วิกฤติรพ.เอกชนขนาดเล็กหลาบสิบราย สู้พิษเศรษฐกิจไม่ไหว มุ่งหาคนช่วยบริหาร “เปาโล” เล็งอุ้มไว้ 2 แห่ง ในเขตกรุงเทพฯและปริมณฑล เผยปีนี้ลงทุนต่อเนื่อง เทอีก 240 ล้านบาท รีโนเวตทั้ง 3 สาขาเดิม พร้อมชนตลาดต่างประเทศบุกเพื่อนบ้านและตะวันออกกลาง มั่นใจรายได้ขยับเพิ่มอีก 15-16% รวมกว่า 3,200 ล้านบาทปีนี้
นายอิทธิ ทองแตง ประธานกรรมการบริหาร เครือโรงพยาบาลเปาโล เมโมเรียล เปิดเผยว่า สถานการณ์ผู้ให้บริการสถานพยาบาลโดยเฉพาะกลุ่มโรงพยาบาลเอกชนขนาดเล็ก พบว่า ได้รับผลกระทบจากสภาพเศรษฐกิจจากปีที่ผ่านมาหลายสิบราย จึงทำให้มีการเข้ามาเจรจาให้ทางเปาโล เข้าไปช่วยแก้ไขและร่วมบริหารจัดการให้ ซึ่งทางเปาโล กำลังพิจารณาอยู่ 2 แห่ง โดยจะต้องมีขนาดที่ 100-200 เตียง ต่อปีมีรายได้ 500 ล้านบาท ในเขตกรุงเทพฯและปริมณฑล โดยสามารถสรุปแล้ว 1 แห่ง เชื่อว่าช่วงไตรมาสสี่จะเห็นโรงพยาบาลเปาโล สาขาที่ 4 ได้ ทั้งนี้ทางเปาโลจะเข้าไปในลักษณะของการถือหุ้นมากกว่า 50% หรือรับบริหารจัดการให้ แต่ต้องใช้ชื่อโรงพยาบาล เป็น เปาโล
นายเบญจะ อาสนเพชร รองกรรมการผู้จัดการสายพัฒนาธุรกิจและบริการ เครือโรงพยาบาลเปาโล เมโมเรียล กล่าวต่อว่า ปีนี้ทางโรงพยาบาลเครือเปาโลทั้ง 3 สาขา จะยังคงเดินหน้ารีโนเวตหรือลงทุนต่อเนื่อง ภายใต้เม็ดเงินการลงทุนรวมกว่า 240 ล้านบาท สูงกว่าปีก่อนที่ใช้ไป 200 ล้านบาท โดยปีนี้สาขาพหลโยธิน คาดว่าจะใช้งบ 130 ล้านบาท สาขาสมุทรปราการใช้ 70 ล้านบาท และสาขาโชคชัย4 ใช้ 43 ล้านบาท โดยจะเป็นการเพิ่มแผนกการรักษาแบบเฉพาะทางมากขึ้น รวมถึงการปรับปรุงสถานที่ให้น่าเข้ามาใช้บริการ
นอกจากนี้ปีนี้ยังได้มีการปรับสโลแกนใหม่ คือ “ดูแลชีวิตคุณ ด้วยชีวิตเรา” เพื่อให้เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้มากขึ้น ภายใต้งบการตลาดเพื่อการโฆษณาและประชาสัมพันธ์กว่า 20 ล้านบาท ในลักษณะป้ายโฆษณาขนาดใหญ่ รวมถึงม๊อกอัพต่างๆภายในโรงพยาบาล
ในส่วนของการให้บริการ ปีนี้จะมุ่งตลาดต่างประเทศมากยิ่งขึ้น จากเดิมในปีก่อนมีสัดส่วนเพียง 3% จากจำนวนผู้ใช้บริการทั้งหมด ปีนี้จะรุกกลุ่มประเทศเพื่อนบ้าน เช่น พม่า ลาว เขมร และตะวันออกกลางอย่างจริงจัง โดยมีการเข้าไปเจรจากับกลุ่มผู้ประกอบการในแต่ละพื้นที่เพื่อแต่งตั้งให้ดูแลในเครือเปาโล เชื่อว่าสิ้นปีสัดส่วนเพิ่มขึ้นเป็น 6% จากจำนวนผู้ใช้บริการทั้งหมด
ปีที่ผ่านมาเครือเปาโล มีรายได้เติบโตขึ้นกว่า 20% คิดเป็นมูลค่ากว่า2,784 ล้านบาท แบ่งเป็น พหลโยธิน 1,677 ล้านบาท สมุทรปราการ 754 ล้านบาท และโชคชัย4 ราว 353 ล้านบาท โดยแนวโน้มจำนวนผู้ใช้บริการที่เติบโตมากสุด เป็น สาขา โชคชัย4 สำหรับในปีนี้เติบโตเพิ่มขึ้นจากปีก่อน 15-16% หรือมีรายได้ 3,600 ล้านบาท
นายอิทธิ ทองแตง ประธานกรรมการบริหาร เครือโรงพยาบาลเปาโล เมโมเรียล เปิดเผยว่า สถานการณ์ผู้ให้บริการสถานพยาบาลโดยเฉพาะกลุ่มโรงพยาบาลเอกชนขนาดเล็ก พบว่า ได้รับผลกระทบจากสภาพเศรษฐกิจจากปีที่ผ่านมาหลายสิบราย จึงทำให้มีการเข้ามาเจรจาให้ทางเปาโล เข้าไปช่วยแก้ไขและร่วมบริหารจัดการให้ ซึ่งทางเปาโล กำลังพิจารณาอยู่ 2 แห่ง โดยจะต้องมีขนาดที่ 100-200 เตียง ต่อปีมีรายได้ 500 ล้านบาท ในเขตกรุงเทพฯและปริมณฑล โดยสามารถสรุปแล้ว 1 แห่ง เชื่อว่าช่วงไตรมาสสี่จะเห็นโรงพยาบาลเปาโล สาขาที่ 4 ได้ ทั้งนี้ทางเปาโลจะเข้าไปในลักษณะของการถือหุ้นมากกว่า 50% หรือรับบริหารจัดการให้ แต่ต้องใช้ชื่อโรงพยาบาล เป็น เปาโล
นายเบญจะ อาสนเพชร รองกรรมการผู้จัดการสายพัฒนาธุรกิจและบริการ เครือโรงพยาบาลเปาโล เมโมเรียล กล่าวต่อว่า ปีนี้ทางโรงพยาบาลเครือเปาโลทั้ง 3 สาขา จะยังคงเดินหน้ารีโนเวตหรือลงทุนต่อเนื่อง ภายใต้เม็ดเงินการลงทุนรวมกว่า 240 ล้านบาท สูงกว่าปีก่อนที่ใช้ไป 200 ล้านบาท โดยปีนี้สาขาพหลโยธิน คาดว่าจะใช้งบ 130 ล้านบาท สาขาสมุทรปราการใช้ 70 ล้านบาท และสาขาโชคชัย4 ใช้ 43 ล้านบาท โดยจะเป็นการเพิ่มแผนกการรักษาแบบเฉพาะทางมากขึ้น รวมถึงการปรับปรุงสถานที่ให้น่าเข้ามาใช้บริการ
นอกจากนี้ปีนี้ยังได้มีการปรับสโลแกนใหม่ คือ “ดูแลชีวิตคุณ ด้วยชีวิตเรา” เพื่อให้เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้มากขึ้น ภายใต้งบการตลาดเพื่อการโฆษณาและประชาสัมพันธ์กว่า 20 ล้านบาท ในลักษณะป้ายโฆษณาขนาดใหญ่ รวมถึงม๊อกอัพต่างๆภายในโรงพยาบาล
ในส่วนของการให้บริการ ปีนี้จะมุ่งตลาดต่างประเทศมากยิ่งขึ้น จากเดิมในปีก่อนมีสัดส่วนเพียง 3% จากจำนวนผู้ใช้บริการทั้งหมด ปีนี้จะรุกกลุ่มประเทศเพื่อนบ้าน เช่น พม่า ลาว เขมร และตะวันออกกลางอย่างจริงจัง โดยมีการเข้าไปเจรจากับกลุ่มผู้ประกอบการในแต่ละพื้นที่เพื่อแต่งตั้งให้ดูแลในเครือเปาโล เชื่อว่าสิ้นปีสัดส่วนเพิ่มขึ้นเป็น 6% จากจำนวนผู้ใช้บริการทั้งหมด
ปีที่ผ่านมาเครือเปาโล มีรายได้เติบโตขึ้นกว่า 20% คิดเป็นมูลค่ากว่า2,784 ล้านบาท แบ่งเป็น พหลโยธิน 1,677 ล้านบาท สมุทรปราการ 754 ล้านบาท และโชคชัย4 ราว 353 ล้านบาท โดยแนวโน้มจำนวนผู้ใช้บริการที่เติบโตมากสุด เป็น สาขา โชคชัย4 สำหรับในปีนี้เติบโตเพิ่มขึ้นจากปีก่อน 15-16% หรือมีรายได้ 3,600 ล้านบาท