บอร์ดร.ฟ.ท.ตีกลับต่อสัญญาจ้างที่ปรึกษาคุมงานก่อสร้างแอร์พอร์ตลิงก์ ติงวงเงินสูงเกินไป สั่งทำรายละเอียดและคำนวนค่าจ้างใหม่ ร.ฟ.ท.ประสานกรมบัญชีกลางขอความชัดเจนเหตุมติครม.ขยายสัญญาก่อสร้างช่วยเหลือน้ำท่วมไม่ระบุถึงสัญญาที่ปรึกษา ตั้งคณะทำงานเร่งเบิกจ่ายและติกตามการใช้จ่ายงบประมาณ 52
นายสุพจน์ ทรัพย์ล้อม อธิบดีกรมทางหลวง รักษาการประธานคณะกรรมการ (บอร์ด) การรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) เปิดเผยภายหลังการประชุมวานนี้ (30 ต.ค.) ว่า ที่ประชุมฯ ให้ร.ฟ.ท.กลับไปศึกษารายละเอียดการต่อสัญญาจ้างและวงเงินค่าจ้าง ที่ปรึกษาโครงการระบบขนส่งรถไฟฟ้าเชื่อมท่าอากาศยานสุวรรณภูมิและสถานีรับส่งผู้โดยสารในเมือง หรือแอร์พอร์ตลิงก์ โดยเห็นว่า วงเงินค่าจ้างที่เสนอมานั้นสูงเกินไปเมื่อเทียบกับเนื้องานที่เหลือ ทั้งนี้การขยายเวลาจ้างที่ปรึกษาเนื่องจากร.ฟ.ท.มีการขยายเวลาการก่อสร้างให้บริษัท ซิโน-ไทยเอ็นจิเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น จำกัด (มหาชน) ซึ่งเป็นผู้รับเหมาก่อสร้าง อีก 550 วัน จากสาเหตุที่ร.ฟ.ท.ส่งมอบพื้นที่ก่อสร้างล่าช้าและการขยายเวลาตามมติคณะรัฐมนตรีในการช่วยเหลือจากภาวะน้ำท่วม
“ร.ฟ.ท.เสนอค่าจ้างที่ปรึกษามา 150 ล้านบาทและมีการต่อรองลดลงเหลือ 114 ล้านบาทแล้วแต่บอร์ดก็ยังเห็นว่าค่าจ้างยังสูงไปจึงให้ร.ฟ.ท.ไปพิจารณาอีกครั้งโดยละเอียด”นายสุพจน์กล่าว
นายยุทธนา ทัพเจริญ ผู้ว่าฯร.ฟ.ท.กล่าวว่า จะต้องคำนวนเนื้องานที่ที่ปรึกษาต้องทำใหม่คาดว่าค่าจ้างน่าจะลดลงอีก นอกจากนี้ร.ฟ.ท.จะต้องประสานกับกรมบัญชีกลางเพื่อยืนยันการขยายสัญญาจ้างที่ปรึกษาอีกครั้งในประเด็นที่มติครม.ให้ขยายเวลาก่อสร้างให้ผู้รับเหมาเพื่อช่วยเหลือกรณีน้ำท่วม 180 วัน ว่า จะครอบคลุมถึงสัญญาของที่ปรึกษาหรือไม่ เนื่องจากมติครม.ไม่ได้ระบุถึงการขยายในส่วนของบริษัทที่ปรึกษา
นอกจากนี้บอร์ด ยังเร่งรัดการเบิกจ่ายและติดตามการใช้งบประมาณปี 2552 ของร.ฟ.ท.ตามกรอบและแผนการใช้จ่ายเงินงบประมาณที่ได้รับอนุมัติจากทางกระทรวงคมนาคม รวมทั้งการใช้งบประมาณเบิกจ่ายเหลื่อมของปี 2551 มาใช้ในปี 2552 ด้วย โดย ได้แต่งตั้งคณะทำงานเพื่อเร่งรัดการเบิกจ่ายและติดตามการใช้จ่ายงบประมาณของร.ฟ.ท. 2 ชุด ประกอบด้วย คณะทำงานเร่งรัดติดตามการใช้จ่ายเงินงบประมาณในปีงบประมาณ 2551 โดยมีนายถวิล สามนคร รองผู้ว่าการ ร.ฟ.ท. เป็นประธาน เพื่อเร่งรัดการเบิกจ่ายงบประมาณลงทุนปี 2551-2552 โดยมีผู้อำนวยศูนย์ประสานงานและงบประมาณ เป็นประธาน
โดยกระทรวงคมนาคมได้จัดทำกรอบวงเงินงบประมาณรายจ่ายประจำปีดังกล่าว ประกอบด้วย วงเงินผูกพันสัญญาและเงินเบิกจ่ายเหลื่อมปี 2551 มาใช้ในปี 2552 ของ ร.ฟ.ท.จำนวน 2,055.76 ล้านบาท แยกเป็นเงินงบประมาณในการดำเนินงานในส่วนของการซ่อมบำรุงและปรับปรุงทางและอาณัติสัญญาณ จำนวน 791.57 ล้านบาท และโครงการก่อสร้างทางคู่ชานเมือง และทางคู่สายตะวันออก ช่วงฉะเชิงเทรา-ศรีราชา-แหลมฉบัง รวม 1,264.18 ล้านบาท ส่วนเงินงบประมาณการลงทุนประจำปี 2552 ของ ร.ฟ.ท.นั้น มีทั้งหมด 1,907.60 ล้านบาท
สำหรับความคืบหน้าโครงการรถไฟสายสีแดง (บางซื่อ-ตลิ่งชัน) นั้น บอร์ดเห็นชอบการรับรองวงเงินค่าก่อสร้างแล้ว โดยขั้นตอนต่อไปจะต้องรอสำนักงบประมาณเห็นชอบอีกครั้ง เพื่อจัดสรรงวดเงินให้ ร.ฟ.ท.เพื่อดำเนินโครงการ โดยคาดว่าจะสามารถลงนามสัญญากับกลุ่มกิจการร่วมค้า ยูนิค-ซุนวู จอยท์เวนเจอร์ (บริษัท ยูนิค เอ็นจิเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ UNIQ และ บริษัท CHUNWO CONSTRUCTION & ENGINEERING CO.,LTD) ที่ได้รับการคัดเลือก ได้ภายในเดือนพ.ย. 2551นี้
นายสุพจน์ ทรัพย์ล้อม อธิบดีกรมทางหลวง รักษาการประธานคณะกรรมการ (บอร์ด) การรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) เปิดเผยภายหลังการประชุมวานนี้ (30 ต.ค.) ว่า ที่ประชุมฯ ให้ร.ฟ.ท.กลับไปศึกษารายละเอียดการต่อสัญญาจ้างและวงเงินค่าจ้าง ที่ปรึกษาโครงการระบบขนส่งรถไฟฟ้าเชื่อมท่าอากาศยานสุวรรณภูมิและสถานีรับส่งผู้โดยสารในเมือง หรือแอร์พอร์ตลิงก์ โดยเห็นว่า วงเงินค่าจ้างที่เสนอมานั้นสูงเกินไปเมื่อเทียบกับเนื้องานที่เหลือ ทั้งนี้การขยายเวลาจ้างที่ปรึกษาเนื่องจากร.ฟ.ท.มีการขยายเวลาการก่อสร้างให้บริษัท ซิโน-ไทยเอ็นจิเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น จำกัด (มหาชน) ซึ่งเป็นผู้รับเหมาก่อสร้าง อีก 550 วัน จากสาเหตุที่ร.ฟ.ท.ส่งมอบพื้นที่ก่อสร้างล่าช้าและการขยายเวลาตามมติคณะรัฐมนตรีในการช่วยเหลือจากภาวะน้ำท่วม
“ร.ฟ.ท.เสนอค่าจ้างที่ปรึกษามา 150 ล้านบาทและมีการต่อรองลดลงเหลือ 114 ล้านบาทแล้วแต่บอร์ดก็ยังเห็นว่าค่าจ้างยังสูงไปจึงให้ร.ฟ.ท.ไปพิจารณาอีกครั้งโดยละเอียด”นายสุพจน์กล่าว
นายยุทธนา ทัพเจริญ ผู้ว่าฯร.ฟ.ท.กล่าวว่า จะต้องคำนวนเนื้องานที่ที่ปรึกษาต้องทำใหม่คาดว่าค่าจ้างน่าจะลดลงอีก นอกจากนี้ร.ฟ.ท.จะต้องประสานกับกรมบัญชีกลางเพื่อยืนยันการขยายสัญญาจ้างที่ปรึกษาอีกครั้งในประเด็นที่มติครม.ให้ขยายเวลาก่อสร้างให้ผู้รับเหมาเพื่อช่วยเหลือกรณีน้ำท่วม 180 วัน ว่า จะครอบคลุมถึงสัญญาของที่ปรึกษาหรือไม่ เนื่องจากมติครม.ไม่ได้ระบุถึงการขยายในส่วนของบริษัทที่ปรึกษา
นอกจากนี้บอร์ด ยังเร่งรัดการเบิกจ่ายและติดตามการใช้งบประมาณปี 2552 ของร.ฟ.ท.ตามกรอบและแผนการใช้จ่ายเงินงบประมาณที่ได้รับอนุมัติจากทางกระทรวงคมนาคม รวมทั้งการใช้งบประมาณเบิกจ่ายเหลื่อมของปี 2551 มาใช้ในปี 2552 ด้วย โดย ได้แต่งตั้งคณะทำงานเพื่อเร่งรัดการเบิกจ่ายและติดตามการใช้จ่ายงบประมาณของร.ฟ.ท. 2 ชุด ประกอบด้วย คณะทำงานเร่งรัดติดตามการใช้จ่ายเงินงบประมาณในปีงบประมาณ 2551 โดยมีนายถวิล สามนคร รองผู้ว่าการ ร.ฟ.ท. เป็นประธาน เพื่อเร่งรัดการเบิกจ่ายงบประมาณลงทุนปี 2551-2552 โดยมีผู้อำนวยศูนย์ประสานงานและงบประมาณ เป็นประธาน
โดยกระทรวงคมนาคมได้จัดทำกรอบวงเงินงบประมาณรายจ่ายประจำปีดังกล่าว ประกอบด้วย วงเงินผูกพันสัญญาและเงินเบิกจ่ายเหลื่อมปี 2551 มาใช้ในปี 2552 ของ ร.ฟ.ท.จำนวน 2,055.76 ล้านบาท แยกเป็นเงินงบประมาณในการดำเนินงานในส่วนของการซ่อมบำรุงและปรับปรุงทางและอาณัติสัญญาณ จำนวน 791.57 ล้านบาท และโครงการก่อสร้างทางคู่ชานเมือง และทางคู่สายตะวันออก ช่วงฉะเชิงเทรา-ศรีราชา-แหลมฉบัง รวม 1,264.18 ล้านบาท ส่วนเงินงบประมาณการลงทุนประจำปี 2552 ของ ร.ฟ.ท.นั้น มีทั้งหมด 1,907.60 ล้านบาท
สำหรับความคืบหน้าโครงการรถไฟสายสีแดง (บางซื่อ-ตลิ่งชัน) นั้น บอร์ดเห็นชอบการรับรองวงเงินค่าก่อสร้างแล้ว โดยขั้นตอนต่อไปจะต้องรอสำนักงบประมาณเห็นชอบอีกครั้ง เพื่อจัดสรรงวดเงินให้ ร.ฟ.ท.เพื่อดำเนินโครงการ โดยคาดว่าจะสามารถลงนามสัญญากับกลุ่มกิจการร่วมค้า ยูนิค-ซุนวู จอยท์เวนเจอร์ (บริษัท ยูนิค เอ็นจิเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ UNIQ และ บริษัท CHUNWO CONSTRUCTION & ENGINEERING CO.,LTD) ที่ได้รับการคัดเลือก ได้ภายในเดือนพ.ย. 2551นี้
