xs
xsm
sm
md
lg

พีอาร์ยิ้มร่ารับงานเข้าปีหน้า ดีซีปรับทิศมุ่งเจาะงบภาครัฐ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ประเทศไทยบอบช้ำ อานิสงส์ธุรกิจประชาสัมพันธ์ คาดปีหน้าเติบโต 10% สวนทางธุรกิจโฆษณา “ดีซี” เชื่อ การประชาสัมพันธ์จะมีบทบาทมากยิ่งขึ้น โฟกัสลูกค้าภาครัฐเป็นหลัก มองเอื้อต่อภาคเอกชนให้งบมากขึ้น มั่นใจปีหน้าโต 10% เท่าปีนี้

นายดนัย จันทร์เจ้าฉาย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ดีซี คอนซัลแทนส์ แอนด์ มาร์เก็ตติ้ง คอมมูนิเคชั่นส์ จำกัด เปิดเผยว่า จากปัญหาการเมืองของประเทศที่เกิดขึ้น ส่งผลให้ภาพลักษณ์และความน่าเชื่อถือจากนักลงทุน และนักท่องเที่ยวลดลง ดังนั้น จึงมองว่า การประชาสัมพันธ์จะเป็นเครื่องมือที่สำคัญที่สุดที่จะช่วยให้ความน่าเชื่อถือนี้กลับมา

โดยในปีหน้าคาดว่า รูปแบบของการประชาสัมพันธ์นั้นจะถูกนำมาใช้กับการตลาดและการขายมากยิ่งขึ้น รวมไปถึงลักษณะการประชาสัมพันธ์ในแบบซีเอสอาร์ โดยการทำประชาสัมพันธ์นั้นควรจะมีประสิทธิภาพทั้งเชิงกว้างและเชิงลึก จากเดิมที่จะเน้นสร้างภาพลักษณ์แบรนด์เพียงอย่างเดียว จะต้องเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายมากขึ้นด้วย

ทั้งนี้ ในปีหน้า ยังมองอีกด้วยว่า เม็ดเงินโฆษณาจะถูกลูกค้าตัดงบลง หรือการทำตลาดแบบอะโบฟ เดอะไลน์ จะถูกเทมาใช้ในบิโลว์เดอะไลน์ มากขึ้น รวมถึงใช้กับการประชาสัมพันธ์มากขึ้นแทน เพราะลูกค้ามองว่าการประชาสัมพันธ์จะเป็นเครื่องมือที่เหมาะสมในการทำตลาดในภาวะที่ผู้บริโภคขาดความเชื่อมั่นในขณะนี้

สำหรับ ดีซี ในปีที่ผ่านมา จากเดิมที่มีสัดส่วนลูกค้าภาครัฐที่ 25% ขณะที่เหลือเพียง 10% เนื่องจากความไม่มั่นคงทางการเมือง ภาครัฐจึงมีการชะลอการใช้เงิน ที่เหลืออีก 55% เป็นเอกชน และอีก 35% เป็นบริษัทข้ามชาติ โดยทั้งปีมองว่ารายได้จะมีการเติบโตที่ 10% ต่ำกว่าเป้าที่คาดไว้ตั้งแต่ต้นปี ที่มั่นใจว่าจะมีการเติบโตที่ 15-20%

ทั้งนี้ สำหรับแผนการดำเนินงานในปีหน้า จากเดิมที่ในขณะนี้มีจำนวนลูกค้าประมาณ 20 ราย ปีหน้ามองว่าจะเพิ่มลูกค้าใหม่อีก 5-10 ราย รวมแล้ว 30 รายในปีหน้า โดยในแง่การเติบโต ปีหน้า คาดว่า จะอยู่ที่ประมาณ 10% ซึ่งหากมองในทิศทางของการขับเคลื่อนในประเทศแล้ว ปีหน้าบริษัทจะให้ความสำคัญกับลูกค้าภาครัฐเป็นพิเศษ เพื่อเชื่อมั่นว่า หากทำการประชาสัมพันธ์ให้ภาครัฐแล้วประสบความสำเร็จ ภาครัฐก็จะมีการปล่อยเม็ดเงิน หรืองบประมาณแผ่นดินออกมา ความน่าเชื่อของรัฐบาลก็จะกลับมา กลุ่มลูกค้าเอกชนก็จะพร้อมจะลงทุน และใช้เงินกับการโฆษณาและประชาสัมพันธ์ตามเช่นเดียวกัน

ปัจจุบันมูลค่าธุรกิจประชาสัมพันธ์ (เฉพาะกลุ่มเอกชน) คิดเป็นสัดส่วนที่ 3-5% ของมูลค่าอุตสาหกรรมโฆษณาที่ 90,000 ล้านในปีนี้ โดยปีนี้เชื่อมั่นว่าภาพรวมธุรกิจประชาสัมพันธ์จะมีการเติบโตที่ 10% ส่วนปีหน้ามองว่าจะมีอัตราการเติบโตที่มากกว่าหรือใกล้เคียงกับปีนี้ อย่างไรก็ตามในส่วนของภาครัฐ ต่อปีใช้งบประมาณทั้งในส่วนโฆษณาและประชาสัมพันธ์ไม่ต่ำกว่า 4,000-5,000 ล้านบาท

ภาพรวมของธุรกิจประชาสัมพันธ์ในปี 2551 มียอดการเติบโตเพียง 10% เนื่องจากธุรกิจประชาสัมพันธ์ได้รับผลกระทบจากวิกฤตทางเศรษฐกิจ ส่งผลให้ภาครัฐ ซึ่งเป็นเม็ดเงินหลักชะลอการตัวในการทำประชาสัมพันธ์ ทำให้ยอดเดิมที่คาดการณ์ไว้ที่ 15-20% ลดลงกว่าที่คาดการณ์

นายดนัย กล่าวต่อว่า ในปี 2552 คาดการณ์ว่า ภาพรวมทางเศรษฐกิจจะเป็นลบ ซึ่งร้ายแรงกว่าวิกฤตต้มยำกุ้งปี 2540 เพราะรายได้ทั้งการส่งออก การท่องเที่ยวและการลงทุนจากต่างประเทศมีการเติบโตติดลบจากปัจจัยความไม่เชื่อมั่น ขณะเดียวกันมองว่าสถานการณ์ในปี2552เป็นวิกฤตซ้อนวิกฤต นั้นคือ วิกฤตการณ์เศรษฐกิจโลกที่มีการหดตัวทำให้การภาคการส่งออกและภาคการท่องเที่ยวลดลง และวิกฤตภายในประเทศที่ดูจะรุนแรงกว่า นั้นคือ ความไม่มีเสถียรภาพทางด้านเศรษฐกิจ
กำลังโหลดความคิดเห็น