ทีพีบีเอส เล็งทุ่มงบ 500 ล้านบาท ซื้อที่ดิน 27 ไร่ ริมถนนวิภาวดีรังสิต เตรียมสร้างที่ทำการใหม่ พร้อมหาช่องทางสร้างรายได้เลี้ยงชีพ คณะกรรมการฯลงมติเอกฉันท์ 9 เสียง เลือก "เทพชัย หย่อง" นั่งตำแหน่ง ผอ. ย้ำเมินเรตติ้งเน้นความน่าเชื่อถือ
ศ.เกริกเกียรติ พิพัฒน์เสรีธรรม ประธานคณะกรรมการนโยบายทีวีไทย ทีวีสาธารณะ หรือไทยพีบีเอส/ทีพีบีเอส เปิดเผยว่า ขณะนี้ทีพีบีเอสอยู่ระหว่างการเจรจาเพื่อซื้อที่ดินจาก บรรษัทบริหารสินทรัพย์ไทย หรือ บสท. จำนวน 27 ไร่ บริเวณ ถนนวิภาวดีรังสิตติดกับสโมสรตำรวจ ราคาที่ดินประมาณ 500 ล้านบาท จากมูลค่าที่เจ้าของเดิมจำนองไว้กว่า 700 ล้านบาท เพื่อใช้ก่อสร้างที่ทำการใหม่ คาดว่าจะสรุปได้ในปลายปีนี้ โดยจะต้องก่อสร้างอาคารอีกกว่า 350 ล้านบาท อย่างไรก็ตามที่ทำการเดิมที่ตึกชินวัตร 3 นั้น เพิ่งต่อสัญญาไปอีก 3 ปี ค่าเช่าตกปีละ 40 กว่าล้านบาท และเพิ่งต่อสัญญาเช่าดาวเทียมอีก 5 ปี
**หาทางสร้างรายได้
ทั้งนี้งบประมาณที่ได้จากภาครัฐ ซึ่งมาจาก 1.5% จากภาษีสุราและยาสูบ หรือไม่เกิน 2,000 ล้านบาทต่อปีและปรับทุก 3 ปีตามอัตราเงินเฟ้อนั้น ขณะนี้ได้งบประมาณมาเฉลี่ย 140-150 ล้านบาทต่อเดือน ซึ่งจะต้องนำมาจัดการภายในองค์กร ซึ่งยังไม่เพียงพอ ทำให้มีแนวคิดที่จะหาทุนเพิ่มเติมเช่น เงินที่ได้รับบริจาค อาจจะตั้งมูลนิธิขึ้นมาจัดการ จัดหารายได้เองเพื่อมาใช้จ่าย
"คณะกรรมการฯเพิ่งทำงานมา 2 เดือนกับอีก 5 วัน ตอนนี้เราพร้อมแล้ว จะมีการผ่าตัดตั้งแต่นโยบายว่าควรมีแนวทางอย่างไร องค์กรต้องกะทัดรัดแต่เราจะไม่เอาคนออก แต่ถ้ารับใหม่ต้องพิจารณาให้ดี องค์กรจะอยู่ได้ เข้มแข็งได้จาก 3 ส่วนคือ คณะกรรมการฯ ฝ่ายบริหาร และพนักงาน ทุกคนต้องมีการงานมั่นคง มีรายได้สมศักดิ์ศรีเพียงพอ ภูมิใจที่ได้ทำงานในองค์กรนี้ เราต้องมีความอิสระ หยิ่งทรนง ไม่หวั่นเกรงใครทั้งสิ้น สถานีอยู่ได้ไม่ได้ไม่ใช่ที่นักการเมือง เราจะทำให้เป็นองค์กรของประชาชนแท้จริง ขณะนี้เรากำลังร่างแผนยุทธศาสตร์ 4 ปี ถึงปี 2555 เราจะไปถึงจุดไหน และเพื่อรองรับระบบดิจิตอลด้วย"
**เทพชัยนั่งผอ.รับสูงสุด3แสน
สำหรับกรณีของตำแหน่ง ผอ.ทีพีบีเอส นั้น ศ.เกริกเกียรติ กล่าวว่า เมื่อวันที่ 9 ตุลาคมที่ผ่านมาคณะกรรมการฯได้ทำการสัมภาษณ์ พร้อมทั้งพิจารณาข้อมูลจากประชาชนที่ส่งเข้ามากว่า 50 ชุด ซึ่งส่วนใหญ่หนักไปทางนายเทพชัย และรับฟังการแสดงวิสัยทัศน์จากผู้สมัคร ที่ผ่านการคัดเลือกเหลือ 3 คนคือ 1.นายชาญชัย สิงโตโรจน์ รองกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ สายทรัพยากรบุคคลและบริหารทั่วไป บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) 2.นายเทพชัย หย่อง รักษาการผู้อำนวยการทีพีบีเอสและบรรณาธิการเครือ บริษัท เนชั่นมัลติมีเดียกรุ๊ป จำกัด (มหาชน) 3.ศรีรัตน์ นุชนิยม ผู้อำนวยการบริหาร สมาคมสมาพันธ์ภาพยนตร์แห่งชาติ
ทั้งนี้คณะกรรมการฯมีมติเป็นเอกฉันท์ทั้ง 9 คน เลือกนายเทพชัย หย่อง เป็น ผู้อำนวยการ เนื่องจากนายเทพชัย เป็นผู้ที่มีความเข้าใจทีวีสาธารณะอย่างชัดเจนมากที่สุด ซึ่งการตัดสินใจครั้งนี้ไม่มีการตั้งธงไว้ก่อนว่าจะเลือกใคร ทุกอย่างมาเริ่มต้นกันใหม่ กรรมการทุกคนไม่มีการปรึกษากัน ทุกคนเป็นอิสระในการตัดสินใจ
นายแพทย์พลเดช ปิ่นประทีป ประธานคณะกรรมการสรรหาผู้อำนวยการ กล่าวว่า ทีวีสาธารณะเป็นเรื่องใหม่ในสังคมไทย เป็นองค์กรที่ตั้งขึ้นมาใหม่ เราต้องเลือกคนที่เหมาะสมที่สุด ซึ่งทั้ง 3 คนที่ผ่านการคัดเลือกเข้ามาก็มีความรู้ความสามารถในการบริหารองค์กรได้ดี ซึ่งในสถานการณ์ปัจจุบันทีวีไทยตั้งขึ้นมาใหม่ตามกฎหมาย ไม่เหมือนสถานีโทรทัศน์ทั่วไป ขณะเดียวกันต้องเป็นบุคคลที่มีความเหมาะสมกับงาน และเหมาะสมกับปัญหาบ้านเมืองที่มีอยู่ในขณะนี้ คณะกรรมการฯจึงมีมติเลือกนายเทพชัย หย่อง
ส่วนกรณีค่าตอบแทนตำแหน่งของนายเทพชัยนั้น ศ.เกริกเกียรติ กล่าวว่า ตามเงื่อนไขใหม่โครงสร้างเงินเดือนวางไว้ที่ 2.5-3 แสนบาทต่อเดือน และเซ็นสัญญา 4 ปี มีการประเมินผลตามระยะเวลาที่กำหนดแต่ละช่วง ซึ่งเดิมทีนายเทพชัย รับเงินค่าตอบแทนประมาณ 4 แสนบาทเพราะเป็นทั้งรักษาการผอ.และคณะกรรมการฯด้วย
นายเทพชัย หย่อง ผู้อำนวยการ กล่าวว่า ภาระกิจที่จะต้องทำคือ การผ่าตัดองค์กรเพื่อเป็นการเสริมสิ่งที่ดีๆเข้าไป เพื่อให้เกิดความเป็นทีวีสาธารณะอย่างแท้จริง ด้วยจำนวนบุคลากรเวลานี้กว่า 910 คน เพราะช่วง 7-8 เดือนที่ผ่านมาเป็นการเริ่มต้นที่ล้มลุกคลุกคลาน มีความวุ่นวาย ความกดดันทางการเมือง จากนี้ไปจะมีแต่ถาวรไม่มีชั่วคราวแล้ว ต้องเดินหน้าผลักดันให้เป็นทีวีสาธารณะเต็มรูปแบบ ภายในต้นปีหน้ารายการต่างๆจะมีความเป็นสาธารณะมากขึ้น ล่าสุด รายการจะมีรายการใหม่ "เปลี่ยนประเทศไทย" ทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา สี่ทุม เป็นรายการสดเกี่ยวกับสถานการณ์บ้านเมือง และ 2 เดือนจากนี้จะมีรายการใหม่ทดลองทำเฉพาะคน 4 จังหวัดภาคใต้ ออกอากาศสัปดาห์ละครั้ง "เราไม่ได้มุ่งหวังเรตติ้ง แต่เรามุ่งเน้นดานความน่าเชื่อถือของผลงาน"
นายสมชัย สุวรรณบรรณ กรรมการทีพีบีเอส กล่าวว่า เรากำลังจะสร้างสถาบันสื่อใหม่ของสังคมไทย การผ่าตัดที่วานั้นคือการสร้างสื่อพันธุ์ใหม่
นายจอน อึ้งภากรณ์ กรรมการทีพีบีเอส กล่าวว่า ปีหน้าคาดว่าจะมีสภาผู้ชมชัดเจน ขณะนี้อยู่ระหว่างการคัดเลือก จากผู้ที่ได้รบการเสนอชื่อ 9 ภูมิภาค 16 กลุ่ม รวมเกือบ 700 คนให้เหลือ 50 คน คาดว่า วันที่ 13 พย.นี้จะประชุมนัดแรก
ศ.เกริกเกียรติ พิพัฒน์เสรีธรรม ประธานคณะกรรมการนโยบายทีวีไทย ทีวีสาธารณะ หรือไทยพีบีเอส/ทีพีบีเอส เปิดเผยว่า ขณะนี้ทีพีบีเอสอยู่ระหว่างการเจรจาเพื่อซื้อที่ดินจาก บรรษัทบริหารสินทรัพย์ไทย หรือ บสท. จำนวน 27 ไร่ บริเวณ ถนนวิภาวดีรังสิตติดกับสโมสรตำรวจ ราคาที่ดินประมาณ 500 ล้านบาท จากมูลค่าที่เจ้าของเดิมจำนองไว้กว่า 700 ล้านบาท เพื่อใช้ก่อสร้างที่ทำการใหม่ คาดว่าจะสรุปได้ในปลายปีนี้ โดยจะต้องก่อสร้างอาคารอีกกว่า 350 ล้านบาท อย่างไรก็ตามที่ทำการเดิมที่ตึกชินวัตร 3 นั้น เพิ่งต่อสัญญาไปอีก 3 ปี ค่าเช่าตกปีละ 40 กว่าล้านบาท และเพิ่งต่อสัญญาเช่าดาวเทียมอีก 5 ปี
**หาทางสร้างรายได้
ทั้งนี้งบประมาณที่ได้จากภาครัฐ ซึ่งมาจาก 1.5% จากภาษีสุราและยาสูบ หรือไม่เกิน 2,000 ล้านบาทต่อปีและปรับทุก 3 ปีตามอัตราเงินเฟ้อนั้น ขณะนี้ได้งบประมาณมาเฉลี่ย 140-150 ล้านบาทต่อเดือน ซึ่งจะต้องนำมาจัดการภายในองค์กร ซึ่งยังไม่เพียงพอ ทำให้มีแนวคิดที่จะหาทุนเพิ่มเติมเช่น เงินที่ได้รับบริจาค อาจจะตั้งมูลนิธิขึ้นมาจัดการ จัดหารายได้เองเพื่อมาใช้จ่าย
"คณะกรรมการฯเพิ่งทำงานมา 2 เดือนกับอีก 5 วัน ตอนนี้เราพร้อมแล้ว จะมีการผ่าตัดตั้งแต่นโยบายว่าควรมีแนวทางอย่างไร องค์กรต้องกะทัดรัดแต่เราจะไม่เอาคนออก แต่ถ้ารับใหม่ต้องพิจารณาให้ดี องค์กรจะอยู่ได้ เข้มแข็งได้จาก 3 ส่วนคือ คณะกรรมการฯ ฝ่ายบริหาร และพนักงาน ทุกคนต้องมีการงานมั่นคง มีรายได้สมศักดิ์ศรีเพียงพอ ภูมิใจที่ได้ทำงานในองค์กรนี้ เราต้องมีความอิสระ หยิ่งทรนง ไม่หวั่นเกรงใครทั้งสิ้น สถานีอยู่ได้ไม่ได้ไม่ใช่ที่นักการเมือง เราจะทำให้เป็นองค์กรของประชาชนแท้จริง ขณะนี้เรากำลังร่างแผนยุทธศาสตร์ 4 ปี ถึงปี 2555 เราจะไปถึงจุดไหน และเพื่อรองรับระบบดิจิตอลด้วย"
**เทพชัยนั่งผอ.รับสูงสุด3แสน
สำหรับกรณีของตำแหน่ง ผอ.ทีพีบีเอส นั้น ศ.เกริกเกียรติ กล่าวว่า เมื่อวันที่ 9 ตุลาคมที่ผ่านมาคณะกรรมการฯได้ทำการสัมภาษณ์ พร้อมทั้งพิจารณาข้อมูลจากประชาชนที่ส่งเข้ามากว่า 50 ชุด ซึ่งส่วนใหญ่หนักไปทางนายเทพชัย และรับฟังการแสดงวิสัยทัศน์จากผู้สมัคร ที่ผ่านการคัดเลือกเหลือ 3 คนคือ 1.นายชาญชัย สิงโตโรจน์ รองกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ สายทรัพยากรบุคคลและบริหารทั่วไป บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) 2.นายเทพชัย หย่อง รักษาการผู้อำนวยการทีพีบีเอสและบรรณาธิการเครือ บริษัท เนชั่นมัลติมีเดียกรุ๊ป จำกัด (มหาชน) 3.ศรีรัตน์ นุชนิยม ผู้อำนวยการบริหาร สมาคมสมาพันธ์ภาพยนตร์แห่งชาติ
ทั้งนี้คณะกรรมการฯมีมติเป็นเอกฉันท์ทั้ง 9 คน เลือกนายเทพชัย หย่อง เป็น ผู้อำนวยการ เนื่องจากนายเทพชัย เป็นผู้ที่มีความเข้าใจทีวีสาธารณะอย่างชัดเจนมากที่สุด ซึ่งการตัดสินใจครั้งนี้ไม่มีการตั้งธงไว้ก่อนว่าจะเลือกใคร ทุกอย่างมาเริ่มต้นกันใหม่ กรรมการทุกคนไม่มีการปรึกษากัน ทุกคนเป็นอิสระในการตัดสินใจ
นายแพทย์พลเดช ปิ่นประทีป ประธานคณะกรรมการสรรหาผู้อำนวยการ กล่าวว่า ทีวีสาธารณะเป็นเรื่องใหม่ในสังคมไทย เป็นองค์กรที่ตั้งขึ้นมาใหม่ เราต้องเลือกคนที่เหมาะสมที่สุด ซึ่งทั้ง 3 คนที่ผ่านการคัดเลือกเข้ามาก็มีความรู้ความสามารถในการบริหารองค์กรได้ดี ซึ่งในสถานการณ์ปัจจุบันทีวีไทยตั้งขึ้นมาใหม่ตามกฎหมาย ไม่เหมือนสถานีโทรทัศน์ทั่วไป ขณะเดียวกันต้องเป็นบุคคลที่มีความเหมาะสมกับงาน และเหมาะสมกับปัญหาบ้านเมืองที่มีอยู่ในขณะนี้ คณะกรรมการฯจึงมีมติเลือกนายเทพชัย หย่อง
ส่วนกรณีค่าตอบแทนตำแหน่งของนายเทพชัยนั้น ศ.เกริกเกียรติ กล่าวว่า ตามเงื่อนไขใหม่โครงสร้างเงินเดือนวางไว้ที่ 2.5-3 แสนบาทต่อเดือน และเซ็นสัญญา 4 ปี มีการประเมินผลตามระยะเวลาที่กำหนดแต่ละช่วง ซึ่งเดิมทีนายเทพชัย รับเงินค่าตอบแทนประมาณ 4 แสนบาทเพราะเป็นทั้งรักษาการผอ.และคณะกรรมการฯด้วย
นายเทพชัย หย่อง ผู้อำนวยการ กล่าวว่า ภาระกิจที่จะต้องทำคือ การผ่าตัดองค์กรเพื่อเป็นการเสริมสิ่งที่ดีๆเข้าไป เพื่อให้เกิดความเป็นทีวีสาธารณะอย่างแท้จริง ด้วยจำนวนบุคลากรเวลานี้กว่า 910 คน เพราะช่วง 7-8 เดือนที่ผ่านมาเป็นการเริ่มต้นที่ล้มลุกคลุกคลาน มีความวุ่นวาย ความกดดันทางการเมือง จากนี้ไปจะมีแต่ถาวรไม่มีชั่วคราวแล้ว ต้องเดินหน้าผลักดันให้เป็นทีวีสาธารณะเต็มรูปแบบ ภายในต้นปีหน้ารายการต่างๆจะมีความเป็นสาธารณะมากขึ้น ล่าสุด รายการจะมีรายการใหม่ "เปลี่ยนประเทศไทย" ทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา สี่ทุม เป็นรายการสดเกี่ยวกับสถานการณ์บ้านเมือง และ 2 เดือนจากนี้จะมีรายการใหม่ทดลองทำเฉพาะคน 4 จังหวัดภาคใต้ ออกอากาศสัปดาห์ละครั้ง "เราไม่ได้มุ่งหวังเรตติ้ง แต่เรามุ่งเน้นดานความน่าเชื่อถือของผลงาน"
นายสมชัย สุวรรณบรรณ กรรมการทีพีบีเอส กล่าวว่า เรากำลังจะสร้างสถาบันสื่อใหม่ของสังคมไทย การผ่าตัดที่วานั้นคือการสร้างสื่อพันธุ์ใหม่
นายจอน อึ้งภากรณ์ กรรมการทีพีบีเอส กล่าวว่า ปีหน้าคาดว่าจะมีสภาผู้ชมชัดเจน ขณะนี้อยู่ระหว่างการคัดเลือก จากผู้ที่ได้รบการเสนอชื่อ 9 ภูมิภาค 16 กลุ่ม รวมเกือบ 700 คนให้เหลือ 50 คน คาดว่า วันที่ 13 พย.นี้จะประชุมนัดแรก