xs
xsm
sm
md
lg

อัญมณีวิกฤติหนักรอบ40ปี รุกตลาดใหม่มิดเดิ้ลอีสท์-อินเดีย

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ส.อัญมณีและเครื่องประดับ  ระบุวิกฤตเศรษฐกิจโลก ราคาทองผันผวน กระทบตลาดอัญมณีวิกฤตหนักรอบ 40 ปี  หลังตลาดส่งออกปีหน้าส่ออาการขยายตัวต่ำกว่า 30% ชี้ตลาดหลักอเมริกา ยุโรป ญี่ปุ่น ยอดวูบ แนะผู้ประกอบการปรับตัว ชูจุดขายด้านการออกแบบ เพื่อสร้างมูลค่าเพิ่ม พร้อมเบนเข็มขยายตลาดใหม่   

นายพรสิทธิ์ ศรีอรทัยกุล ประธานอาวุโสสมาคมผู้ค้าอัญมณีและเครื่องประดับในประเทศไทย และประธานกลุ่ม บริษัทบิวตี้ เจมส์ กรุ๊ป จำกัด ผู้ผลิตอัญมณีและเครื่องประดับรายใหญ่ กล่าวว่า แนวโน้มการส่งออกอัญมณีและเครื่องประดับมูลค่ากว่า 5,000 ล้านบาท ในปี 2552 คาดว่าการส่งออกจะมีอัตราการเติบโตต่ำกว่า 30% เนื่องจากได้รับผลกระทบจากราคาวัตถุดิบทองผันผวนหนัก และประการสำคัญผลพวงจากวิกฤติเศรษฐกิจโลก ทำให้ความต้องการซื้อของผู้บริโภคลดลง โดยตลาดส่งออกที่คาดว่าจะได้รับผลกระทบ คือ สหรัฐอเมริกา ญี่ปุ่น และยุโรป ซึ่งขณะนี้ได้เริ่มชะลอการจ่ายเงินให้กับซัปพลายเออร์

สำหรับผู้ประกอบการอัญมณีและเครื่องประดับประเทศ บางส่วนมีการปิดกิจการ เพราะได้รับผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจและราคาทองคำที่ผันผวน  อย่างไรก็ตามในสภาวะที่มีปัจจัยเสี่ยงไม่ควรเก็งกำไรทองคำ แต่ผู้ประกอบการต้องรักษาความสมดุลย์ระหว่างต้นทุนซื้อและราคาขาย ตลอดจนการปรับตัวโดยเน้นผลิตสินค้าในเชิงคุณภาพที่เน้นการออกแบบ เพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มควบคู่กับการลดต้นทุนแทนการผลิตเพื่อจำหน่ายปริมาณมาก ขณะเดียวกันควรเน้นตลาดส่งออกใหม่ๆ อาทิ  ตะวันออกกลาง อินเดีย และอิตาลี เนื่องจากเป็นตลาดที่ไม่ได้รับผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจมากนัก

"ปัจจัยลบที่เกิดขึ้นในขณะนี้ นับว่าเป็นวิกฤตในรอบ  40 ปี สำหรับธุรกิจอัญมณีและเครื่องประดับ เพราะเมื่อเทียบปี 25540 เราประสบกับปัญหาเศรษฐกิจภายในประเทศ แต่ขณะนี้เกิดวิกฤตเศรษฐกิจโลกส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจทุกประเทศ ซึ่งปีหน้ามี 2 ปัจจัยลบ ทั้งจากสถาบันการเงินมีปัญหาทั่วโลก โอกาสที่ลูกค้าจ่ายไม่ตรงตามกำหนดมีสูง ขณะที่ราคาต้นทุนทองคำจะลดลงราว 30% และความต้องการตลาดลดลง 20% มีผลทำให้มูลค่าส่งออกลดลง”

ทั้งนี้ภาวะการส่งออกอัญมณีและเครื่องประดับตั้งเดือนมกราคมถึงเดือนกันยายน มูลค่าการส่งออก 5,000 ล้านบาท มีอัตราการเติบโต 30% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา และคาดว่าสิ้นปีนี้จะมีการขยายตัวมากกว่าเท่าตัว จากปีที่ผ่านมามูลค่าการส่งออก 2,000 ล้านบาท เพราะช่วงสิ้นปีเป็นฤดูกาลซื้อขาย ทั้งนี้ประเทศที่การส่งออกขยายตัวสูงในปีนี้ ได้แก่ ฮ่องกง 2,000 ล้านเหรียญสหรัฐ ออสเตรเลีย 1,070 ล้านเหรียญสหรัฐ อเมริกา 800 ล้านเหรียญสหรัฐ และสวิสเซอร์แลนด์ 600 ล้านเหรียญสหรัฐ   

นายพรสิทธิ์ กล่าวว่า สำหรับแนวทางการตลาด บริษัทเน้นการผลิตสินค้าที่มีคุณภาพ การออกแบบ เพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มและรักษาระดับราคาขาย ขณะเดียวกันเน้นเจาะตลาดนีชมาร์เก็ต  เพื่อส่งผลให้บริษัทมีอัตราการเติบโตของผลกำไรในระดับที่ดีขึ้น อีกทั้งชดเชยกับรายได้ที่อาจลดลงจากแนวโน้มการขายและการส่งออกที่คาดว่าจะเติบโต 0-5%

ล่าสุดสถาบันอัญมณีศาสตร์แห่งสหรัฐอเมริกา (ประเทศไทย) หรือจีไอเอ จัดสัมนาด้านอัญมณี Thr19th Gemstone Gathering ในวันที่ 26 พฤศจิกายน 2551 ภายในงานมีผู้ดำเนินธุรกิจในตลาดอัญมณีร่วมเสวนาถึงแนวทางรับมือกับสถานการณ์ของปัจจัยลบดังกล่าว ทั้งนี้คาดว่าผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมสร้างเครือข่ายเพื่อกระตุ้นตลาดร่วมกันอีกด้วย
กำลังโหลดความคิดเห็น