ผู้บริหาร ปตท.โวยราคาน้ำมันถูกทำให้คนไทยใช้น้ำมันเปลือง เผยเดือน ม.ค.ที่ผ่านมา ยอดขายเบนซิน 91 เพิ่มขึ้น 30% ส่วนดีเซลเพิ่ม 35% ส่งผลให้ต้องสั่งนำเข้าน้ำมันสำเร็จรูปเพิ่มขึ้น เพราะโรงกลั่นของไทยปิดไม่มีกำหนด ผู้ค้าต้องนำเข้าเบซินเพิ่มขึ้น 20-25 ล้านลิตร และดีเซลนำ 30-50 ล้านลิตร
นายปรัชญา ภิญญาวัธน์ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ หน่วยธุรกิจน้ำมัน บริษัท ปตท.จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า สถานการณ์ราคาน้ำมันในตลาดโลกขณะนี้ ยังทรงตัวระดับประมาณ 40 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล เนื่องจากขณะนี้เศรษฐกิจโลกโดยเฉพาะสหรัฐ ยังไม่มีแนวโน้มปรับตัวดีขึ้น ขณะที่กลุ่มผู้ค้าน้ำมันโลก (โอเปก) มีท่าทีจะปรับลดกำลังการผลิตลงอีก
อย่างไรก็ตาม นายปรัชญา กล่าวว่า ราคาน้ำมันที่ปรับตัวลดลงในช่วงที่ผ่านมา ส่งผลให้ปริมาณการใช้น้ำมันทุกกประเภทเพิ่มขึ้น โดยในส่วนของ ปตท.เดือนมกราคม 2552 ที่ผ่านมา พบว่าปริมาณการจำหน่ายน้ำมันเบนซินสูงขึ้น ร้อยละ 31 น้ำมันดีเซลสูงขึ้นร้อยละ 35 ส่งผลให้ขณะนี้บริษัทผู้ค้าน้ำมันในประเทศยังจำเป็นต้องนำเข้าน้ำมันสำเร็จรูปเพิ่มขึ้นต่อไป ในส่วนของน้ำมันเบนซินนำเข้าอีก 20-25 ล้านลิตร และดีเซลนำเข้าอีก 30-50 ล้านลิตร มาจากปัจจัยที่ปริมาณการใช้ในประเทศสูงขึ้น ประกอบกับช่วงนี้โรงกลั่นปิดปรับปรุงเพื่อซ่อมประจำปี
นพ.วรรณรัตน์ ชาญนุกูล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน กล่าวว่า ปริมาณการใช้น้ำมันที่ปรับตัวสูงขึ้นนในช่วงที่ผ่านมาจากราคาน้ำมันที่ปรับตัวลดลง ไม่ได้ทำให้การใช้น้ำมันที่มีส่วนผสมของพลังงานทดแทนลดลง ในส่วนของแก๊สโซฮอล์ที่มีส่วนผสมของเอทานอล ยังมีปริมาณการใช้เพิ่มขึ้นเฉลี่ยเดือนละ 7-8 ล้านลิตร เพิ่มเป็นเป็น 11-12 ล้านลิตร ส่วนดีเซลบี 5 มีส่วนผสมของไบโอดีเซล มียอดการใช้สูงขึ้นจากเฉลี่ย 11-12 ล้านลิตร เพิ่มเป็น 17-18 ล้านลิตร
อย่างไรก็ตาม ในการปรับขึ้นราคาน้ำมันตามทิศทางการปรับขึ้นภาษีสรรพสามิต หลังจากรัฐบาลมีนโยบายเก็บภาษีปกติ หากราคาน้ำมันระยะต่อไปยังมีทิศทางขาขึ้น กระทรวงพลังงานจะปรับแผนให้มีการทยอยปรับขึ้นราคาน้ำมันขายปลีก โดยอาจจะทยอยปรับขึ้นแต่ละครั้งสัดส่วนน้อยลงหรือครั้งละไม่ถึง 1 บาท จนกว่าจะเต็มเพดานภาษีสรรพสามิต และพร้อมขยายระยะเวลาจากเดิมตั้งเป้าหมายว่าจะขึ้นราคาเต็มเพดานภายใน 2 เดือน เพื่อไม่ให้ประชาชนได้รับผลกระทบมากเกินไป
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน กล่าวหลังเป็นประธานมอบตราสัญลักษณ์ตามโครงการ “ปั๊มคุณภาพ ปลอดภัย น่าใช้บริการ” และใบประกาศเกียรติคุณให้แก่ผู้ประกอบการสถานีบริการน้ำมันที่ผ่านเกณฑ์การพิจารณาทั่วประเทศ ซึ่งวันนี้ มีสถานีบริการน้ำมันได้รับรางวัลประเภทเหรียญทองจำนวน 124 แห่ง เหรียญเงิน 208 แห่ง และเหรียญทองแดง 38 แห่ง สำหรับสถานีบริการที่ได้รับรางวัลถือเป็นสถานีบริการที่มีมาตรฐานทั้งงานบริการและคุณภาพน้ำมัน