ครม.เห็นชอบตั้ง ครม.พิเศษ 5 จังหวัดใต้ ให้นายกฯ นั่งหัวโต๊ะ คุมนโยบาย-งบฯ พร้อมต่ออายุ พ.ร.ก.ฉุกเฉินอีก 3 เดือน เผย “มารค์” ให้ถามความรู้สึกชาวบ้านก่อนต่ออายุ พ.ร.ก.ฉุกเฉินครั้งหน้า
วันนี้ (13 ม.ค.) นายศุภชัย ใจสมุทร รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงผลการประชุมของคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า ครม.รับทราบและเห็นชอบให้ขยายระยะเวลาการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินที่มีความร้ายแรงในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ออกไปอีก 3 เดือน นับตั้งแต่ 20 มกราคม 52 ถึง 19 เมษายน 52 ตามที่สำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) เสนอตามมาตรา 5 ในพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการฉุกเฉิน พ.ศ.2548 ซึ่งได้ประกาศใช้จนมาถึงปัจจุบันนี้รวมเป็นครั้งที่ 13
นายศุภชัย กล่าวอีกว่า สมช.ชี้แจงข้อเท็จจริงต่อครม.ว่า กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายใน (กอ.รมน.) ภาค 4 ได้รายงานผลการปฏิบัติงานในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนใต้ว่าผู้ปฏิบัติงานในพื้นที่ได้ให้ความสำคัญกับการใช้อำนาจตาม พ.ร.ก.เพื่อจับกุมและควบคุมบุคคลผู้ต้องสงสัยที่เชื่อว่าเป็นผู้กระทำความผิด ได้เห็นว่าการใช้อำนาจ พ.ร.ก.ดังกล่าว มาตั้งแต่ 20 ตุลาคม 51 จนถึง 21 ธันวาคม 51 สามารถปฏิบัติหน้าที่ได้อย่างมีประสิทธิภาพ และเป็นการเพิ่มขีดความสามารถ ขยายผลสืบสวนสอบสวนและรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อรวบรวมผู้กระทำความผิด นำไปสู่กระบวนการยุติธรรมในชั้นศาล ทางสภาความมั่นคงยังเห็นว่าการประเมินสถานการณ์ข่าวพบว่า ผู้ก่อความไม่สงบยังคงมีแผนการณที่จะก่อความไม่สงบในพื้นที่อย่างต่อเนื่อง จึงมีความจำเป็นที่จะต้องขยายระยะเวลาประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินที่มีความร้ายแรงในพื้นที่ 3 จังหวัดชายใต้
นายศุภชัย กล่าวต่อว่า นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ได้กำชับให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องประมวลเหตุการณ์ในช่วงเวลาต่อจากนี้เป็นต้นไปหลังจากที่มีการใช้พรก.ดังกล่าวว่าปฏิบัติงานได้อย่างมีประสิทธิภาพในทางด้านใดบ้าง เนื่องจากใน 3 จังหวัดภาคใต้มีการใช้กฎหมายหลายฉบับ เช่น พ.ร.ก. กฎอัยการศึก กฎหมายความมั่นคง เพราะฉะนั้นนายกฯ จึงต้องการให้ทำข้อมูลรายละเอียดว่า มีวิธีการเลือกใช้กฎหมายฉบับใดในเงื่อนไขใด นอกจากนี้นายกยังต้องการรายละเอียดเรื่องผลของคดีต่างๆ ว่าใช้กฎหมายทางช่องทางใด ผลของคดีมีการยกฟ้องหรือลงโทษด้วยเหตุผลอะไร ห้ทำสถิติถึงการดำเนินงานทางด้านนิติวิทยาศาสตร์ว่ามีผลในการทำงานที่เป็นประโยชน์อย่างไร รวมถึงให้สำรวจความพึงพอใจของประชาชนที่อยู่ในพื้นที่ ว่าการใช้ พ.ร.ก.ฉบับนี้มีความรู้สึกเห็นด้วยหรือไม่เห็นด้วยอย่างไร ซึ่งได้กำชับให้มีการรายงานเข้ามา ก่อนการที่จะขออนุมัติขอความเห็นชอบ ในคราวต่อไป
รองโฆษกฯ แถลงอีกว่า นอกจากนี้ ครม.ยังอนุมัติแต่งตั้งคณะกรรมการรัฐมนตรีพัฒนาพื้นที่พิเศษ 5 จังหวัดชายแดนใต้ ตามที่คณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) ได้เสนอ ซึ่งองค์ประกอบของคณะกรรมการพัฒนาฯ มีนายกรัฐมนตรี เป็นประธาน สำหรับอำนาจหน้าที่ของคณะกรรมการชุดนี้มีหน้าที่กำหนดนโยบายและมาตราการพิจารณาเห็นชอบแผนงาน โครงการและการจัดตั้งงบประมาณ เพื่อการสนับสนุนการพัฒนาในพื้นที่เกษตร 5 จังหวัดชายแดนใต้ คือ จ.สตูล จ.สงขลา จ.ปัตตานี จ.นราธิวาส จ.ยะลา รวมทั้งกำกับดูแล เร่งรัดติดตามแก้ไขกฎระเบียบ ขั้นตอนการปฏิบัติงานต่างๆ เพื่อให้การพัฒนาพื้นที่พิเศษ 5 จังหวัดชายแดนใต้ เป็นไปตามนโยบายอย่างมีประสิทธิภาพ
รองโฆษกฯ กล่าวอีกว่า สำหรับการเบิกจ่ายเบี้ยประชุมและค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานของคณะกรรมการฯให้เบิกจ่ายจากงบประมาณของสภาพัฒน์