน์จากการลดภาษีตามกรอบเขตการค้าเสรี (เอฟทีเอ) 82 รายการ
นายสมเด็จ สุสมบูรณ์ ผู้อำนวยการอาวุโสสำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ พริทอเรีย แอฟริกาใต้ กล่าวว่า การส่งออกไปยังตลาดแอฟริกา คาดว่าจะขยายตัว 5-8% ลดจากการคาดการณ์เดิมที่คาดว่าขยายตัว 10% ซึ่งเป็นผลจากปัจจัยลบภาวะเศรษฐกิจแอฟริกาชะลอตัว โดยทางกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) คาดว่าเศรษฐกิจของแอฟริกาจะขยายตัวเหลือ 3-5% จากเดิมที่คาดว่าขยายตัว 6-7% ซึ่งเป็นผลกระทบวิกฤตการเงินโลกทางอ้อม อย่างไรก็ตาม คาดว่ากลุ่มสินค้าจำเป็นต่อชีวิตประจำวัน เช่น อาหาร และข้าว ยังส่งออกได้ดีอยู่
นายไพจิตร วิบูลย์ธนสาร ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ นครเซี่ยงไฮ้ ประเทศจีน กล่าวว่า การส่งออกไปตลาดจีนปีนี้คาดว่าจะขยายตัว 7% ลดลงจากประมาณการณ์เดิมที่คาดว่าขยายตัว 15% ซึ่งสำนักงานฯ จะใช้กลยุทธ์ในการเจาะตลาดด้วยการขยายจำนวนและพื้นที่การจัดงานแสดงสินค้าให้มีขนาดใหญ่ขึ้น และเพิ่มเป้าหมายผลักดันสินค้าและบริการใหม่ๆในตลาดจีนเพิ่มขึ้น
นางสาวบรรจงจิตต์ อังศุสิงห์ ผู้อำนวยการส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ลอนดอน สหราชอาณาจักร กล่าวว่า การส่งออกไปตลาดยุโรปคาดว่าจะขยายตัว 3% ลดลงจากเป้าหมายเดิมที่คาดว่าขยายตัว 4-5% ซึ่งเป็นผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจโลกชะลอตัว โดยสินค้าที่คาดว่าจะส่งออกลดลง คือ กลุ่มยานยนต์ และกลุ่มอิเล็กทรอนิกส์ แต่ก็ยังมีสินค้าที่คาดว่าจะส่งออกได้ดีอยู่ คือ ไก่แปรรูป ผักผลไม้สด เสื้อผ้า และอัญมณี
นางจันทิรา ยิมเรวัต ผู้อำนวยการอาวุโสสำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ลอสแอนเจลีส สหรัฐอเมริกา กล่าวว่า การส่งออกไปตลาดสหรัฐฯ คาดว่าจะขยายตัว 2% เท่ากับเป้าหมายเดิมที่เคยเสนอไปเมื่อปลายปีที่แล้ว แม้ว่าตลาดสหรัฐฯ จะประสบปัญหาวิกฤตเศรษฐกิจภายในประเทศ แต่เชื่อว่าการส่งออกยังขยายตัวได้อยู่ เพราะมีการเพิ่มช่องทางการขายสินค้าไทยให้มากขึ้น เช่น การขายผ่านสถาบันศึกษา โรงพยาบาล กองทัพ เรือสำราญ สวนสนุก