รถร่วมฯ ขสมก. เล็งฟ้องศาลปกครอง โวยโครงการเช่ารถเมล์ NGV จำนวน 4 พันคัน ไม่โปร่งใส และแอบแปลงรถเก่าให้ใช้ก๊าซ NGV ทำให้จำนวนรถเพิ่มขึ้นแต่คนน้อยลง โดยไม่เคยเชิญกลุ่มรถร่วมฯ ไปร่วมหารือผลกระทบ หนำซ้ำยังบังคับให้รถร่วมติดตั้งก๊าซ NGV ในราคาแพง ขณะที่ ปตท.ผู้ค้าแบบผูกขาด ก็เตรีบมปรับขึ้นราคาก๊าซเป็น 11 บาท
นายฉัตรชัย ชัยวิเศษ นายกสมาคมพัฒนารถร่วมเอกชน เปิดเผยว่า ผู้ประกอบการรถโดยสารร่วมบริการ องค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) อยู่ระหว่างการหารือร่วมกับทนายความ เพื่อเตรียมยื่นฟ้องศาลปกครอง หลังปีใหม่นี้ กรณีที่ ขสมก.จัดทำโครงการเช่าและซ่อมแซมบำรุง รถยนต์โดยสารปรับอากาศใช้ NGV จำนวน 4,000 คัน ไม่ชอบด้วยกฎหมาย โดยจะรอให้ ขสมก.ประกาศประกวดราคาโครงการดังกล่าวอย่างเป็นทางการก่อน
ทั้งนี้ ผู้ประกอบการรถร่วมเอกชน เห็นว่า การดำเนินโครงการดังกล่าวนั้น ขสมก.ควรจะจัดเช่ารถโดยสารเท่ากับจำนวนรถโดยสารที่ ขสมก.ให้บริการอยู่ในปัจจุบันที่ 3,900 คัน แต่การดำเนินโครงการกลับกำหนดให้มีการเปลี่ยนแปลงรถโดยสารเก่ามาใช้ NGV ซึ่งทำให้ปริมาณรถโดยสารของ ขสมก.เพิ่มขึ้น และจะกระทบต่อการดำเนินงานของรถร่วม ขสมก.
“ยืนยันว่า เอกชนไม่ได้คัดค้านโครงการเช่ารถโดยสาร NGV แต่การดำเนินโครงการต้องโปร่งใส และไม่ทำลายรถร่วมเอกชน ซึ่งในทางปฏิบัติ ขสมก.ไม่เคยเชิญผู้ประกอบการรถร่วมฯ ไปหารือเกี่ยวกับการดำเนินโครงการ และยังได้ออกข้อกำหนดให้ผู้ประกอบการรถร่วมฯ ปรับเปลี่ยนรถโดยสารใช้ NGV ทำให้มีหนี้สินเพิ่มขึ้นจากการลงทุนดังกล่าวรวมกว่า 10,000 ล้านบาท เป็นการเพิ่มภาระให้กับผู้ประกอบการ” นายฉัตรชัย กล่าว
นายฉัตรชัย กล่าวอีกว่า การให้บริการวันแรกของรถร่วมบริการ หลังจากปรับลดอัตราค่าโดยสารลงวันนี้ พบว่า ปริมาณผู้โดยสารคงที่ แต่รายได้ลดลงค่อนข้างมาก โดยในส่วนของรถร่วมบริการ สาย 542 ซึ่งตนเองเป็นผู้รับสัมปทานนั้น รายได้ลดลงวันละประมาณ 17,000 บาท ซึ่งถือว่าค่อนข้างสูง เพราะต้นทุนเดินรถไม่ได้ปรับลดลง จากการปรับเปลี่ยนมาใช้รถ NGV ซึ่งมีค่าใช้จ่ายในการบำรุงรักษาสูงกว่ารถโดยสารใช้ดีเซล และในอนาคต หากให้มีการปรับลดค่าโดยสารลงอีก ผู้ประกอบการคงไม่สามารถให้บริการได้ เนื่องจากสู้ต้นทุนที่เพิ่มขึ้นไม่ไหว และมีแนวโน้มว่า บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) หรือ PTT มีนโยบายปรับขึ้นราคา NGV อีก
นายยู เจียรยืนยงพงศ์ ประธานสหพันธ์การขนส่งทางบกแห่งประเทศไทย กล่าวว่า สหพันธ์ฯ จะทำหนังสือถึงนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ในวันที่ 24 ธันวาคม 2551 เพื่อให้ระงับการปรับขึ้นราคา NGV เพื่อช่วยเหลือผู้ประกอบการ ซึ่งมั่นใจว่า รัฐบาลจะสั่งระงับการปรับขึ้นราคา NGV แต่หากไม่เป็นตามที่ตั้งเป้าไว้ผู้ประกอบการบางส่วนอาจใช้วิธีการปิดสถานีบริการ ปตท.เพื่อคัดค้านการขึ้นราคา