ผู้ประกอบการเรือนำเที่ยวและเรือภัตตาคารดิ้นหนี้ตาย หลังจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติลด จับมือจักแพกเกจพร้อมโปรโมชั่นลดราคากว่า 50% จับตลาดคนไทย ประเดิมใช้เวทีงานซิติออฟเลิฟ เซ็นทรัลพระราม2 จัดทัพสินค้าออกบูธ พร้อมวอนภาครัฐช่วยเหลือเงินกู้ เสริมสภาพคล่องต่อลมหายใจให้ถึงสิ้นปี
นายประสิทธิ์ วิชัยสุชาติ เลขาธิการสมาคมเรือไทย และ ผู้จัดการทั่วไป เรือภัตตาคารริเวอร์ไซต์ เปิดเผยว่า ขณะนี้ผู้ประกอบการเรือนำเที่ยวและเรือภัตตาคารในกลุ่มที่มีลูกค้าหลักเป็นชาวต่างชาติกำลังประสบปัญหาอย่างหนัก เนื่องจากไม่มีจำนวนนักท่องเที่ยวใหม่ๆจองเข้ามาในช่วงเดือน ก.พ.-เม.ย.ปีนี้ ขณะที่ลูกค้าเก่าก็ยกเลิกการเดินทางไปตั้งแต่ช่วงปลายปีที่ผ่านมา จึงต้องการให้ภาครัฐช่วยเหลือเรื่องเงินกู้อย่างเร่งด่วน เพื่อจะได้นำเงินมาเสริมสภาพคล่องให้แก่ธุรกิจ จนกว่าจะซึ่งช่วงฤดูท่องเที่ยว(ไฮซีซั่น)อีกครั้งในปลายปีนี้ หากไม่มีเงินกู้เข้ามาช่วย ผู้ประกอบการอาจต้องปิดกิจการ หรือ ให้พนักงานทำงานเพียงครึ่งเดือนสลับกันไป ถึงตรงนั้นจะมีผลต่อรายได้ของพนักงานแน่นอน
โดยล่าสุดผู้ประกอบการเรือนำเที่ยวและเรือภัตตาคาร ได้รวมกลุ่มกับไปร่วมออกบูธที่งาน ซิตี้ ออฟ เลิฟ 2009 บริเวณชั้นล่าง ห้างเซ็นทรัล พระราม 2 ระหว่างวันที่ 8-14 ก.พ.52 ซึ่งได้จัดทำแพกแกจท่องเที่ยวทางน้ำในรูปแบบวันเดย์ทริป ในราคาลดกว่าช่วงปกติ 30-50% นำเสนอเส้นทางท่องเที่ยวทางน้ำ และเรือภัตตาคารทานอาหาร ซึ่งเรือและบริษัททัวร์ที่ร่วมออกบูธได้แก่ เจ้าพระยาปริ๊สเซส เจ้าพระยาครุยซ์ สยามริเวอร์ครุยซ์ และ หจก..ทรัพย์ธนนคร
"เรือกลุ่มนี้ปกติจะรับนักท่องเที่ยวต่างชาติเป็นหลัก ดังนั้นเมื่อไม่มีลูกค้าบุ๊คกิ้งเข้ามา ก็ต้องรวมตัวกันจัดโปรโมชั่น จับตลาดลูกค้าคนไทย โดยอาศัยช่วงเทศกาลวาเลนไทน์เป็นจุดขาย"
นอกจากนั้นยังได้เข้าร่วมโครงการนำเด็กเยาวชนและผู้สูงอายุเดินทางท่องเที่ยวไทย ของกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา โดยล่าสุดได้จัดทำแพกเกจนำเที่ยวเพื่อยื่นเสนอต่อ นาวสาวศศิธารา พิชัยชาญณรงค์ ปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวในฐานะประธานจัดโครงการ ในราคาแพกเกจละ 700 บาทต่อคนลดจากราคาปกติ 20-30% ซึ่งจะมีทั้งทัวร์ 1 วัน และ ทัวร์ 2วัน 1 คืน สามารถรองรับนักท่องเที่ยวในโครงการนี้ได้วันละ 1-2พันคน
ในส่วนของเรือริเวอร์ไซต์ ไม่ได้รับผลกระทบจากจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติที่ลดลง เพราะลูกค้ากว่า 90% เป็นคนไทย กลุ่มครอบครัว หนุ่มสาว และคนทำงาน แต่ก็ยอมรับว่าจากปัญหาเศรษฐกิจและปัจจัยลบหลายเรื่องในช่วงที่ผ่านมา เช่น ราคาน้ำมัน ภัยธรรมชาติ ภัยการเมือง ทำให้ริเวอร์ไซต์ไม่สามารถปรับขึ้นราคาค่าอาหารและค่าบริการได้ตามต้นทุนที่แท้จริง โดยบริษัทยอมที่จะตัดลดกำไร เพื่อประคองธุรกิจและยังช่วยเหลือผู้บริโภค ซึ่งกว่า 50% คือลูกค้าที่มาซ้ำ หรือลูกค้าที่บอกต่อๆกันมา
"การท่องเที่ยวทางน้ำ โดยเฉพาะการทานอาหารบนเรือภัตตาคารสำหรับตลาดคนไทย เมื่อเทียบกับร้านอาหารทั่วไป ไม่ได้แพงอย่างที่คิด เพราะเราไม่ได้ชาร์จราคาอาหาร เพียงแต่เก็บค่าขึ้นเรือ ซึ่งริเวอร์ไซต์เก็บในราคาคนละ 150 บาท ซึ่งถือเป็นราคาที่ผู้บริโภคยังรับได้ และลูกค้าริเวอร์ไซต์ก็มีหลากหลายทั้งกลุ่มคอปอเรท และนักท่องเที่ยวทั่วไป"
นายประสิทธิ์ วิชัยสุชาติ เลขาธิการสมาคมเรือไทย และ ผู้จัดการทั่วไป เรือภัตตาคารริเวอร์ไซต์ เปิดเผยว่า ขณะนี้ผู้ประกอบการเรือนำเที่ยวและเรือภัตตาคารในกลุ่มที่มีลูกค้าหลักเป็นชาวต่างชาติกำลังประสบปัญหาอย่างหนัก เนื่องจากไม่มีจำนวนนักท่องเที่ยวใหม่ๆจองเข้ามาในช่วงเดือน ก.พ.-เม.ย.ปีนี้ ขณะที่ลูกค้าเก่าก็ยกเลิกการเดินทางไปตั้งแต่ช่วงปลายปีที่ผ่านมา จึงต้องการให้ภาครัฐช่วยเหลือเรื่องเงินกู้อย่างเร่งด่วน เพื่อจะได้นำเงินมาเสริมสภาพคล่องให้แก่ธุรกิจ จนกว่าจะซึ่งช่วงฤดูท่องเที่ยว(ไฮซีซั่น)อีกครั้งในปลายปีนี้ หากไม่มีเงินกู้เข้ามาช่วย ผู้ประกอบการอาจต้องปิดกิจการ หรือ ให้พนักงานทำงานเพียงครึ่งเดือนสลับกันไป ถึงตรงนั้นจะมีผลต่อรายได้ของพนักงานแน่นอน
โดยล่าสุดผู้ประกอบการเรือนำเที่ยวและเรือภัตตาคาร ได้รวมกลุ่มกับไปร่วมออกบูธที่งาน ซิตี้ ออฟ เลิฟ 2009 บริเวณชั้นล่าง ห้างเซ็นทรัล พระราม 2 ระหว่างวันที่ 8-14 ก.พ.52 ซึ่งได้จัดทำแพกแกจท่องเที่ยวทางน้ำในรูปแบบวันเดย์ทริป ในราคาลดกว่าช่วงปกติ 30-50% นำเสนอเส้นทางท่องเที่ยวทางน้ำ และเรือภัตตาคารทานอาหาร ซึ่งเรือและบริษัททัวร์ที่ร่วมออกบูธได้แก่ เจ้าพระยาปริ๊สเซส เจ้าพระยาครุยซ์ สยามริเวอร์ครุยซ์ และ หจก..ทรัพย์ธนนคร
"เรือกลุ่มนี้ปกติจะรับนักท่องเที่ยวต่างชาติเป็นหลัก ดังนั้นเมื่อไม่มีลูกค้าบุ๊คกิ้งเข้ามา ก็ต้องรวมตัวกันจัดโปรโมชั่น จับตลาดลูกค้าคนไทย โดยอาศัยช่วงเทศกาลวาเลนไทน์เป็นจุดขาย"
นอกจากนั้นยังได้เข้าร่วมโครงการนำเด็กเยาวชนและผู้สูงอายุเดินทางท่องเที่ยวไทย ของกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา โดยล่าสุดได้จัดทำแพกเกจนำเที่ยวเพื่อยื่นเสนอต่อ นาวสาวศศิธารา พิชัยชาญณรงค์ ปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวในฐานะประธานจัดโครงการ ในราคาแพกเกจละ 700 บาทต่อคนลดจากราคาปกติ 20-30% ซึ่งจะมีทั้งทัวร์ 1 วัน และ ทัวร์ 2วัน 1 คืน สามารถรองรับนักท่องเที่ยวในโครงการนี้ได้วันละ 1-2พันคน
ในส่วนของเรือริเวอร์ไซต์ ไม่ได้รับผลกระทบจากจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติที่ลดลง เพราะลูกค้ากว่า 90% เป็นคนไทย กลุ่มครอบครัว หนุ่มสาว และคนทำงาน แต่ก็ยอมรับว่าจากปัญหาเศรษฐกิจและปัจจัยลบหลายเรื่องในช่วงที่ผ่านมา เช่น ราคาน้ำมัน ภัยธรรมชาติ ภัยการเมือง ทำให้ริเวอร์ไซต์ไม่สามารถปรับขึ้นราคาค่าอาหารและค่าบริการได้ตามต้นทุนที่แท้จริง โดยบริษัทยอมที่จะตัดลดกำไร เพื่อประคองธุรกิจและยังช่วยเหลือผู้บริโภค ซึ่งกว่า 50% คือลูกค้าที่มาซ้ำ หรือลูกค้าที่บอกต่อๆกันมา
"การท่องเที่ยวทางน้ำ โดยเฉพาะการทานอาหารบนเรือภัตตาคารสำหรับตลาดคนไทย เมื่อเทียบกับร้านอาหารทั่วไป ไม่ได้แพงอย่างที่คิด เพราะเราไม่ได้ชาร์จราคาอาหาร เพียงแต่เก็บค่าขึ้นเรือ ซึ่งริเวอร์ไซต์เก็บในราคาคนละ 150 บาท ซึ่งถือเป็นราคาที่ผู้บริโภคยังรับได้ และลูกค้าริเวอร์ไซต์ก็มีหลากหลายทั้งกลุ่มคอปอเรท และนักท่องเที่ยวทั่วไป"
