รมต.ประจำสำนักนายกฯเงา จี้ “บอร์ด อสมท” แจงเหตุบีบ “วสันต์” พ้นเก้าอี้ ผอ.อสมท ต้องตอบให้ชัดเจน เพราะไม่ทำตามคำบงการที่ขัดกับหลักจรรยาบรรณแห่งวิชาชีพ-ปฏิเสธร่วมแก๊งเหลือบทำมาหากินกับสื่อรัฐ คาด มีไอ้โม่งอยู่เบื้องหลัง-โยงใยคนในรัฐบาล ต้องการรุกคืบเข้ากุมอำนาจใน อสมท หวังใช้เอื้อประโยชน์ทางการเมือง ทั้งการทำลายคู่แข่ง และสร้างความนิยมให้ตัวเอง เพราะเป็นแหล่งตักตวงผลประโยชน์ทางธุรกิจ-ทุนทางการเมือง
วันนี้ (19 พ.ย.) นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ ส.ส.กรุงเทพฯ พรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี (เงา) กล่าวถึงการพ้นจากตำแหน่งของ นายวสันต์ ภัยหลีกลี้ ผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท อสมท จำกัด (มหาชน) โดยระบุว่า การที่บอร์ด อสมท ชี้แจงว่า การยุติบทบาทหน้าที่ของ นายวสันต์ เป็นการตกลงร่วมกันระหว่าง นายวสันต์ กับบอร์ด อสมท
“การที่บอร์ด อสมท ระบุสาเหตุว่า นายวสันต์ และ บอร์ด มีวิธีการทำงานที่แตกต่างกัน และไม่ได้เป็นเพราะ นายวสันต์ หย่อนประสิทธิภาพ หรือบกพร่องในการทำงาน รวมถึงไม่เกิดจากการทุจริต ทั้งที่ นายวสันต์ บริหารงานให้ อสมท มีกำไรเป็นที่น่าพอใจ และสามารถบริหารงานข่าวให้ยื่นอยู่กับการเสนอข่าวตรงไปตรงมา ดังนั้น คำกล่าวอ้างของบอร์ด อสมท จึงไม่มีเหตุผลเพียงพอ แต่น่าจะเป็นความพยายามที่ต้องการทำให้ นายวสันต์ พ้นจากตำแหน่งเพื่อนำคนของตัวเองเข้ามาแทนที่”
ซึ่งตั้งแต่รัฐบาลของ นายสมัคร สุนทรเวช อดีตนายกรัฐมนตรี ก็มีความพยายามในลักษณะนี้เกิดขึ้นมาแล้ว โดยมีการอ้างว่า นายวสันต์ บริหารงานจนทำให้ อสมท ขาดทุน แต่ นายวสันต์ ได้พิสูจน์ให้เห็นว่า อสมท มีกำไร และยังมีความพยายามที่อ้างว่านายวสันต์ ไม่ส่งแผนธุรกิจปี 2551 หรืการเปลี่ยนตัววัดผลการบริหารเพิ่มขึ้น ซึ่งล้วนเป็นข้ออ้างที่จะเลิกจ้างนายวสันต์
นายองอาจ กล่าวอีกว่า ความพยายามที่ทำให้ นายวสันต์ ออกจากตำแหน่งน่าจะเป็นแรงกดดันจากรัฐบาล หรือผู้อยู่เบื้องหลังรัฐบาลที่ต้องการเข้ามากุมอำนาจ ใน อสมท เพื่อใช้ อสมท เอื้อประโยชน์ทางการเมืองในการทำลายคู่แข่ง และสร้างความนิยมให้ตัวเอง รวมถึงตั้งตวงผลประโยชน์ทางธุรกิจ เพื่อเป็นทุนทางการเมืองใช่หรือไม่
“การบีบ นายวสันต์ ให้ออกจากตำแหน่งไม่น่าจะเป็นเพราะสไตล์การทำงานต่างกัน แต่น่าจะเป็นเพราะนายวสันต์ ไม่ยอมทำตามคำบงการที่ขัดกับหลักจรรยาบรรณแห่งวิชาชีพ และไม่ยอมร่วมก๊วนขบวนการหากินกับสื่อของรัฐบมากกว่า”
ดังนั้น ขอให้บอร์ด อสมท ทบทวนการบีบให้ นายวสันต์ ยุติบทบาทกับตำหแน่งกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ และชี้แจงให้ชัดเจนว่า วิธีการทำงานที่ไม่สอดคล้องกับบอร์ด หรือทำงานงานคนละสไตล์ที่บอร์ด อสมท นำมาอ้างให้ นายวสันต์ ออกคืออะไร ทำให้ อสมท เสียหายอย่างไร หรือถ้า นายวสันต์ บริหารงานต่อจะก่อให้เกิดผลเสียกับองค์กรอย่างไร
นอกจากนี้ ฝ่ายการเมืองต้องหยุดให้อำนาจครอบงำแทรกแซงและแสวงหาผลประโยชน์โดยมิชอบจากสื่ออย่างเด็ดขาด” นายองอาจ กล่าวสรุปทิ้งท้าย
