“กอร์ปศักดิ์” แจงแผนเร่งด่วนกู้วิกฤตเศรษฐกิจ ต้องแก้ที่ต้นตอของปัญหา โดยพุ่งเป้าไปที่ภาคอสังหาฯ เพราะเป็นเรียลเซกเตอร์ เชื่อมโยงภาคการผลิต การเงิน การลงทุน และการจ้างงาน
นายกอร์ปศักดิ์ สภาวสุ รองนายกรัฐมนตรีด้านเศรษฐกิจ กล่าวถึงแนวทางเร่งด่วนในการแก้ปัญหาวิกฤตเศรษฐกิจไทย รัฐบาลได้พุ่งเป้าไปที่ต้นตอของปัญหา คือ ด้านโครงสร้างใหญ่ของระบบเศรษฐกิจ โดยวานนี้ รัฐบาลได้ออกมาตรการระยะสั้น เพื่อแก้ปัญหาธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ก่อน เนื่องจากเป็นชนวนของวิกฤตเศรษฐกิจทั้งในประเทศและทั่วโลก
ทั้งนี้ รัฐบาลได้ใช้นโยบายในการเพิ่มวงเงินหักลดหย่อนภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาจากดอกเบี้ยเงินกู้ซื้อบ้าน เพื่อช่วยกระตุ้นภาคอสังหาริมทรัพย์ ซึ่งรัฐบาลมองว่า เป็นมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศที่มีความจำเป็นต้องเร่งดำเนินการ เพราะมีความเชื่อมโยงกับหลายส่วนในระบบเศรษฐกิจที่ได้รับผลกระทบ
ส่วนที่ถูกมองว่า รัฐบาลจัดความสำคัญในการแก้ปัญหาด้านเศรษฐกิจไม่ถูกต้อง แทนที่จะเน้นในภาคที่สำคัญ เช่น การท่องเที่ยวก่อนนั้น นายกอร์ปศักดิ์ เห็นว่า มาตรการที่ช่วยเหลือภาคอสังหาริมทรัพย์ ถือว่า มีความสำคัญ เนื่องจากมีแรงงานที่อยู่ในภาคการก่อสร้างจำนวนมาก ซึ่งมาตรการจะออกมาอย่างชัดเจน ภายหลังการแถลงนโยบายรัฐบาล และจากนั้นนัดหารือกับ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ในทันที
ทั้งนี้ พบว่า การลงทุนภาคเอกชนในเดือน พ.ย.2551 ชะลอตัวลงต่อเนื่องจากเดือนก่อน โดยเครื่องชี้ด้านการก่อสร้างและอสังหาริมทรัพย์ที่สะท้อนจากภาษีธุรกรรมอสังหาริมทรัพย์ในเดือน พ.ย.2551 ติดลบ 6.4% ชะลอลงจากเดือนก่อนที่ขยายตัว 13.2% ต่อปี สะท้อนว่าตลาดอสังหาริมทรัพย์มีสัญญาณชะลอตัวตามภาวะเศรษฐกิจในประเทศ ทั้งจากความไม่มั่นใจในสถานการณ์เศรษฐกิจ ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญต่อการตัดสินใจซื้ออสังหาริมทรัพย์
ขณะเดียวกัน ปัจจัยที่มีผลกระทบต่อการลงทุนด้านการก่อสร้างของภาคเอกชนในประเทศไทย ประกอบไปด้วย อัตราดอกเบี้ยให้เอกชนกู้ ปริมาณพื้นที่ที่ได้รับอนุญาตในการก่อสร้าง จำนวนแรงงานภาคการก่อสร้าง ราคาปูนซีเมนต์ที่จำหน่าย และแนวโน้มของเวลา ซึ่งปัจจัยทั้ง 5 ตัวนี้ มีระดับความเชื่อมั่นของภาคดังกล่าว