xs
xsm
sm
md
lg

เอกชนถอดใจลอยกระทงปีนี้ไม่คึก ททท.อัด 50 ลบ.ปลุกคนไทยเที่ยว

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ส.เรือไทย ถอดใจลอยกระทงปีนี้ นักท่องเที่ยวไม่คึก ชี้ ยอดจองล่วงหน้าเดือนพฤศจิกายนยังร่อแร่ เหตุมีทั้งปัญหาเศรษฐกิจโลก และ การเมืองในประเทศ ด้าน ททท.ยังฝันเพิ่มนักท่องเที่ยวจากปีก่อนอีก 5% อัดเงิน 50 ล้านบาท โหมจัดกิจกรรม โฆษณาประชาสัมพันธ์ ปูพรม จัด 6 พื้นที่ กระหึ่มลอยกระทงทั่วประเทศเหมือนเดิม

นางพรศิริ มโนหาญ ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยว่า เทศกาลลอยกระทงปีนี้ ททท.จะใช้งบประมาณเพื่อจัดกิจกรรมราว 40-50 ล้านบาทเท่ากับปีก่อน เพื่อจัดงานในกรุงเทพฯ และ อีก 5 จังหวัดใหญ่ ได้แก่ พระนครศรีอยุธยา สุโขทัย ตาก เชียงใหม่ และ หาดใหญ่ (สงขลา) วงเงินดังกล่าว จะแบ่งเป็น 26 ล้านบาท ใช้เพื่อจัดกิจกรรม อีก 14 ล้านบาท สำหรับการทำโฆษณาประชาสัมพันธ์ อีก 10 ล้านบาท ที่เหลือกันไว้ เพื่อทำประชาสัมพันธ์เพิ่มเติม
โดยหวังจะใช้วิธีกระตุ้นพร้อมส่งเสริมอย่างเต็มที่ เพื่อให้เทศกาลลอยกระทงปีนี้ มีความคึกคัก ตั้งเป้าหมายเพิ่มจำนวนนักท่องเที่ยวให้มากกว่าปีก่อน ไม่น้อยกว่า 3-5% ตอกย้ำให้เทศกาลนี้ เป็นเวิล์ดอีเว้นต์ อย่างสมบูรณ์แบบ

สำหรับกรุงเทพฯ ยังคงจัดงานภายใต้ชื่อโครงการ สีสันแห่งสายน้ำ มหกรรมลอยกระทง ซึ่งจะมีขึ้นระหว่างวันที่ 8-12 พ.ย.2551 มีขบวนเรือประดับไฟฟ้า พร้อมการแสดงต่างๆ อีกมากมาย โดย ททท.ร่วมดำเนินกิจกรรมนี้กับสมาคมเรือไทย และภัตตาคาร ร้านอาหาร 2 ฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวทางน้ำตลอดเดือน พ.ย.
ส่วนต่างจังหวัดซึ่งจะจัดให้มีงานตลอดเดือน โดยมีไฮไลต์ในคืนวันที่ 12 พ.ย.ซึ่งเป็นคืนลอยกระทง ได้แก่ งานเผาเทียน เล่นไฟ จ.สุโขทัย, ประเพณียี่เป็ง จ.เชียงใหม่, งานประกวดกระทงสาย จ. ตาก, งานลอยกระทงตามประทีป จ.พระนครศรีอยุธยา และ งานเทศกาลโคมไฟสีสันเมืองใต้ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา

“ปีนี้ ททท.ต้องการเชิญชวนคนไทย ออกมาเดินทางท่องเที่ยวในช่วงเทศกาลลอยกระทงให้มากขึ้น โดยใช้ความหมายของการลอยกระทง มาเป็นจุดขาย กล่าวคือ ประเพณีลอยกระทงถูกกำหนดขึ้นเพื่อเป็นการสะเดาะเคราะห์ โดยลอยสิ่งไม่ดีให้ออกจากตัวไป และขอขมาต่อแม่พระคงคา ซึ่งปีนี้มองว่า คนไทยมีความเครียดมาก ทั้งจากภาวะเศรษฐกิจและการเมือง ก็หวังว่าเทศกาลนี้จะช่วยสร้างความสุขให้แก่คนไทยได้อีกงานหนึ่ง” นางพรศิริ กล่าว

****ส.เรือไทยถอดใจปีนี้นักท่องเที่ยวไม่เพิ่ม***
ทางด้าน นายประสิทธิ์ วิชัยสุชาติ เลขาธิการ สมาคมเรือไทย กล่าวว่า สมาคมเรือไทย ได้รับงบประมาณจาก ททท.2.8 ล้านบาท สำหรับจัดขบวนเรือประดับไฟจำนวน 30 ลำ ซึ่งจะเป็นเรือนำเที่ยวและเรือภัตตาคาร โดยจะแล่นโชว์ตลอดเดือน พ.ย.ขณะที่ช่วงวันลอยกระทง 8-12 พ.ย.จะมีประกวดเรือประดับไฟ เหมือนทุกปีที่ผ่านมา โดยปีนี้มีเรือเข้าประกวด 17 ลำ ชิงถ้วยพระราชทานจากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พร้อมเงินรางวัล 1 ล้านบาท เช่นเดิม

อย่างไรก็ตาม ในกลุ่มผู้ประกอบการเรือนำเที่ยวและเรือภัตตาคาร ไม่คาดหวังว่า ปีนี้จำนวนนักท่องเที่ยว โดยเฉพาะชาวต่างชาติ จะมากกว่าปีก่อน และยังทำใจยอมรับว่าคงน้อยกว่าปีก่อนแน่นอน หากได้เท่าปีก่อนก็ถือว่าดีอย่างเหลือเชื่อ เพราะ ณ วันนี้ ยอดจองล่วงหน้า ในเดือน ต.ค.ลดลงกว่า 50% ขณะที่เดือน พ.ย.ยังแถบไม่มีเข้ามาเลย โดยตลาดที่ลดลงเยอะคือ ยุโรปตะวันตก แต่ทั้งนี้ ยังมีข่าวดีว่า ล่าสุด เริ่มมีบุ๊กกิ้งจากกรุ๊ปนักท่องเที่ยว จีน เข้ามาบ้างแล้ว ซึ่งในช่วง ประกาศ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ต่อเนื่องเหตุการณ์ปะทะกันเมื่อวันที่ 7 ต.ค.ที่ผ่านมา ตลาดจีนยกเลิกการเดินทางทั้งหมด

“ปัจจุบันผู้ประกอบการเรือภัตตาคารและเรือนำเที่ยว ต่างลดเที่ยววิ่ง เช่น เรือเจ้าพระยาปริ๊นเซส มีเรือ 4 ลำ ปกติยอดรวมวิ่งวันละ 6-8 เที่ยว ปัจจุบัน ลดเหลือวันละ 2 เที่ยว ส่วนเรือนำเที่ยว ที่ท่าช้าง ซึ่งมีประมาณ 50 ลำ ปัจจุบัน ออกวิ่งเพียง 15-20 ลำ โดยสลับสับเปลี่ยนกันวิ่ง ยังโชคดีที่ ราคาน้ำมันปรับลด ไม่เช่นนั้นผู้ประกอบการคงตกอยู่ในภาวะลำบากกว่านี้ ตอนนี้ก็ได้แต่ประคองธุรกิจให้พออยู่รอด โดยหวังว่าทุกอย่างจะดีขึ้นในปีหน้า โดยเฉพาะสถานการณ์การเมืองภายในประเทศ”

อย่างไรก็ตาม ตลอดเดือน พ.ย.ทุกวันเสาร์และอาทิตย์ สมาคมได้จัดนำเที่ยว ภายใต้โครงการ 1 สายน้ำ 3 วัฒนธรรม พานักท่องเที่ยวนั่งเรือเยี่ยมชมวิถีชีวิต ชาวไทย, จีน และ มุสลิม ที่อาศัยอยู่ 2 ฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา ตั้งแต่เวลา 17.30-20.30 น.ซึ่งโครงการนี้สมาคมจัดต่อเนื่องมา 2-3 ปี แล้ว โดยปรับเปลี่ยนชื่อตามธีมงานของ ททท.และ สอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบัน
กำลังโหลดความคิดเห็น