เตรียมทุ่มงบ 2.44 แสนล้าน ครม.มาร์ค ไฟเขียวลงทุนระบบขนส่งในประเทศ 10 โครงการยักษ์ปี 53 เดินหน้าแผนยุทธศาสตร์การพัฒนาระบบโลจิสติกส์ของประเทศ ปี 2550-2554 ปัดฝุ่นรถไฟรางคู่ ฮับท่าเรือเชียงแสน เพื่มเส้นทางคู่ขนานทางรถไฟสายตะวันออก พร้อมตั้งบอร์ดชุดใหญ่คุม
รายงานข่าวจากสำนักงานพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (ศสช.) หรือสภาพัฒน์ กล่าวถึงความคืบหน้าในการโครงการลงทุนขนาดใหญ่เพื่อพัฒนาระบบขนส่งภายในประเทศ โดยระบุว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วานนี้ ได้รับทราบแนวทางการดำเนินการตามยุทธศาสตร์พัฒนาระบบโลจิสติกส์ของประเทศในปี 2553 ทั้งหมด 10 โครงการ วงเงินรวม 2.44 แสนล้านบาท อาทิ โครงการก่อสร้างทางคู่ขนานในเส้นทางรถไฟสายตะวันออก ช่วงฉะเชิงเทรา-คลองสิบเก้า-แก่งคอย โครงการปรับปรุงทางระยะที่ 5 และ 6
โครงการก่อสร้างสถานีบรรจุและแยกสินค้ากล่องแห่งที่ 2 โครงการก่อสร้างท่าเทียบเรือเชียงแสนแห่งที่ 2 และการก่อสร้างถนนเชื่อมโยงเรือเชียงแสน 2 แผนพัฒนาสุวรรณภูมิ ระยะที่ 2 (พ.ศ.2552-2558) โครงการก่อสร้างด่านพรมแดนบ้านประกอบ และด่านศุลกากรบูเก๊ะตา และโครงการพัฒนาโลจิสติกส์ทางการเกษตรของผลไม้
ขณะที่โครงการที่อยู่ระหว่างดำเนินการต่อเนื่องถึงปี 2552 วงเงินรวมทั้งสิ้นกว่า 2.28 หมื่นล้านบาท เช่น โครงการก่อสร้างทางคู่ในเส้นทางรถไฟสายตะวันออก ช่วงฉะเชิงเทรา-ศรีราชา-แหลมฉบัง โครงการจัดหาหัวรถจักรดีเซลไฟฟ้าจำนวน 7 คัน และแคร่บรรทุก 308 แคร่ และโครงการพัฒนาท่าเรืออิเล็กทรอนิกส์ เป็นต้น
นอกจากนั้น ยังแต่งตั้งคณะกรรมการพัฒนาระบบการบริหารจัดการขนส่งสินค้าและบริการของประเทศ (กบส.) โดยมีนายกรัฐมนตรีเป็นประธาน และรัฐมนตรี รวมถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเป็นกรรมการ เพื่อเดินหน้าแผนยุทธศาสตร์การพัฒนาระบบโลจิสติกส์ของประเทศ ปี 2550-2554
นายเกื้อกูล ด่านชัยวิจิตร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย เดินทางไปตรวจเยี่ยมท่าเรือแหลมฉบัง อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี เพื่อพัฒนาเพิ่มศักยภาพเพื่อเป็นศูนย์กลางการขนส่งสินค้าเทียนชั้นท่าเรืองระดับนานาชาติ ซึ่งท่าเรือแหลมฉบัง เป็นท่าเรือน้ำลึกขนส่งสินค้าพาณิชย์ และท่าเรือแหลมฉบังเป็นท่าเรือที่ทันสมัย เป็นศูนย์กลางของระบบโลจิสติกส์เป็นผู้นำในด้านการบริการที่ดีเลิศในกลุ่มประเทศภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และเป็นประตูการค้าให้แก่ประเทศเพื่อนบ้าน ในอนุภูมิภาคกลุ่มแม่น้ำโขง โดยใช้การบริหารจัดการด้านระบบเทคโนโลยี เพื่อรองรับการเจริญเติบโตของประเทศ
นายเกื้อกูล ระบุว่า การเดินทางมาตรวจเยี่ยมระบบขนส่งสินค้าท่าเรือแหลมฉบัง ในวันนี้ เพื่อศึกษาดูระบบทางด้านขนส่งทางบกและทางน้ำ พร้อมทั้งหาช่องทางที่จัดทำรางรถไฟคู่ขนานในการขนถ่ายสินค้าของประเทศ ให้มีโครงข่ายเชื่อมโยงที่สมบูรณ์แบบ บนผลประโยชน์แห่งรัฐและประชาชน พร้อมทั้งส่งเสริมกิจกรรมการรวบรวมและกระจายสินค้าไปสู่การบริการธุรกิจต่อเนื่องหลายรูปแบบ และเสริมสร้างศักยภาพการแข่งขันในภูมิภาค