“จีเอ็มกรุ๊ป” เปิดแกรุกตลาดนิตยสารหนักปีหน้า สวนกระแสเศรษฐกิจซบ ขยายทุกแนวทั้ง นิตยสารผู้ชาย-แจกฟรี-พ็อกเก๊ตบุ๊ค-อีเว้นท์”
นายปกรณ์ พงศ์วราภา ประธาน บริษัท จีเอ็ม มัลติมีเดีย จำกัด (มหาชน) ผู้ดำเนินธุรกิจนิตยสารรายใหญ่ของไทย เปิดเผยว่า ในปีหน้า (2552) จะเป็นปีที่ทางกลุ่มจีเอ็มจะมีการลงทุนและรุกตลาดสิ่งพิมพ์มากที่สุดปีหนึ่งของบริษัทฯ ซึ่งจะสวนกระแสกับหลายค่ายที่มองว่าเป็นวิกฤติเพราะสถานการณ์ทางเศรษฐกิจไม่ดี
“ในสายตาผม ผมมองว่า วิกฤติจะสร้างโอกาสได้ ถ้าเรามองหาทางออกให้เจอ ซึ่งปีหน้าจีเอ็มไม่ถดถอยหรือชะลอแน่นอน เศรษฐกิจมีปัญหา แต่จีเอ็มจะเติบโตแบบสวนกระแส เราจะบุกทั้งธุรกิจในไลน์ใหม่เช่นพ๊อกเก็ตบุ๊ค ที่สิ้นปีนี้จะออก 2 เล่ม ตลาดฟรีแมกกาซีนก็เป็นอีกตลาดที่มีโอกาส และนิตยสารผู้ชายเพิ่มขึ้น รวมทั้งธุรกิจอีเว้นท์ด้วยโดยใช้นิตยสารมาเธอร์แอนด์แคร์เป็นตัวนำ”
ทางสมาคมนิตยสารแห่งประทศไทย เคยประเมินว่า มูลค่าตลาดรวมนิตยสารในไทยมีประมาณ 10,000 ล้านบาท โดยเป็นตลาดของผู้หญิงมากที่สุด เกิน 50% เป็นกลุ่มผู้ชายประมาณ 25% ซึ่งสะท้อนได้ว่าตลาดนิตยสารของกลุ่มผู้ชายมีโอกาสเติบโตได้อีกมาก ขณะที่ตลาดนิตยสารกลุ่มผู้หญิงนั้นแทบจะเรียกได้ว่าเต็มตลาดแล้ว ทำให้เรามีแผนจะขยายตลาดนิตยสารกลุ่มผู้ชายมากขึ้นอีก
ส่วนนิตยสารมาเธอร์แอนด์แคร์ จะต่อยอดธุรกิจใหม่สู่การทำอีเว้นท์อย่างเต็มตัว เนื่องจากมองว่าการจัดอีเวนท์เกี่ยวกับสินค้าแม่และเด็กนั้นมีแนวโน้มการเติบโตดี ซึ่งเดิมมีแต่ยังไม่ได้มุ่งเนนมากนัก ขณะนี้มีทีมงานพร้อมเต็มที่
ทั้งนี้มาเธอร์แอนด์แคร์เพิ่งจะทำตลาดมาเพียง 4 ปีแต่เป็นหัวที่มีแนวโน้มดีอย่างมาก งซึ่เทียบกับการเติบโตย้อนหลังพบว่า ปี 2548 มาเธอร์แอนด์แคร์มีสัดส่วนรายได้ 5% จากรายได้รวม และเมื่อปี 2549 สัดส่วนขยับมาอยู่ที่ 14% และปี 2550 เพิ่มเป็น 20% และช่วง 9 เดือนแรกปีนี้ สัดส่วนรายได้อยู่ที่ 20% ทั้งนี้ปีที่แล้ว นิตยสารมาเธอร์แอนด์แคร์มีรายได้ประมาณ 50 ล้านบาท โดยเบ่งเป็น จากอีเว้นท์ 20 ล้านบาท หรือเกือบ 40% และจากโฆษณาและยอดขาย 30 ล้านบาท หรือ 60%
ขณะเดียวกันจะรุกตลาดนิตยสารแจกฟรีเพิ่มอีกด้วยจากเดิมที่มีอยู่แล้ว 2 หัวคือ วูแมนพลัสและ 247 ซึ่งมีการเติบโตที่ดี ยอดลงโฆษณาเต็ม
สำหรับรายได้ของจีเอ็มกรุ๊ปนั้น ในปี 2551 คาดว่าจะมีรายได้รวมประมาณ 250 ล้านบาท ทรงตัว โดยมีนิตยสาร 3 หัวเติบโตดีคือ จีเอ็ม สัดส่วนรายได้ 45% โฮมแอนด์เดคคอร์ สัดส่วนรายได้ 25% และมาเธอร์แอนด์แคร์ โดยมีนิตยสารรวมทั้งหมด 8 หัว เป็นของไทยหมดไม่มีการซื้อลิขสิทธิ์จากต่างประเทศ
“ตอนนี้เราไม่มีหนังสือที่ขาดทุนแล้ว มีแต่เลี้ยงตัวเองได้กับมีกำไรน้อยเท่านั้น เพระเราทำหนังสือตรงกับความต้องการของผู้อ่าน และเรามีทีมงานที่แข็งแกร่ง” นายปกรณ์กล่าว
นายปกรณ์ พงศ์วราภา ประธาน บริษัท จีเอ็ม มัลติมีเดีย จำกัด (มหาชน) ผู้ดำเนินธุรกิจนิตยสารรายใหญ่ของไทย เปิดเผยว่า ในปีหน้า (2552) จะเป็นปีที่ทางกลุ่มจีเอ็มจะมีการลงทุนและรุกตลาดสิ่งพิมพ์มากที่สุดปีหนึ่งของบริษัทฯ ซึ่งจะสวนกระแสกับหลายค่ายที่มองว่าเป็นวิกฤติเพราะสถานการณ์ทางเศรษฐกิจไม่ดี
“ในสายตาผม ผมมองว่า วิกฤติจะสร้างโอกาสได้ ถ้าเรามองหาทางออกให้เจอ ซึ่งปีหน้าจีเอ็มไม่ถดถอยหรือชะลอแน่นอน เศรษฐกิจมีปัญหา แต่จีเอ็มจะเติบโตแบบสวนกระแส เราจะบุกทั้งธุรกิจในไลน์ใหม่เช่นพ๊อกเก็ตบุ๊ค ที่สิ้นปีนี้จะออก 2 เล่ม ตลาดฟรีแมกกาซีนก็เป็นอีกตลาดที่มีโอกาส และนิตยสารผู้ชายเพิ่มขึ้น รวมทั้งธุรกิจอีเว้นท์ด้วยโดยใช้นิตยสารมาเธอร์แอนด์แคร์เป็นตัวนำ”
ทางสมาคมนิตยสารแห่งประทศไทย เคยประเมินว่า มูลค่าตลาดรวมนิตยสารในไทยมีประมาณ 10,000 ล้านบาท โดยเป็นตลาดของผู้หญิงมากที่สุด เกิน 50% เป็นกลุ่มผู้ชายประมาณ 25% ซึ่งสะท้อนได้ว่าตลาดนิตยสารของกลุ่มผู้ชายมีโอกาสเติบโตได้อีกมาก ขณะที่ตลาดนิตยสารกลุ่มผู้หญิงนั้นแทบจะเรียกได้ว่าเต็มตลาดแล้ว ทำให้เรามีแผนจะขยายตลาดนิตยสารกลุ่มผู้ชายมากขึ้นอีก
ส่วนนิตยสารมาเธอร์แอนด์แคร์ จะต่อยอดธุรกิจใหม่สู่การทำอีเว้นท์อย่างเต็มตัว เนื่องจากมองว่าการจัดอีเวนท์เกี่ยวกับสินค้าแม่และเด็กนั้นมีแนวโน้มการเติบโตดี ซึ่งเดิมมีแต่ยังไม่ได้มุ่งเนนมากนัก ขณะนี้มีทีมงานพร้อมเต็มที่
ทั้งนี้มาเธอร์แอนด์แคร์เพิ่งจะทำตลาดมาเพียง 4 ปีแต่เป็นหัวที่มีแนวโน้มดีอย่างมาก งซึ่เทียบกับการเติบโตย้อนหลังพบว่า ปี 2548 มาเธอร์แอนด์แคร์มีสัดส่วนรายได้ 5% จากรายได้รวม และเมื่อปี 2549 สัดส่วนขยับมาอยู่ที่ 14% และปี 2550 เพิ่มเป็น 20% และช่วง 9 เดือนแรกปีนี้ สัดส่วนรายได้อยู่ที่ 20% ทั้งนี้ปีที่แล้ว นิตยสารมาเธอร์แอนด์แคร์มีรายได้ประมาณ 50 ล้านบาท โดยเบ่งเป็น จากอีเว้นท์ 20 ล้านบาท หรือเกือบ 40% และจากโฆษณาและยอดขาย 30 ล้านบาท หรือ 60%
ขณะเดียวกันจะรุกตลาดนิตยสารแจกฟรีเพิ่มอีกด้วยจากเดิมที่มีอยู่แล้ว 2 หัวคือ วูแมนพลัสและ 247 ซึ่งมีการเติบโตที่ดี ยอดลงโฆษณาเต็ม
สำหรับรายได้ของจีเอ็มกรุ๊ปนั้น ในปี 2551 คาดว่าจะมีรายได้รวมประมาณ 250 ล้านบาท ทรงตัว โดยมีนิตยสาร 3 หัวเติบโตดีคือ จีเอ็ม สัดส่วนรายได้ 45% โฮมแอนด์เดคคอร์ สัดส่วนรายได้ 25% และมาเธอร์แอนด์แคร์ โดยมีนิตยสารรวมทั้งหมด 8 หัว เป็นของไทยหมดไม่มีการซื้อลิขสิทธิ์จากต่างประเทศ
“ตอนนี้เราไม่มีหนังสือที่ขาดทุนแล้ว มีแต่เลี้ยงตัวเองได้กับมีกำไรน้อยเท่านั้น เพระเราทำหนังสือตรงกับความต้องการของผู้อ่าน และเรามีทีมงานที่แข็งแกร่ง” นายปกรณ์กล่าว