ประธานสภาอุตฯ เชื่อนโยบาย “มาร์ค 1” สร้างความมั่นใจได้ แนะใช้เงินสำรองระหว่างประเทศกระตุ้นเศรษฐกิจ 3 แสนล้าน เหตุเก็บภาษีไม่ตรงเป้า พร้อมเร่งแบงก์ปล่อยกู้เอสเอ็มอีโดยเร็ว โดยรัฐค้ำประกันเงินกู้ ด้าน “อภิสิทธิ์” ดอดพบ “ศุภชัย” รับคำแนะนำใช้การค้าภูมิภาคกระตุ้นเศรษฐกิจ
นายสันติ วิลาสศักดานนท์ ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยว่า การแถลงนโยบายของรัฐบาลนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ เมื่อวานนี้ (30 ธ.ค.) โดยเฉพาะนโยบายด้านเศรษฐกิจ สามารถสร้างความเชื่อมั่นให้เกิดขึ้นได้ แต่ก็ต้องดูว่าจะทำได้จริงหรือไม่ เพราะการลงทุนในปีหน้ามีแนวโน้มสูงว่าจะติดลบ และเม็ดเงินที่จะนำมาใช้กระตุ้นเศรษฐกิจจำนวน 3 แสนล้านบาท รัฐบาลควรนำมาจากเงินทุนสำรองระหว่างประเทศ เนื่องจากปีที่ผ่านมารัฐบาลจัดเก็บภาษีไม่เป็นไปตามเป้า
ประธาน ส.อ.ท.กล่าวว่า สำหรับธนาคารของรัฐควรปล่อยสินเชื่อแก่ธุรกิจ SMEs ให้เร็ว และมีหลักประกันแบบผ่อนคลายมากขึ้น โดยรัฐบาลควรค้ำประกันเงินกู้ให้ นอกจากนี้ รัฐบาลควรให้ความสำคัญกับภาคเกษตร อุตสาหกรรม เพราะไทยมีปัจจัยการผลิตภายในประเทศ โดยเฉพาะปาล์ม หากนำไปผลิตเป็นพลังงานทดแทนอย่างจริงจัง การนำเข้าน้ำมันก็จะลดลงด้วย
ส่วน นายธนวรรธน์ พลวิชัย ผู้อำนวยการศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เปิดเผยว่า นโยบายเศรษฐกิจระยะสั้นของรัฐบาล เป็นการแก้ปัญหาที่ตรงจุดและทำได้รวดเร็ว เพราะเป็นโครงการไม่ใหญ่ โดยเฉพาะการจ้างงานและการปรับภาพลักษณ์การท่องเที่ยว ส่วนนโยบายระยะกลาง เช่น การปรับโครงสร้างการผลิตและสร้างสาธารณูปโภคพื้นฐาน ถือเป็นการส่งสัญญาณด้านเศรษฐกิจที่ดีในอนาคต
ขณะที่ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า วันนี้ได้พบกับนายศุภชัย พานิชภักดิ์ เลขาธิการการประชุมสหประชาชาติว่าด้วยการค้าและการพัฒนา (UNCTAD) โดยนายศุภชัย แนะให้ใช้เวทีการประชุมอาเซียนและเวทีการค้าภูมิภาค หารือกับประเทศสมาชิกเรื่องการค้าการลงทุน เพื่อรักษาระดับการขยายตัวทางเศรษฐกิจ และหากรัฐบาลมีแผนกระตุ้นเศรษฐกิจที่ดี ก็จะเห็นการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจชัดเจนขึ้น