ปั๊มทั่วประเทศคึกคัก ประชาชนตื่นข่าวขึ้นราคาน้ำมัน 1.55 บาท วันที่ 1 ก.พ.นี้ แห่เติมเต็มถัง-ตุนใส่แกลอล “พาณิชย์” ลุยตรวจเข้มสต๊อก 30-31 ม.ค.นี้ พร้อมส่งสายตรวจดูแลปั๊มทั่วประเทศ หลังพบการร้องเรียนจากผู้บริโภค ปั๊มหลายแห่งงดจำหน่ายน้ำมัน หวังฟันกำไรจากส่วนต่างราคา
มีรายงานข่าวว่า ประชาชนแตกตื่นข่าวการขึ้นราคาน้ำมันในวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2552 นี้ โดยพบว่า ผู้ใช้รถทั้งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด ต่างแห่ไปเติมน้ำมันกักตุนกันอย่างคึกคัก ก่อนจะมีการจัดเก็บภาษีสรรพสามิตน้ำมัน ซึ่งจะส่งผลให้น้ำมันทุกประเภทมีราคาสูงขึ้นลิตรละ 1 บาท 55 สตางค์ ทันที ยกเว้นน้ำมันแก๊สโซฮอล์ อี85
รายงานข่าวยังระบุว่า ประชาชนใน จ.พิษณุโลก ต่างนำรถออกไปเติมน้ำมันตามปั๊มต่างๆ อย่างคึกคัก โดยส่วนใหญ่จะเติมเต็มถัง ส่วนผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์ก็นำแกลลอนมาซื้อเพื่อกักตุนไว้ ก่อนจะมีการจัดเก็บภาษีสรรพสามิตน้ำมัน
เช่นเดียวกับที่ จ.นครสวรรค์ ประชาชนต่างพากันนำถังน้ำมันขนาด 200 ลิตรไปซื้อเก็บไว้ ด้วยความกังวลว่า ปั๊มน้ำมันต่างๆ อาจมีน้ำมันให้บริการไม่เพียงพอ
นายยรรยงค์ พวงราช อธิบดีกรมการค้าภายใน กล่าวว่า ขณะนี้มีผู้บริโภคที่ใช้บริการสถานีการน้ำมันร้องเรียนเข้ามายังกรมการค้าภายใน โดยระบุว่า สถานีบริการน้ำมันบางแห่งติดป้ายน้ำมันหมด ซึ่งถือเป็นการเอาเปรียบผู้บริโภค ทั้งนี้ เชื่อว่า อาจมีสาเหตุจากผู้ประกอบการบางราย ต้องการได้กำไรจากส่วนต่างราคาน้ำมัน หลังคณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน (กบง.) มีมติขึ้นราคาน้ำมันทุกประเภท ยกเว้นอี 85 จำนวน 1.55 บาทต่อลิตร
“กรมการค้าภายใน ได้ส่งสายตรวจเข้าตรวจสอบ พร้อมเตือนสถานีบริการน้ำมันทั่วประเทศ อย่าฉวยโอกาสกักตุนหรือค้ากำไรเกินควร สร้างความเดือดร้อนให้แก่ผู้บริโภค โดยขณะนี้ กระทรวงพาณิชย์ได้ส่งสายตรวจส่วนกลางและภูมิภาคออกตรวจเช็คปริมาณน้ำมันตามสถานีบริการน้ำมันว่ามีจำนวนมากน้อยแค่ไหน ทั้งในวันนี้ (30 ม.ค.) และวันพรุ่งนี้ (31 ม.ค.) อย่างใกล้ชิด”
ทั้งนี้ หากพบว่าปฏิเสธการจำหน่าย หรือตรวจพบว่ายังมีน้ำมันเหลือแต่ติดป้ายน้ำมันหมด ถือว่าเข้าข่ายกระทำความผิดตามกฎหมายว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ ซึ่งจะมีโทษจำคุก 7 ปี ปรับไม่เกิน 140,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
