พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ทำธุรกิจอีเวนต์สะเทือน ลูกค้าถอยทัพแผนจัดงาน คาดส่งผลกระทบถึงต้นปีหน้า “ซีเอ็ม” ซับเหงื่อ โอดลูกค้า 50% ของไตรมาส 4 ถอดใจงดจัดงาน ส่งผลรายได้โค้งสุดท้ายของปีชวดแน่ 15-20% ฮึดสู้หาลูกค้าเพิ่มช่วงนาทีทอง 1-2 อาทิตย์นี้ทดแทน ฟาก “รอยัล พารากอน ฮอลล์” ยิ้มลูกค้ามั่นใจจัดงานต่อ 100% ชี้ จุดแข็งเป็นห้างใจกลางเมือง เดินทางสะดวก
นายเสริมคุณ คุณาวงศ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ซีเอ็ม ออแกไนเซอร์ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า จากการที่รัฐบาลของ นายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ประกาศใช้พระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน (พ.ร.ก.ฉุกเฉิน) ในเขตกรุงเทพมหานคร เมื่อคืนวันจันทร์ที่ 1 กันยายนที่ผ่านมา พบว่า ได้ส่งผลกระทบกับธุรกิจอีเว้นท์ในภาพรวมค่อนข้างมาก โดยในระยะสั้นนั้น ลูกค้าขอเลื่อนการจัดงานอีเวนต์ในช่วงนี้ออกไปก่อน โดยขอรอดูสถานการณ์ที่เกิดขึ้นอีกครั้ง เนื่องจากไม่แน่ใจในสถานการณ์ที่เกิดขึ้น อีกทั้งไม่คาดคิดว่าเหตุการณ์จะบานปลายออกมาเป็นเช่นนี้
สำหรับผลกระทบในระยะยาว มองว่า หากยังมีการประกาศใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ออกไปอีกจนถึงสิ้นเดือนนี้ เชื่อว่า ธุรกิจอีเวนต์จะได้รับผลกระทบไปจนถึงสิ้นปี และอาจจะถึงต้นปีหน้า ซึ่งขึ้นอยู่กับการนำ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน มาใช้ว่าจะมีระยะเวลานานเท่าไร อย่างไรก็ตาม นอกจากผลกระทบของการใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉินแล้ว ในช่วงไตรมาส 4 จะเป็นช่วงที่จะมีการจัดงานไว้อาลัยแด่สมเด็จพระพี่นางฯด้วย คาดว่า จะส่งผลให้อีเว้นท์ในช่วงนั้นลดน้อยลงไปอีก
นายเสริมคุณ กล่าวต่อว่า ในส่วนของซีเอ็มเอง ภาพรวมธุรกิจอีเวนต์ก็เป็นไปในทิศทางเดียวกับภาพรวม และเชื่อว่าธุรกิจอีเวนต์ทุกบริษัทต่างก็ได้รับผลกระทบเช่นเดียวกันหมด ทั้งนี้สำหรับซีเอ็มยังโชคดีที่งานอีเวนต์ส่วนใหญ่ที่รับมา ได้จัดเสร็จสิ้นไปก่อนหน้านี้แล้ว แต่ลูกค้าบางรายก็ไม่สามารถเลื่อนงานออกไปได้ เพราะถือเป็นการจัดแคมเปญใหญ่ ที่อิงกับแผนโฆษณาที่จะออนแอร์ร่วมด้วยในเวลาใกล้เคียงกัน จึงไม่สามารถเลื่อนงานออกไปได้ โดยเฉพาะกลุ่มยานยนต์ ถ้าไม่จัดในช่วงนี้ก็อาจจะมียอดขายไม่ตามเป้า เนื่องจากไตรมาส 4 ถือเป็นฤดูการขาย บวกกับจะมีงานมอเตอร์เอ็กซ์โปอีกส่วนหนึ่งด้วย
ดังนั้น ลูกค้ากลุ่มยานยนต์ของซีเอ็ม ที่มีแผนที่จะจัดอีเวนต์ใหญ่ในช่วงอาทิตย์หน้าที่จะมาถึง จึงยังคงดำเนินงานไปตามแผนที่วางไว้ ไม่มีการเลื่อนงานออกไป แต่ในส่วนของงานที่อยู่ในแผนไตรมาส 4 ยอมรับว่า ลูกค้ากว่า 50% ซึ่งส่วนใหญ่เป็นลูกค้าเอกชน กลุ่มคอนซูเมอร์โปรดักซ์ ได้ติดต่อเข้ามาเพื่อขอชะลอแผนการจัดงานออกไป ทั้งแบบเลื่อนออกไปอย่างไม่มีกำหนด และแบบขอปรับแผนการตลาดไปก่อน ขณะที่ลูกค้าทางภาครัฐยังไม่มีการขอเลื่อนงานแต่อย่างไร เพราะส่วนใหญ่จะเป็นอีเวนต์เชิงนโยบายหรือบริการมากกว่า
จากจำนวนลูกค้าที่ขอเลื่อนงานในไตรมาส 4 นี้ อาจจะทำให้รายได้ของธุรกิจอีเวนต์ในช่วง 3 เดือนสุดท้าย หายไปประมาณ 15-20% ซึ่งบริษัทกำลังพยายามหาทางแก้ไขอย่างเร่งด่วน โดยขณะนี้ได้เข้าไปเจรจาหาลูกค้าที่ยังคงมั่นใจที่จะจัดงานในระยะอันใกล้นี้ต่อไปทดแทน ซึ่งในระยะ 1-2 อาทิตย์นี้ เชื่อว่า ลูกค้าที่ยังมั่นใจในสถานการณ์ว่ายังไม่เลวร้ายและยังมีแผนจัดงานอีเว้นท์อยู่ยังมีอยู่มาก แต่หลังจากนั้นเชื่อว่าลูกค้าจะเริ่มชะลอการจัดงานอย่างแน่นอน หาก พรก.ฉุกเฉินยังมีผลบังคับใช้อยู่
อย่างไรก็ตาม พบว่า กลุ่มธุรกิจ MICE ของบริษัทได้รับผลกระทบอย่างหนักจากการที่ พ.ร.ก.ฉุกเฉินถูกนำมาใช้ ซึ่งในขณะนี้ลูกค้าในกลุ่มดังกล่าวของบริษัทมีจำนวนลดลง และมีการเลื่อนการจัดงาน MICE ในเมืองไทยออกไปค่อนข้างมาก อีกทั้งลูกค้าที่ประสงค์จะเข้ามาจัดงาน MICE ในปีหน้า ก็เริ่มที่จะลังเลแต่ตัดสินใจไปยังประเทศอื่นๆ ในภูมิภาคเดียวกันแทน
พารากอนยันลูกค้ายังอยู่
นายอรุณ เทง ผู้จัดการทั่วไป รอยัล พารากอน ฮอลล์ กล่าวว่า ในฐานะผู้ให้เช่าพื้นที่จัดงานอีเวนต์และงานต่างๆ ภายใน รอยัล พารากอน ฮอลล์ ของทางสยามพารากอน ขณะนี้ยังไม่พบว่า มีลูกค้าติดต่อเข้ามาขอเลื่อนการจัดงานออกไปแต่อย่างไร ซึ่งทางบริษัทเองก็มองว่า พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ไม่มีผลกระทบกับลูกค้าที่เข้ามาใช้บริการของทาง รอยัล พารากอน ฮอลล์ด้วย เพราะลูกค้าส่วนใหญ่จะเป็นกลุ่มที่มาจัดงานในลักษณะของ กึ่งคอนซูเมอร์กึ่งเทรด หรือเป็นรูปแบบการจัดงานคอร์ปอเรต คอมพานี และงานประจำปีต่างๆ ส่วนงานประชุม สัมมนา ในช่วงไตรมาส 4 มีค่อนข้างน้อย
อีกทั้งมองว่าการที่รอยัล พารากอน ฮอลล์ อยู่ในทำเลที่เป็นศูนย์กลางการชอปปิ้ง และอยู่ใจกลางเมือง มีรถไฟฟ้าผ่าน ถือเป็นจุดแข็งที่ลูกค้ายังมั่นใจในการจัดงานอยู่ โดยในช่วงไตรมาส 4 นี้ ถือว่าจำนวนลูกค้าที่เข้ามาใช้บริการในฮอลล์ คิดเป็น 100% เต็ม ขาดเหลือเพียงไม่กี่วัน ในช่วงปลายสัปดาห์ของเดือนธันวาคม ในช่วงเทศกาลคริสต์มาส ปีใหม่ ที่ส่วนใหญ่จะมีงานฉลอง ไม่ค่อยมีใครมาจัดงานในช่วงนี้
ดังนั้น ภาพรวมรายได้ของ รอยัล พารากอน ฮอลล์ ในปีนี้ ยังมองว่าเป็นไปตามเป้าที่วางไว้ หรือปีนี้มีอัตราการเติบโตจากปีก่อนที่ เติบโต 30% เมื่อเทียบกับปีก่อนที่ทำได้ 180 ล้านบาท ตามที่เคยกล่าวไว้
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า งานอีเวนต์ในช่วงนี้ในภาพรวมมีการของดจัดงานและเลื่อนไปจำนวนมาก เช่น กรณีงานที่จะจัดในวันที่ 4 นี้เช่น บริษัท โรสฯ เลื่อนการจัดงานเปิดตัวช่องทีวีดาวเทียม บริษัท ซีพีเอ็น เลื่อนการเปิดตัวแผนการลงทุนใหม่ บริษัท อาร์เอส เลื่อนการเปิดงานแถลงข่าวพาร์ทเนอร์กิจกรรมฟุตซอล บริษัท พานาโซนิค เลื่อนการจัดงานกิจกรรม เป็นต้น
นายเสริมคุณ คุณาวงศ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ซีเอ็ม ออแกไนเซอร์ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า จากการที่รัฐบาลของ นายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ประกาศใช้พระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน (พ.ร.ก.ฉุกเฉิน) ในเขตกรุงเทพมหานคร เมื่อคืนวันจันทร์ที่ 1 กันยายนที่ผ่านมา พบว่า ได้ส่งผลกระทบกับธุรกิจอีเว้นท์ในภาพรวมค่อนข้างมาก โดยในระยะสั้นนั้น ลูกค้าขอเลื่อนการจัดงานอีเวนต์ในช่วงนี้ออกไปก่อน โดยขอรอดูสถานการณ์ที่เกิดขึ้นอีกครั้ง เนื่องจากไม่แน่ใจในสถานการณ์ที่เกิดขึ้น อีกทั้งไม่คาดคิดว่าเหตุการณ์จะบานปลายออกมาเป็นเช่นนี้
สำหรับผลกระทบในระยะยาว มองว่า หากยังมีการประกาศใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ออกไปอีกจนถึงสิ้นเดือนนี้ เชื่อว่า ธุรกิจอีเวนต์จะได้รับผลกระทบไปจนถึงสิ้นปี และอาจจะถึงต้นปีหน้า ซึ่งขึ้นอยู่กับการนำ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน มาใช้ว่าจะมีระยะเวลานานเท่าไร อย่างไรก็ตาม นอกจากผลกระทบของการใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉินแล้ว ในช่วงไตรมาส 4 จะเป็นช่วงที่จะมีการจัดงานไว้อาลัยแด่สมเด็จพระพี่นางฯด้วย คาดว่า จะส่งผลให้อีเว้นท์ในช่วงนั้นลดน้อยลงไปอีก
นายเสริมคุณ กล่าวต่อว่า ในส่วนของซีเอ็มเอง ภาพรวมธุรกิจอีเวนต์ก็เป็นไปในทิศทางเดียวกับภาพรวม และเชื่อว่าธุรกิจอีเวนต์ทุกบริษัทต่างก็ได้รับผลกระทบเช่นเดียวกันหมด ทั้งนี้สำหรับซีเอ็มยังโชคดีที่งานอีเวนต์ส่วนใหญ่ที่รับมา ได้จัดเสร็จสิ้นไปก่อนหน้านี้แล้ว แต่ลูกค้าบางรายก็ไม่สามารถเลื่อนงานออกไปได้ เพราะถือเป็นการจัดแคมเปญใหญ่ ที่อิงกับแผนโฆษณาที่จะออนแอร์ร่วมด้วยในเวลาใกล้เคียงกัน จึงไม่สามารถเลื่อนงานออกไปได้ โดยเฉพาะกลุ่มยานยนต์ ถ้าไม่จัดในช่วงนี้ก็อาจจะมียอดขายไม่ตามเป้า เนื่องจากไตรมาส 4 ถือเป็นฤดูการขาย บวกกับจะมีงานมอเตอร์เอ็กซ์โปอีกส่วนหนึ่งด้วย
ดังนั้น ลูกค้ากลุ่มยานยนต์ของซีเอ็ม ที่มีแผนที่จะจัดอีเวนต์ใหญ่ในช่วงอาทิตย์หน้าที่จะมาถึง จึงยังคงดำเนินงานไปตามแผนที่วางไว้ ไม่มีการเลื่อนงานออกไป แต่ในส่วนของงานที่อยู่ในแผนไตรมาส 4 ยอมรับว่า ลูกค้ากว่า 50% ซึ่งส่วนใหญ่เป็นลูกค้าเอกชน กลุ่มคอนซูเมอร์โปรดักซ์ ได้ติดต่อเข้ามาเพื่อขอชะลอแผนการจัดงานออกไป ทั้งแบบเลื่อนออกไปอย่างไม่มีกำหนด และแบบขอปรับแผนการตลาดไปก่อน ขณะที่ลูกค้าทางภาครัฐยังไม่มีการขอเลื่อนงานแต่อย่างไร เพราะส่วนใหญ่จะเป็นอีเวนต์เชิงนโยบายหรือบริการมากกว่า
จากจำนวนลูกค้าที่ขอเลื่อนงานในไตรมาส 4 นี้ อาจจะทำให้รายได้ของธุรกิจอีเวนต์ในช่วง 3 เดือนสุดท้าย หายไปประมาณ 15-20% ซึ่งบริษัทกำลังพยายามหาทางแก้ไขอย่างเร่งด่วน โดยขณะนี้ได้เข้าไปเจรจาหาลูกค้าที่ยังคงมั่นใจที่จะจัดงานในระยะอันใกล้นี้ต่อไปทดแทน ซึ่งในระยะ 1-2 อาทิตย์นี้ เชื่อว่า ลูกค้าที่ยังมั่นใจในสถานการณ์ว่ายังไม่เลวร้ายและยังมีแผนจัดงานอีเว้นท์อยู่ยังมีอยู่มาก แต่หลังจากนั้นเชื่อว่าลูกค้าจะเริ่มชะลอการจัดงานอย่างแน่นอน หาก พรก.ฉุกเฉินยังมีผลบังคับใช้อยู่
อย่างไรก็ตาม พบว่า กลุ่มธุรกิจ MICE ของบริษัทได้รับผลกระทบอย่างหนักจากการที่ พ.ร.ก.ฉุกเฉินถูกนำมาใช้ ซึ่งในขณะนี้ลูกค้าในกลุ่มดังกล่าวของบริษัทมีจำนวนลดลง และมีการเลื่อนการจัดงาน MICE ในเมืองไทยออกไปค่อนข้างมาก อีกทั้งลูกค้าที่ประสงค์จะเข้ามาจัดงาน MICE ในปีหน้า ก็เริ่มที่จะลังเลแต่ตัดสินใจไปยังประเทศอื่นๆ ในภูมิภาคเดียวกันแทน
พารากอนยันลูกค้ายังอยู่
นายอรุณ เทง ผู้จัดการทั่วไป รอยัล พารากอน ฮอลล์ กล่าวว่า ในฐานะผู้ให้เช่าพื้นที่จัดงานอีเวนต์และงานต่างๆ ภายใน รอยัล พารากอน ฮอลล์ ของทางสยามพารากอน ขณะนี้ยังไม่พบว่า มีลูกค้าติดต่อเข้ามาขอเลื่อนการจัดงานออกไปแต่อย่างไร ซึ่งทางบริษัทเองก็มองว่า พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ไม่มีผลกระทบกับลูกค้าที่เข้ามาใช้บริการของทาง รอยัล พารากอน ฮอลล์ด้วย เพราะลูกค้าส่วนใหญ่จะเป็นกลุ่มที่มาจัดงานในลักษณะของ กึ่งคอนซูเมอร์กึ่งเทรด หรือเป็นรูปแบบการจัดงานคอร์ปอเรต คอมพานี และงานประจำปีต่างๆ ส่วนงานประชุม สัมมนา ในช่วงไตรมาส 4 มีค่อนข้างน้อย
อีกทั้งมองว่าการที่รอยัล พารากอน ฮอลล์ อยู่ในทำเลที่เป็นศูนย์กลางการชอปปิ้ง และอยู่ใจกลางเมือง มีรถไฟฟ้าผ่าน ถือเป็นจุดแข็งที่ลูกค้ายังมั่นใจในการจัดงานอยู่ โดยในช่วงไตรมาส 4 นี้ ถือว่าจำนวนลูกค้าที่เข้ามาใช้บริการในฮอลล์ คิดเป็น 100% เต็ม ขาดเหลือเพียงไม่กี่วัน ในช่วงปลายสัปดาห์ของเดือนธันวาคม ในช่วงเทศกาลคริสต์มาส ปีใหม่ ที่ส่วนใหญ่จะมีงานฉลอง ไม่ค่อยมีใครมาจัดงานในช่วงนี้
ดังนั้น ภาพรวมรายได้ของ รอยัล พารากอน ฮอลล์ ในปีนี้ ยังมองว่าเป็นไปตามเป้าที่วางไว้ หรือปีนี้มีอัตราการเติบโตจากปีก่อนที่ เติบโต 30% เมื่อเทียบกับปีก่อนที่ทำได้ 180 ล้านบาท ตามที่เคยกล่าวไว้
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า งานอีเวนต์ในช่วงนี้ในภาพรวมมีการของดจัดงานและเลื่อนไปจำนวนมาก เช่น กรณีงานที่จะจัดในวันที่ 4 นี้เช่น บริษัท โรสฯ เลื่อนการจัดงานเปิดตัวช่องทีวีดาวเทียม บริษัท ซีพีเอ็น เลื่อนการเปิดตัวแผนการลงทุนใหม่ บริษัท อาร์เอส เลื่อนการเปิดงานแถลงข่าวพาร์ทเนอร์กิจกรรมฟุตซอล บริษัท พานาโซนิค เลื่อนการจัดงานกิจกรรม เป็นต้น
