ศูนย์ประชุมฯเชียงใหม่เนื้อหอม บริษัทรับเหมาแห่ซื้อซองประกวดราคาเฉียด 20 ราย พบรายชื่อยักษ์รับเหมาของบิ๊กนักการเมืองร่วมวงประมูล “วีระศักดิ์” แย้มไต๋ ต้องเพิ่มงบก่อสร้าง จากวงเงินเดิม 2,200 ล้านบาท อ้างเป็นไปตามกลไกราคาค่าวัสดุ มั่นใจต้นปีหน้าได้ฤกษ์ตอกเสาเข็ม
นายวีระศักดิ์ โควสุรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เปิดเผยว่า ขณะนี้มีบริษัทผู้รับเหมาก่อสร้างสนใจซื้อซองประกวดราคาเพื่อก่อสร้างโครงการศูนย์ประชุมและแสดงสินค้านานาชาติ จ.เชียงใหม่ รวม 18 รายแล้ว เกินความคาดหมาย โดยบริษัทที่ซื้อซองประกวดราคาแล้ว ได้แก่ บริษัทชิโนทัย , ช.การช่าง , เนาวรัตน์พัฒนาการ ,รวมนครก่อสร้าง , เบญจมาส ,ซินเทค และ แอสคอน เป็นต้น ซึ่งกระทรวงฯจะปิดการขายซองในวันที่ 31 ต.ค.นี้ ซึ่งกระทรวงได้ขายซองประกวดราคาครั้งนี้ให้แก่ผู้สนใจในราคาซองละ 70,000 บาท
รายงานข่าวระบุว่า บริษัทที่ซื้อซองประกวดราคา หลายราย ที่เป็นบริษัทของนักการเมืองใหญ่ เช่น ชิโนทัย ช.การช่าง เป็นต้น
โครงการก่อสร้างศูนย์ประชุมและแสดงสินค้านานาชาติ จ.เชียงใหม่ จะใช้ระบบ อี-อ๊อกชั่น เพื่อให้เกิดความยุติธรรมสูงสุด โดยจะเริ่มตรวจสอบคุณสมบัติของผู้เข้าร่วมประกวดราคาพร้อมกับการร่าง TOR กำหนดคุณสมบัติของผู้สมัครคัดเลือก ได้แก่ ในระยะเวลา 5 ปีที่ผ่านมา ต้องเป็นองค์กรที่เคยรับงานโครงการมูลค่าไม่ต่ำกว่า 850 ล้านบาทมาแล้ว หรือ หากเป็นบริษัทพันธมิตรร่วมทุน ก็ต้องตรวจสอบคุณสมบัติของพันธมิตรที่มาร่วมรับงานด้วย เพื่อป้องกันการละทิ้งงาน เป็นต้น คาดว่าจะสามารถทำอี-อ๊อกชั่นได้ในปลายเดือน พ.ย.ศกนี้ พร้อมลงมือก่อสร้างโครงการในเดือน ม.ค.52 ใช้เวลาก่อสร้าง 2 ปี เปิดให้บริการปี 2554 หลังจากได้ผู้ชนะการประมูลด้วยวิธี อี-อ๊อกชั่นแล้ว กระทรวงฯ จะเป็นผู้ร่างสัญญาว่าจ้าง”
ความล่าช้าที่ผ่านมาของโครงการศูนย์ฯ ทำให้ต้องทบทวนเรื่องงบประมาณค่าก่อสร้าง จากเดิมที่มติคณะรัฐมนตรี(ค.ร.ม.) ล่าสุดเมื่อเดือน พ.ค.51 ตั้งงบประมาณค่าก่อสร้างไว้ที่ 2,200 ล้านบาท (ไม่รวมค่าตกแต่งภายใน) ปรับขึ้นจากปี 2547 ที่ตั้งงบไว้ที่ 1,898 ล้านบาท หากถึงวันที่เปิดประมูลจริงก็ต้องให้โอกาสบริษัทผู้รับเหมาเสนอราคาตามต้นทุนที่แท้จริง ซึ่งจะขึ้นกับต้นทุนค้าวัสดุก่อสร้าง ดังนั้นมีความเป็นไปได้ที่จะปรับราคาค่าก่อสร้างอีกครั้ง โดยหลังได้บริษัทที่ชนะการประมูลแล้ว กระทรวงฯจะทำเรื่องเสนอ ค.ร.ม. เพื่อของบประมาณเพิ่ม และเมื่อเริ่มก่อสร้างก็จะสรรหาบริษัทที่จะเข้ามารับงานด้านการบริหารศูนย์ประชุมฯไปพร้อมกัน
**เล็งคืนงานเก็บสถิติให้ททท.
นายวีระศักดิ์ กล่าวอีกว่า ในเรื่องการเก็บสถิตินักท่องเที่ยว ซึ่งขณะนี้ได้โอนย้ายมาเป็นหน้าที่ของ สำนักงานพัฒนาการท่องเที่ยว(สพท.) ตาม พ.ร.บ. การท่องเที่ยวแห่งชาติฉบับใหม่ ล่าสุดมีความเป็นไปได้ที่จะโอนหน้าที่นี้กลับไปให้ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย(ททท.) เป็นผู้รับผิดชอบตามเดิม โดยโครงการนี้จะบรรจุอยู่ในการปรับโครงสร้างกระทรวงการท่องเที่ยวฯที่กำลังดำเนินการอยู่ โดยประเด็นเรื่องการเก็บสถิตินักท่องเที่ยว จะอยู่ประกาศเป็นกฎกระทรวง ซึ่งขณะนี้กำลังดำเนินการแก้ไข เพราะสพท. ไม่ถนัดเรื่องงานเก็บสถิตินักท่องเที่ยว และงบประมาณ สพท.ก็มีจำกัด