ตราด - ผู้ประกอบการเรือท่องเที่ยวอ่วม หลังขึ้นราคาน้ำมันระบุต้นทุนทำกินเพิ่ม เรือประมงเร่งซื้อน้ำมันกักตุน ขณะเศรษฐกิจตกต่ำท่องเที่ยวลด คู่แข่งสูง ด้านปลา, สัตว์น้ำราคาถูกสวนทางราคาน้ำมัน
จากการที่รัฐบาลได้ประกาศขึ้นราคาน้ำมันได้ส่งผลกระทบต่อผู้ประกอบธุรกิจ ท่องเที่ยวและผู้ประกอบการประมงของ จ.ตราดแล้ว เผยซื้อน้ำมันสำรองล่วงหน้าได้แค่ 4,000-5,000 ลิตร เท่านั้น
นางสาว รัถษยา ภูริเทเวศร์ ผู้บริหารโรงแรมเกาะกูดคาบาน่ารีสอร์ท อ.เกาะกูด จ.ตราด เปิดเผยว่า ที่ผ่านมา รัฐบาลได้ลดราคา น้ำมันเมื่อ 6 เดือนที่ผ่านมา สามารถลดภาระค่าน้ำมันที่เป็นต้นทุนในการท่องเที่ยวในเกาะกูดได้มาก เพราะการท่องเที่ยวของเกาะกูดจะเป็นลักษณะขายเป็นแพ็คเกจที่จะรวมค่าเดินทางจาก จ.ตราด ไปยัง อ.เกาะกูด ไปด้วย
แต่เมื่อมีการขึ้นราคาน้ำมันในช่วงต้นเดือนกุมภาพันธ์ 2552 ในอัตรา 1.55-2.00 บาทนั้น จะทำให้ต้นทุนน้ำมันสูงขึ้นเพราะทาง โรงแรมจะต้องใช้น้ำมันสัปดาห์ละ 4,000-5,000 ลิตร หรือ 1 เดือนจะใช้กว่า 15,000-20,000 ลิตร ทำให้ต้องรับภาระต้นทุน สูงเกือบเดือนละ 30,000-40,000 บาท และทางโรงแรมก็ไม่สามารถซื้อน้ำมันกักตุนไว้ได้มากนัก เพราะไม่มีที่เก็บจะซื้อ ล่วงหน้าเป็นสัปดาห์เท่านั้น โดยภาวะเศรษฐกิจเช่นนี้ไม่สามารถขึ้นค่าใช้จ่ายจากนักท่องเที่ยวได้ เพราะมีการแข่งขันสูงหากเก็บค่าท่องเที่ยวแพงก็ต้องเสี่ยงกับการยกเลิกการท่องเที่ยว
ทางด้าน นางสาวสายสุนีย์ ใจเที่ยง ผู้บริหาร หจก.ไสวปิโตรเลียม กล่าวว่า วันนี้มีผู้มาเติมน้ำมันมากขึ้นเป็นกรณีพิเศษ เนื่องจากทางรัฐบาลจะมีการขึ้นภาษีสรรพสามิตน้ำมันในวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2552 ในอัตรา 1.55 บาท/ลิตร ทำให้มีประชาชนทะยอย มาเติมน้ำมันเป็นจำนวนมาก ซึ่งคาดว่าในช่วงบ่ายในวันนี้สต๊อกน้ำมันที่มีอยู่จะไม่เพียงพอ เนื่องจากจะมีโควตาในการ ขายเพียง 20,000 ลิตรต่อวันเท่านั้น ทำให้ต้องขอความร่วมมือจากผู้ใช้รถเติมน้ำมันไปจำนวนหนึ่งก่อนและให้มาเติมในวันพรุ่งนี้ เพื่อจะได้เป็นการกระจายน้ำมันให้กับคนอื่นด้วย จะเห็นได้ว่าวันนี้มีผู้มาซื้อน้ำมันเพื่อสต๊อกไว้จำนวนมาก แต่ก็ต้องขอความร่วมมือไม่ให้สต๊อกไว้มากเกินความจำเป็น ส่วนทางปั๊มเองไม่สามารถที่จะกักตุนได้ เนื่องจากจะมีเจ้าหน้าที่มาตรวจสอบสต๊อคน้ำมันในคืนวันที่ 31 เพื่อป้องกันปัญหาการกักตุน
นายทวีศักดิ์ ปัญจะกุล ผู้ประกอบการประมง กล่าวว่า การขึ้นราคาน้ำมันของรัฐบาลได้ส่งผลกระทบกับต้นทุน การทำประมงเนื่องจากการขึ้นราคาครั้งนี้จะขึ้นเป็น 2 ระยะ ระยะแรก 1.55 บาท/ลิตร และระยะที่ 2 อีก 1.55 บาท ซึ่งทำให้ต้นทุนขึ้นมาอีก 3 บาท/ลิตร โดยในแต่ละวันจะต้องใช้น้ำมัน 400 ลิตร ทั้งรถและเรือประมงจึงทำให้ต้องแบก รับภาระต้นทุนเพิ่มมากขึ้น แต่ก็ต้องยอมรับและใช้วิธีการประหยัดน้ำมันด้วยตัวเอง ส่วนตัวเองก็ต้องมีการสต๊อคน้ำมัน ไว้จำนวนหนึ่ง และในวันพรุ่งนี้ก็จะมาซื้อเก็บไว้อีกครั้งหนึ่ง ซึ่งจะได้ประมาณ 700-800 ลิตรเท่านั้น
ขณะที่ นายฐิติกร โลหะคุปต์ นายกสมาคมประมงจังหวัดตราด กล่าวว่า ผู้ประกอบการเรือประมงน่าจะไม่มีการกักตุน น้ำมันแน่นอนเพราะน้ำมันที่ขึ้น โดยเฉพาะน้ำมันที่ใช้กับเรือประมง (น้ำมันเขียว) จะขึ้นราคาประมาณ 5% เท่านั้น เพราะไม่มีผลกระทบอะไรมาก แต่ที่อยากให้ขึ้นราคาคือสัตว์น้ำที่จับน่าจะขึ้นราคาให้บ้างจะได้คุ้มกับค่าใช้จ่าย
จากการที่รัฐบาลได้ประกาศขึ้นราคาน้ำมันได้ส่งผลกระทบต่อผู้ประกอบธุรกิจ ท่องเที่ยวและผู้ประกอบการประมงของ จ.ตราดแล้ว เผยซื้อน้ำมันสำรองล่วงหน้าได้แค่ 4,000-5,000 ลิตร เท่านั้น
นางสาว รัถษยา ภูริเทเวศร์ ผู้บริหารโรงแรมเกาะกูดคาบาน่ารีสอร์ท อ.เกาะกูด จ.ตราด เปิดเผยว่า ที่ผ่านมา รัฐบาลได้ลดราคา น้ำมันเมื่อ 6 เดือนที่ผ่านมา สามารถลดภาระค่าน้ำมันที่เป็นต้นทุนในการท่องเที่ยวในเกาะกูดได้มาก เพราะการท่องเที่ยวของเกาะกูดจะเป็นลักษณะขายเป็นแพ็คเกจที่จะรวมค่าเดินทางจาก จ.ตราด ไปยัง อ.เกาะกูด ไปด้วย
แต่เมื่อมีการขึ้นราคาน้ำมันในช่วงต้นเดือนกุมภาพันธ์ 2552 ในอัตรา 1.55-2.00 บาทนั้น จะทำให้ต้นทุนน้ำมันสูงขึ้นเพราะทาง โรงแรมจะต้องใช้น้ำมันสัปดาห์ละ 4,000-5,000 ลิตร หรือ 1 เดือนจะใช้กว่า 15,000-20,000 ลิตร ทำให้ต้องรับภาระต้นทุน สูงเกือบเดือนละ 30,000-40,000 บาท และทางโรงแรมก็ไม่สามารถซื้อน้ำมันกักตุนไว้ได้มากนัก เพราะไม่มีที่เก็บจะซื้อ ล่วงหน้าเป็นสัปดาห์เท่านั้น โดยภาวะเศรษฐกิจเช่นนี้ไม่สามารถขึ้นค่าใช้จ่ายจากนักท่องเที่ยวได้ เพราะมีการแข่งขันสูงหากเก็บค่าท่องเที่ยวแพงก็ต้องเสี่ยงกับการยกเลิกการท่องเที่ยว
ทางด้าน นางสาวสายสุนีย์ ใจเที่ยง ผู้บริหาร หจก.ไสวปิโตรเลียม กล่าวว่า วันนี้มีผู้มาเติมน้ำมันมากขึ้นเป็นกรณีพิเศษ เนื่องจากทางรัฐบาลจะมีการขึ้นภาษีสรรพสามิตน้ำมันในวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2552 ในอัตรา 1.55 บาท/ลิตร ทำให้มีประชาชนทะยอย มาเติมน้ำมันเป็นจำนวนมาก ซึ่งคาดว่าในช่วงบ่ายในวันนี้สต๊อกน้ำมันที่มีอยู่จะไม่เพียงพอ เนื่องจากจะมีโควตาในการ ขายเพียง 20,000 ลิตรต่อวันเท่านั้น ทำให้ต้องขอความร่วมมือจากผู้ใช้รถเติมน้ำมันไปจำนวนหนึ่งก่อนและให้มาเติมในวันพรุ่งนี้ เพื่อจะได้เป็นการกระจายน้ำมันให้กับคนอื่นด้วย จะเห็นได้ว่าวันนี้มีผู้มาซื้อน้ำมันเพื่อสต๊อกไว้จำนวนมาก แต่ก็ต้องขอความร่วมมือไม่ให้สต๊อกไว้มากเกินความจำเป็น ส่วนทางปั๊มเองไม่สามารถที่จะกักตุนได้ เนื่องจากจะมีเจ้าหน้าที่มาตรวจสอบสต๊อคน้ำมันในคืนวันที่ 31 เพื่อป้องกันปัญหาการกักตุน
นายทวีศักดิ์ ปัญจะกุล ผู้ประกอบการประมง กล่าวว่า การขึ้นราคาน้ำมันของรัฐบาลได้ส่งผลกระทบกับต้นทุน การทำประมงเนื่องจากการขึ้นราคาครั้งนี้จะขึ้นเป็น 2 ระยะ ระยะแรก 1.55 บาท/ลิตร และระยะที่ 2 อีก 1.55 บาท ซึ่งทำให้ต้นทุนขึ้นมาอีก 3 บาท/ลิตร โดยในแต่ละวันจะต้องใช้น้ำมัน 400 ลิตร ทั้งรถและเรือประมงจึงทำให้ต้องแบก รับภาระต้นทุนเพิ่มมากขึ้น แต่ก็ต้องยอมรับและใช้วิธีการประหยัดน้ำมันด้วยตัวเอง ส่วนตัวเองก็ต้องมีการสต๊อคน้ำมัน ไว้จำนวนหนึ่ง และในวันพรุ่งนี้ก็จะมาซื้อเก็บไว้อีกครั้งหนึ่ง ซึ่งจะได้ประมาณ 700-800 ลิตรเท่านั้น
ขณะที่ นายฐิติกร โลหะคุปต์ นายกสมาคมประมงจังหวัดตราด กล่าวว่า ผู้ประกอบการเรือประมงน่าจะไม่มีการกักตุน น้ำมันแน่นอนเพราะน้ำมันที่ขึ้น โดยเฉพาะน้ำมันที่ใช้กับเรือประมง (น้ำมันเขียว) จะขึ้นราคาประมาณ 5% เท่านั้น เพราะไม่มีผลกระทบอะไรมาก แต่ที่อยากให้ขึ้นราคาคือสัตว์น้ำที่จับน่าจะขึ้นราคาให้บ้างจะได้คุ้มกับค่าใช้จ่าย