ทีวีไทย มั่นใจ “มาร์ค” ไม่ก้าวก่ายสื่อ พร้อมเดินหน้าทำงานเต็มที่ ล่าสุด ได้ที่ทำการใหม่แล้ว ติดสโมสรตำรวจ ส่วนแผนทำงานปี 52 เตรียมลอนด์ทีวีไทย ก้าวสู่ปีที่ 2 ปรับสัญลักษณ์ใหม่ เจาะลึกข่าวมากขึ้น ส่งเสริมสังคม มุ่งรายการเด็กและเยาวชนในสัดส่วน 15% จากเดิม 12%
นายเทพชัย หย่อง ผู้อำนวยการ องค์การกระจายเสียงและแพร่ภาพสาธารณะแห่งประเทศไทย (ส.ส.ท.) หรือ สถานีโทรทัศน์สาธารณะ ทีวีไทย ทีวีสาธารณะ เปิดเผยว่า หลังจากที่ประเทศไทยได้รัฐบาลชุดใหม่ โดยมี นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ เป็นนายกรัฐมนตรีนั้น เชื่อมั่นว่ารัฐบาลชุดนี้ จะเข้าใจระบบการทำงานของสื่อมวลชน ดังนั้น จึงมองว่า ไม่น่าจะมีการก้าวก่ายหรือแทรกแซงองค์การอย่างรัฐบาลชุดที่ผ่านมา ที่มีการก้าวก่ายบ้าง แต่ก็ไม่เป็นผล เพราะเข้าใจแล้วว่าไม่สามารถทำเช่นนั้นได้
ทั้งนี้ ทีวีไทยจะเดินหน้าต่อไป โดยในปี 2552 ถือเป็นปีที่ 2 ของทีวีไทย ดังนั้น ในวันที่ 12 ม.ค.ที่จะถึงนี้ ทางทีวีไทย จะมีการรีลอนด์ครั้งสำคัญ เพื่อต้อนรับการทำงานในปีที่ 2 ไม่ว่าจะเป็นการปรับสัญลักษณ์ของทางช่องใหม่ รวมไปถึงรูปแบบรายการที่มีอยู่ เช่น รายการข่าวที่จะเน้นนำเสนอชีวิตคนในสังคม ข่าวท้องถิ่น รวมไปถึงข่าวในลักษณะเจาะลึก แบบสืบสวนสอบสวนมากขึ้น จากเดิมที่จะนำเสนอข่าวของบุคคลที่เป็นกระแสในขณะนั้น
ล่าสุด ยังได้ร่วมกับ สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ หรือ สสส.ในการร่วมมือวางแผนร่วมกัน เพื่อสร้างจิตสำนึก คุณธรรม พัฒนาคุณภาพเด็กเยาวชน และสังคม ผ่านตัวรายการเยาวชนที่จะเกิดขึ้นในปีหน้า โดยจะมีการประกาศให้ผู้จัดรายการเข้ามา ร่วมผลิตรายการตามโจทย์ที่ทาง ทีวีไทย และ สสส.ได้ตั้งโจทย์ไว้ด้วย
อย่างไรก็ตาม สำหรับรูปแบบ และสัดส่วนผังรายการในปี 2552 นี้ จะมีการแถลงอย่างเป็นทางการอีกครั้งในวันที่ 12 ม.ค.2552 แต่เบื้องต้นสัดส่วนรายการข่าวจะยังคงไว้ที่ 40% อีก 30% เป็นรายการสาระประโยชน์ และอีก 30% เป็นรายการสาระบันเทิง โดยรายการสำหรับเด็ก เยาวชน และครอบครัว จะแทรกอยู่ในรายการทั้งสาระประโยชน์และรายการสาระบันเทิง จากเดิมในปีนี้รายการสำหรับเด็ก เยาวชน และครอบครัว มีสัดส่วนอยู่ที่ 12% ของรายการทั้งหมด ปีหน้าจะเพิ่มเป็น 15% ทั้งในเวลาช่วงเสาร์-อาทิตย์ และในช่วงเย็นของวันจันทร์-ศุกร์ นอกจากนี้ตามแผนในปีหน้า จะเพิ่มละครซิทคอม และละครอิงประวัติศาสตร์เข้ามาด้วย
นายเทพชัย กล่าวต่อว่า สำหรับแผนการลงทุนในปีหน้านั้น นอกจากเรื่องของ การลงทุนก่อสร้างที่ทำงานใหม่ของ ส.ส.ท.มูลค่าประมาณ 1,500 ล้านบาท ขณะนี้ตกลงซื้อที่ดินขนาด 27 ไร่แล้ว มูลค่ากว่า 500-600 ล้านบาท ติดสโมสรตำรวจ ถ.วิภาวดี คาดว่า ในปี 2552 นี้ จะเริ่มการก่อสร้างตัวอาคารได้ และในปี 2554 จะแล้วเสร็จ
นอกจากนี้ ยังมีโครงการที่จะทำวิทยุออนไลน์ ในชื่อ วิทยุไทย วิทยุสาธารณะ ซึ่งต้องรอการจัดสรรคลื่นความถี่ก่อน แต่มองว่าอาจจะมีการเจรจากับทาง กทช.ในการร่วมมือกันบริหารคลื่นวิทยุความถี่ที่มีอยู่ นอกจากนี้ยังมีการลงทุนเกี่ยวกับการขยายศูนย์ข่าวภูมิภาค ที่ตามแผนจะมีโครงการนำเสนอข่าวท้องถิ่น โดยในจะเริ่มจาก 4 จังหวัดภาคใต้ ออกอากาศทุกวันศุกร์เวลา 11.00-12.00 น.เริ่มวันที่ 9 ม.ค.2552 นี้
อนึ่ง องค์การกระจายเสียงและแพร่ภาพสาธารณะแห่งประเทศไทย ถือเป็นองค์การสาธารณะ ต่อปีได้งบประมาณจากภาษีสุราและยาสูบ ปีละประมาณ 1.5% หรือปีละไม่เกิน 2,000 ล้านบาท โดยในปี 2551 ได้มา 1,500 ล้านบาท ส่วนในปี 2552 ได้มา 1,800 ล้านบาท ซึ่งทางองค์การฯจะมีการจัดสรรงบประมาณที่มีอยู่เพื่อบริหารจัดการภายในองค์การ รวมถึงการลงทุนที่ทำการใหม่ อย่างไรก็ตาม องค์การฯดังกล่าวยังสามารถหารายได้จากส่วนอื่นเข้ามาได้ด้วย ไม่ว่าจะเป็นการขายทรัพย์สินทางปัญญาที่มีอยู่ การได้รับเงินสนับสนุนจากองค์การอื่นๆ หรือการที่หน่วยงานอื่นเข้ามาร่วมสนับสนุนการผลิตรายการ ที่จะทำให้ต้นทุนการผลิตลดลง
นายเทพชัย หย่อง ผู้อำนวยการ องค์การกระจายเสียงและแพร่ภาพสาธารณะแห่งประเทศไทย (ส.ส.ท.) หรือ สถานีโทรทัศน์สาธารณะ ทีวีไทย ทีวีสาธารณะ เปิดเผยว่า หลังจากที่ประเทศไทยได้รัฐบาลชุดใหม่ โดยมี นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ เป็นนายกรัฐมนตรีนั้น เชื่อมั่นว่ารัฐบาลชุดนี้ จะเข้าใจระบบการทำงานของสื่อมวลชน ดังนั้น จึงมองว่า ไม่น่าจะมีการก้าวก่ายหรือแทรกแซงองค์การอย่างรัฐบาลชุดที่ผ่านมา ที่มีการก้าวก่ายบ้าง แต่ก็ไม่เป็นผล เพราะเข้าใจแล้วว่าไม่สามารถทำเช่นนั้นได้
ทั้งนี้ ทีวีไทยจะเดินหน้าต่อไป โดยในปี 2552 ถือเป็นปีที่ 2 ของทีวีไทย ดังนั้น ในวันที่ 12 ม.ค.ที่จะถึงนี้ ทางทีวีไทย จะมีการรีลอนด์ครั้งสำคัญ เพื่อต้อนรับการทำงานในปีที่ 2 ไม่ว่าจะเป็นการปรับสัญลักษณ์ของทางช่องใหม่ รวมไปถึงรูปแบบรายการที่มีอยู่ เช่น รายการข่าวที่จะเน้นนำเสนอชีวิตคนในสังคม ข่าวท้องถิ่น รวมไปถึงข่าวในลักษณะเจาะลึก แบบสืบสวนสอบสวนมากขึ้น จากเดิมที่จะนำเสนอข่าวของบุคคลที่เป็นกระแสในขณะนั้น
ล่าสุด ยังได้ร่วมกับ สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ หรือ สสส.ในการร่วมมือวางแผนร่วมกัน เพื่อสร้างจิตสำนึก คุณธรรม พัฒนาคุณภาพเด็กเยาวชน และสังคม ผ่านตัวรายการเยาวชนที่จะเกิดขึ้นในปีหน้า โดยจะมีการประกาศให้ผู้จัดรายการเข้ามา ร่วมผลิตรายการตามโจทย์ที่ทาง ทีวีไทย และ สสส.ได้ตั้งโจทย์ไว้ด้วย
อย่างไรก็ตาม สำหรับรูปแบบ และสัดส่วนผังรายการในปี 2552 นี้ จะมีการแถลงอย่างเป็นทางการอีกครั้งในวันที่ 12 ม.ค.2552 แต่เบื้องต้นสัดส่วนรายการข่าวจะยังคงไว้ที่ 40% อีก 30% เป็นรายการสาระประโยชน์ และอีก 30% เป็นรายการสาระบันเทิง โดยรายการสำหรับเด็ก เยาวชน และครอบครัว จะแทรกอยู่ในรายการทั้งสาระประโยชน์และรายการสาระบันเทิง จากเดิมในปีนี้รายการสำหรับเด็ก เยาวชน และครอบครัว มีสัดส่วนอยู่ที่ 12% ของรายการทั้งหมด ปีหน้าจะเพิ่มเป็น 15% ทั้งในเวลาช่วงเสาร์-อาทิตย์ และในช่วงเย็นของวันจันทร์-ศุกร์ นอกจากนี้ตามแผนในปีหน้า จะเพิ่มละครซิทคอม และละครอิงประวัติศาสตร์เข้ามาด้วย
นายเทพชัย กล่าวต่อว่า สำหรับแผนการลงทุนในปีหน้านั้น นอกจากเรื่องของ การลงทุนก่อสร้างที่ทำงานใหม่ของ ส.ส.ท.มูลค่าประมาณ 1,500 ล้านบาท ขณะนี้ตกลงซื้อที่ดินขนาด 27 ไร่แล้ว มูลค่ากว่า 500-600 ล้านบาท ติดสโมสรตำรวจ ถ.วิภาวดี คาดว่า ในปี 2552 นี้ จะเริ่มการก่อสร้างตัวอาคารได้ และในปี 2554 จะแล้วเสร็จ
นอกจากนี้ ยังมีโครงการที่จะทำวิทยุออนไลน์ ในชื่อ วิทยุไทย วิทยุสาธารณะ ซึ่งต้องรอการจัดสรรคลื่นความถี่ก่อน แต่มองว่าอาจจะมีการเจรจากับทาง กทช.ในการร่วมมือกันบริหารคลื่นวิทยุความถี่ที่มีอยู่ นอกจากนี้ยังมีการลงทุนเกี่ยวกับการขยายศูนย์ข่าวภูมิภาค ที่ตามแผนจะมีโครงการนำเสนอข่าวท้องถิ่น โดยในจะเริ่มจาก 4 จังหวัดภาคใต้ ออกอากาศทุกวันศุกร์เวลา 11.00-12.00 น.เริ่มวันที่ 9 ม.ค.2552 นี้
อนึ่ง องค์การกระจายเสียงและแพร่ภาพสาธารณะแห่งประเทศไทย ถือเป็นองค์การสาธารณะ ต่อปีได้งบประมาณจากภาษีสุราและยาสูบ ปีละประมาณ 1.5% หรือปีละไม่เกิน 2,000 ล้านบาท โดยในปี 2551 ได้มา 1,500 ล้านบาท ส่วนในปี 2552 ได้มา 1,800 ล้านบาท ซึ่งทางองค์การฯจะมีการจัดสรรงบประมาณที่มีอยู่เพื่อบริหารจัดการภายในองค์การ รวมถึงการลงทุนที่ทำการใหม่ อย่างไรก็ตาม องค์การฯดังกล่าวยังสามารถหารายได้จากส่วนอื่นเข้ามาได้ด้วย ไม่ว่าจะเป็นการขายทรัพย์สินทางปัญญาที่มีอยู่ การได้รับเงินสนับสนุนจากองค์การอื่นๆ หรือการที่หน่วยงานอื่นเข้ามาร่วมสนับสนุนการผลิตรายการ ที่จะทำให้ต้นทุนการผลิตลดลง
