xs
xsm
sm
md
lg

“บาร์บีคิวพลาซ่า” ผ่อนคันเร่ง “จุ่มแซบฮัท” จ่อคิวโกอินเตอร์

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

บาร์บีคิวพลาซ่า - จุ่มแซบฮัท ผ่อนคันเร่ง ลดจำนวนเปิดสาขาใหม่ เหตุ ศูนย์การค้าเปิดใหม่น้อยลง เศรษฐกิจไม่ดี พร้อมลุยทำซีอาร์เอ็ม งัดบัตรสมาร์ทการ์ดใหม่ ดึงสมาชิก เพิ่มยอดขาย จุ่มแซบฮัท มีโอกาสโกอินเตอร์ตามรอยบาร์บีคิวพลาซ่า

นางสาวชาตยา ชูพจน์เจริญ ผู้อำนวยการฝ่ายพัฒนาธุรกิจ บริษัท เดอะบาร์บีคิวพลาซ่า จำกัด ผู้ดำเนินธุรกิจร้านอาหาร “บาร์บีคิวพลาซ่า” และ “จุ่มแซบฮัท” กล่าวกับ “ASTVผู้จัดการรายวัน” ว่า แผนการดำเนินธุรกิจในส่วนของร้านอาหารในปีนี้ จะยังคงมีการลงทุนต่อเนื่อง แต่จะลดอัตราการขยายตัวลง เนื่องจากสภาพเศรษฐกิจที่ไม่ค่อยดี ผู้บริโภคมีกำลังซื้อที่ลดลง และปัญหาการเมืองที่ยังคงมีอยู่ ซึ่งส่งผลต่อความเชื่อมั่นของผู้บริโภคด้วย คาดว่า สถานการณ์โดยรวมในช่วงครึ่งปีแรกจะยังคงไม่ดี

นอกจากนั้นแล้ว ยังเป็นผลมาจากการที่ศูนย์การค้ามีการเปิดสาขาใหม่น้อยลง และหลายแห่งก็มีการเลื่อนโครงการออกไป ทำให้บริษัทไม่สามารถที่จะเปิดสาขาใหม่ได้มากด้วย เพราะบริษัทจะขยายสาขาควบคู่ไปกับศูนย์การค้าเป็นหลักอยู่แล้ว ดังนั้น จึงไม่มีพื้นที่รองรับการขยายตัวของบริษัทด้วย ซึ่งสาขาของทั้งสองแบรนด์แบบสแตนด์อโลนนั้นแทบจะไม่มีเลย

โดยแผนขยายสาขาปีนี้จะมีประมาณ 5-10 แห่ง (โดยที่ 1 แห่งจะมีสองแบรนด์เปิดบริการควบคู่กันไปด้วยเป็นส่วนใหญ่) ซึ่งก่อนหน้านี้ โดยเฉลี่ยแล้วบริษัทจะขยายสาขาประมาณปีละ 15 แห่งเป็นอย่างต่ำ ซึ่งก็เท่ากับว่าเปิดประมาณ 30 สาขา รวมกันทั้งสองแบรนด์ และปีที่แล้วมียอดขายเติบโต 13%

ปัจจุบันบริษัทมีสาขาเปิดบริการรวมกันประมาณ 80แห่ง แบ่งเป็น ร้านบาร์บีคิวพลาซ่าประมาณ 80 สาขา และร้านจุ่มแซบฮัท ประมาณ 70 สาขา และแยกเป็นร้านที่ตั้งอยู่ในกรุงเทพฯประมาณ 80% และตั้งอยู่ในต่างจังหวัด 20% โดยที่ปีที่แล้วเปิดสาขาใหม่ประมาณ 12 ทำเล หรือเท่ากับ 24 ร้าน ซึ่งถือว่าเป็นปริมาณที่มากพอสมควรกับสถานการณ์เศรษฐกิจที่เป็นอยู่ เช่น ในกรุงเทพฯ คือ เซ็นทรัลแจ้งวัฒนะ ส่วนต่างจังหวัด เช่น ที่ แฟรี่พลาซ่าขอนแก่น, บิ๊กซีรังสิต คลอง 6, ฮาเบอร์มอลล์ แหลมฉบัง, เทสโก้โลตัส ศาลายา เป็นต้น

สำหรับสาขาใหม่ปีนี้ที่เพิ่งเปิดไปแล้ว คือ ที่เซ็นทรัลพัทยาเมื่อวันที่ 23 มกราคมปีนี้ และต่อไปเตรียมเปิดที่ เซ็นทรัลชลบุรี, เซ็นทรัลขอนแก่น และที่ นวมินทร์ซิตี้ กรุงเทพฯ ซึ่งเป็นพื้นที่ที่ได้มีการสรุปการเจรจากันไปแล้ว ส่วนครึ่งปีหลังจะต้องศึกษาหาทำเลใหม่เพิ่มเติม เพื่อสามารถเปิดให้ได้ตามแผนงานที่วางไว้

ขณะเดียวกัน ในปีนี้จะเน้นการทำซีอาร์เอ็ม และกิจกรรมมากขึ้นเพื่อเป็นการกระตุ้นลูกค้าเข้ามาบริโภค โดยเฉพาะการทำบัตรสมาชิกแบบใหม่ “วิทเลิฟ สมาร์ทการ์ด” (With Love Smart Card) โดยใช้ระบบชิป เป็นการพัฒนาจากระบบบัตรเดิมที่เป็นเพียงแค่บัตรวิทเลิฟเท่านั้น มีแค่การรับส่วนลด แต่บัตรใหม่จะมีทั้งรับส่วนลดและการสะสมแต้ม เพื่อนำไปใช้แลกสิ่งของได้อีกด้วย โดยคาดว่า ปีนี้จะมีฐานสมาชิกเพิ่มขึ้นอีก 25% จากปีที่แล้วมีประมาณ 90,000 ราย และจะช่วยเพิ่มยอดขายจากในส่วนของสมาชิกได้อีก 30% ซึ่งปัจจุบันลูกค้าที่เข้ามาทานในร้านบาร์บีคิวพลาซ่าจะมีค่าใช้จ่ายประมาณ 200 บาทต่อคน ส่วนร้านจุ่มแซ่บฮัทอยู่ที่ 180 บาทต่อคน ขณะที่ยอดขายจะมาจากบาร์บีคิวพลาซ่าในสัดส่วนมากกว่า 70% และอีก 30% มาจากร้านจุ่มแซบฮัท

นอกจากนั้น ยังมีร้านอาหารอีก 2 แบรนด์ คือ ร้านไฟร์เพลซ เป็นร้านอาหารย่างสไตล์ญี่ปุ่นแบบพรีเมียม ตั้งอยู่ที่ ดิ เอ็มโพเรียม ชั้น 4 เปิดมาแล้ว 2 ปี แต่คาดว่าคงไม่ได้เน้นขยายสาขาเท่าใดนัก 2.ร้านจัสท์แซบ บายจุ่มแซบฮัท เป็นร้านอาหารอีสานแบบส้มตำ ไก่ย่าง ชนิดฟาสต์ฟูด รูปแบบคีออส เปิดที่เมืองทองธานี 2 ปีแล้ว คาดว่า ตัวนี้มีโอกาสที่จะขยายสาขาได้ดีในอนาคต

ส่วนในต่างประเทศนั้น ที่ผ่านมาได้นำร้านบาร์บีคิวพลาซ่าไปลงทุนเปิดที่มาเลเซียมาแล้ว 3 ปีแล้ว ร่วมกับพันธมิตรท้องถิ่นที่ทำธุรกิจร้านอาหาร เปิดแล้ว 5 สาขา ในปีนี้จะเปิดอีก 1 สาขา ในอนาคตมีความเป็นไปได้ที่จะนำแบรนด์ร้านจุ่มแซบฮัทไปเปิดอีกด้วย
กำลังโหลดความคิดเห็น