xs
xsm
sm
md
lg

ก.ท่องเที่ยวฯลุ้นงบ 153 ล.จัดทริปสร้างดีมานด์เทียม

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

“ศศิธารา” ลุ้นอภิปรายงบประมาณ หวังได้เงิน 453 ล้านบาท ครบตามจำนวน เพื่อจัดทริปท่องเที่ยวเยาวชนและผู้สูงอายุ ตามแนวคิดสร้างดีมานด์เทียม อัดฉีดเงินสายตรงเข้าถึงเอกชนในอุตสาหกรรมท่องเที่ยวทุกส่วนทั่วประเทศ

วานนี้ (27 ม.ค.) ภายหลังการประชุมโครงการนำเด็กเยาวชนและผู้สูงอายุเดินทางท่องเที่ยวไทย โดยมีผู้ร่วมประชุมเป็นสมาคมด้านการท่องเที่ยวต่างๆ สภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยว(สทท.) และตัวแทนจากหน่วยงานภาครัฐ นางสาวศศิธารา พิชัยชาญณรงค์ ปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ในฐานะประธานการประชุม กล่าวว่า ที่ประชุมได้เห็นชอบร่วมกันในกรอบเงื่อนไขการทำงานในโครงการนำเด็กเยาวชนและผู้สูงอายุเดินทางท่องเที่ยว ภายใต้วงเงินงบประมาณ 153 ล้าน ซึ่งเป็นงบกลางปีงบประมาณ 2552 ที่ได้บรรจุอยู่ใน พ.ร.บ.งบประมาณฯ

“วงเงินนี้มาจากที่ ครม.อนุมัติงบกลางปี ให้ กระทรวงการท่องเที่ยวฯ 1,000 ล้านบาท แบ่งเป็น ททท.450 ล้านบาท สพท.เพื่อสร้างห้องสุขาและพัฒนาแหล่งท่องเที่ยว 97 ล้านบาท สำนักปลัดกระทรวงการท่องเที่ยว 453 ล้านบาท ในที่นี้จะมาใช้ในโครงการนี้ 153 ล้านบาท อีก 300 ล้านบาท จะใช้ส่งเสริมท่องเที่ยวและกีฬาใน 5 จังหวัดชายแดนใต้ ซึ่งวงเงินจะมีการเปลี่ยนแปลงหรือไม่ ต้องรอผลจากการอภิปรายงบประมาณของสภาผู้แทนราษฎรในวันนี้ (28ม.ค.) หากได้ไม่ถึงก็ต้องมีการปรับเปลี่ยนหลักเกณฑ์ของโครงการบ้างให้เหมาะกับเงินที่ได้รับจริง”

ทั้งนี้ จุดประสงค์ของโครงการ 1.เด็กเยาวชนและนักศึกษาได้มีโอกาสท่องเที่ยวในประเทศ 2.ได้ความรู้จากการท่องเที่ยวเกิดการกระจายรายได้ และ 3.เป็นแนวทางการกระจายแหล่งท่องเที่ยว โดยจะคัดเลือกผู้เข้าร่วมโครงการทั้งหมด 153,000 คน โดยกระทรวงการท่องเที่ยวฯจะออกค่าใช้จ่ายจากงบ 153 ล้านบาท ให้แก่นักท่องเที่ยวได้เที่ยวฟรีเฉลี่ย 850 บาทต่อคนต่อวัน ระยะเวลาโครงการตั้งแต่ มี.ค.-มิ.ย.2552 แบ่งเป็น เด็กเยาวชนและนักศึกษา 130,000 คน โดยสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) และสำนักงานการอาชีวะ เป็นผู้คัดเลือก เน้นเด็กเยาวชนที่ด้อยโอกาส, อีก 23,000 คน ผู้สูงอายุ ซึ่งกระทรวงพัฒนาสังคมและทรัพยากรมนุษย์ เป็นผู้คัดเลือก โดยผู้เข้าร่วมโครงการ จะมาจากทั้ง 75 จังหวัด เฉลี่ยจังหวัดละ 2,000 คน ส่วนกรุงเทพฯจะคัดเลือก 3,000 คน

“วงเงิน 153 ล้านบาท จะแบ่งไว้ 10-20 ล้านบาท เพื่อจ้างมหาวิทยาลัยทำการสำรวจประเมินผลของโครงการที่จะได้รับ ว่า นักท่องเที่ยวที่ร่วมโครงการมีความพึ่งพอใจแค่ไหน และเกิดการใช้จ่ายจากการท่องเที่ยวเป็นเงินจำนวนเท่าใด ส่วนเงินที่เหลือก็จะกระจายว่าจ้างเอกชนจัดทัวร์ท่องเที่ยว”

นางสาวศศิธารา กล่าวว่า ในหลักการดำเนินโครงการ จะจัดเป็นทัวร์ 1-2 วัน โดยจะต้องใช้บริการว่าจ้างผ่านบริษัทนำเที่ยว มัคคุเทศก์ โรงแรม และ ร้านอาหาร ที่ได้มาตรฐานจดทะเบียนตามกฎหมาย ซึ่งตรงนี้จะช่วยดึงดูดให้บริษัทในอุตสาหกรรมท่องเที่ยวตื่นตัวที่จะเข้าสู่ระบบตามกฎหมายมากขึ้น เน้นเที่ยวกันภายในจังหวัดใกล้เคียง หรือตามกลุ่มจังหวัดใน 14 คลัสเตอร์ เพื่อให้เยาวชนได้รู้จักแหล่งท่องเที่ยวในจังหวัดของตัวเองมากขึ้น

โดยจากนี้ไปให้ภาคเอกชนสมาคมท่องเที่ยวต่างๆ ไปจัดทำเอกสารข้อกำหนดการประกวดราคา (ร่างที่โออาร์) มาเสนอในวันที่ 15 ก.พ.2552 จากนั้นจะร่วมกันพิจารณาในเรื่องของการจัดซื้อจัดจ้างเป็นลำดับต่อไป โดยจะเน้นในเรื่องของการกระจายรายได้สู่ภาคเอกชนท่องเที่ยวทุกภาคส่วน ทั้งในกรุงเทพฯและภูมิภาค ทั้งรายเล็กรายใหญ่ เพื่อให้เกิดกระแสเงินว่าจ้างหมุนเวียนเข้าถึงเอกชนในอุตสาหกรรมท่องเที่ยวอย่างทั่วถึงและโดยตรง โดยกระทรวงจะให้ศูนย์ท่องเที่ยวและนันทนาการจังหวัด เป็นผู้ตรวจสอบการใช้เงิน เพื่อไม่ให้เกิดการกระจุกตัวอยู่กับเอกชนกลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง

ทั้งนี้ รายงานข่าวระบุว่า โครงการนี้รัฐบาลมุ่งหวังอัดฉีดเงินเข้าสู่อุตสาหกรรมท่องเที่ยวทั้งระบบ เช่น บริษัทนำเที่ยว โรงแรม ร้านอาหาร รถเช่าเพื่อการท่องเที่ยว เป็นต้น เพื่อเสริมสภาพคล่องให้เอกชนในช่วงนักท่องเที่ยวต่างชาติหดหาย โดยนักท่องเที่ยวโครงการนี้ ถือเป็นดีมานด์ที่ภาครัฐสร้างขึ้นมา
กำลังโหลดความคิดเห็น