ไอเอ็นจีประกันชีวิต หวั่นข่าวรัฐบาลอัดเงิน 1.3 หมื่นล้านยูโร เข้าอุ้มบริษัทแม่ในเนเธอร์แลนด์ กระทบความเชื่อมั่นลูกค้า ยืนยัน สถานะทางการเงินแข็งแกร่ง และไม่ผลกระทบต่อโครงสร้างผู้ถือหุ้น พร้อมแจงการขายหุ้น 5% ในไต้หวันให้กับ “ฟูบอน ไฟแนนเชียล” เพื่อต้องการเข้าไปล้างหนี้ให้ ผู้บริหาร ย้ำ ไม่ทิ้งธุรกิจในเอเชีย
วันนี้ (21 ต.ค.) นายราเจช เสฐฐี ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่บริษัท ไอเอ็นจีประกันชีวิต (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยสถานะทางการเงินของไอเอ็นจีประกันชีวิต โดยยืนยันว่า ยังมีความแข็งแกร่ง โดยทางบริษัทมิได้เพิกเฉยต่อสภาวะทางการเงินที่เกิดขึ้นในปัจจุบัน ทำให้ไอเอ็นจีเฝ้าระวัง หมั่นตรวจสอบเสริมสภาพคล่อง และทำการดูแลเงินทุนในพอร์ต อย่างสม่ำเสมอ ทางผู้บริหารของไอเอ็นจีมีความเชื่อมั่น ว่า เงินทุนที่ได้ถูกเพิ่มนั้นจะช่วยทำให้ลูกค้า พนักงาน และผู้ถือหุ้นมีความสบายใจ และมั่นใจมากยิ่งขึ้น
ภายใต้ข้อตกลงดังกล่าวไอเอ็นจีจะรับเงินสนับสนุนจำนวนเงิน 1.3 หมี่นล้านยูโร จากรัฐบาลเนเธอร์แลนด์ โดยคาดว่าจะเข้ามาใช้ในการทำธุรกรรมต่างๆ โดยการสนับสนุนจากทางการในครั้งนี้ และคาดว่าจะแล้วเสร็จภายในวันที่ 12 พ.ย.นี้ การสนับสนุนทางการเงินดังกล่าว ไม่มีผลกระทบต่อผู้ถือหุ้นในปัจจุบัน จากมาตรการเพิ่มเงินทุนดังกล่าวทำให้เรามีความสามารถในการแข่งขันในระดับสูงขึ้น และทำให้ลูกค้าสามารถจะไว้วางใจในการทำธุรกิจกับไอเอ็นจีได้อย่างมั่นใจมากขึ้นกว่าเดิม
ประการที่สอง จากการที่ไอเอ็นจีกรุ๊ปได้ประกาศขายธุรกิจประกันชีวิตในไต้หวันให้แก่ บริษัท ฟูบอน ไฟแนนเชียล โฮลดิ้ง 600 ล้านเหรียญสหรัฐฯ หรือประมาณ 447 ล้านยูโร เพื่อแลกกับการเข้าไปถือหุ้น 5% และล้างหนี้ให้กับฟูบอน การเจรจาครั้งนี้ได้เจรจากันมาเป็นระยะเวลานานพอสมควรแล้ว แต่ได้มีประกาศออกมาพร้อมกับการเพิ่มทุน เพื่อเพิ่มความเชื่อมั่นดังกล่าวนี้
นายฮานส์ แวน เดอร์ นอร์ดา ผู้บริหารบอร์ดของไอเอ็นจีที่ดูแลธุรกิจประกันชีวิตในเอเชียแปซิฟิก กล่าวว่า กลุ่มไอเอ็นจียังคงให้ความเชื่อมั่นในการทำธุรกิจ และถ้ามีโอกาสเราก็ยังต้องการขยายการลงทุนอย่างต่อเนื่องในภูมิภาคเอเชียเพื่อการเติบโตที่สูงขึ้น
สำหรับในประเทศไทย ขณะนี้ไอเอ็นจีได้มีการเตรียมเงินทุนเพื่อการขยายตัวที่มากขึ้น ในฐานะที่ประเทศไทยเป็นหนึ่งในเสือเศรษฐกิจของเอเชีย จึงให้ความสนใจต่อการพัฒนาศักยภาพการเติบโตของไอเอ็นจี และไอเอ็นจี ยังคงให้ความสนใจที่จะลงทุนเพิ่มเติมอีก
ทั้งนี้ กลุ่มไอเอ็นจี ได้มีข้อตกลงที่จะเพิ่มการลงทุนในกิจการของ ธนาคารทหารไทย จำกัด (มหาชน) หรือ TMB และ ING Bank , การบริหารจัดการกองทุน( ING Funds) และธุรกิจประกันชีวิต โดยเฉพาะอย่างยิ่งทางธุรกิจประกันชีวิต จะให้ความสนใจในการพัฒนาศักยภาพของตัวแทน รวมทั้งการพัฒนาธุรกิจทางด้านแบงก์แอสชัวรันส์กับ TMB และเสาะแสวงหาพันธมิตรเพิ่มเติม เพื่อพัฒนาธุรกิจทางด้าน Direct business