นกแอร์ปรับแผนรับมือวิกฤตเศรษฐกิจและการเมือง ชะลอแผนเพิ่มฝูงบิน และเปิดเส้นทางบิน ด้านไทยแอร์เอเชีย ยิงแคมเปญกระหน่ำทุก
นายพาที สารสิน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร สายการบินนกแอร์ กล่าวว่า ได้ปรับแผนธุรกิจปี 2551-2553 ให้มีความสอดคล้องกับวิกฤตเศรษฐกิจโลก ปัญหาการเมืองภายในประเทศ ปัญหาภาคใต้ และ ผลกระทบที่จะเกิดขึ้นจากข้อพิพาทระหว่างไทย กับ กัมพูชา โดยตัดสินใจที่จะปรับลดฝูงบินเหลือ 5 ลำ จากแผนเดิมกำหนดจะเพิ่มฝูงบินเป็น 12 ลำ จากปัจจุบันมีอยู่ 3 ลำ รวมถึงชะลอแผนขยายเส้นทางบินระหว่างประเทศ เช่น กรุงเทพ-บังกาลอร์, กรุงเทพฯ-มาเก๊า และ กรุงเทพฯ-ฮานอย ออกไปอย้าไม่มีกำหนด การปรับลดพนักงานเอาต์ซอร์สลง 50% รวมถึงการควบคุมต้นทุนบริหารจัดการ
นอกจากนั้น ขณะนี้นกแอร์ยังได้รับอานิสงส์จากเหตุนักบินของการบินไทยไล่ผู้โดยสารที่เป็นนักการเมือง ในช่วงที่ผ่านมา ทำให้ลูกค้ากลุ่มนักการเมืองหันมาใช้บริการนกแอร์เพิ่มขึ้น ปัจจุบันผู้โดยสารนกแอร์ในแต่ละเที่ยวบินเฉลี่ยที่ 80% ตลอดทั้งปี คาดว่า จะขนผู้โดยสารได้ไม่น้อยกว่า 3 ล้านคน โดยเดือนกันยายนที่ผ่านมา นกแอร์ ปรับขึ้นค่าตั๋วโดยสาร 20% ตามต้นทุนที่เพิ่มขึ้น เพื่อให้ธุรกิจสามารถดำเนินต่อไปได้
อย่างไรก็ตาม กรณีการบินไทยปรับลดราคาตั๋วโดยสารในเส้นทางระหว่างประเทศ เพื่อกระตุ้นให้คนไทยเดินทางท่องเที่ยวมากขึ้นนั้น จะไม่ส่งผลกระทบต่อนกแอร์ เพราะเชื่อว่าในสถานการณ์ปัจจุบันนี้ ส่งผลให้คนไทยหมดอารมณ์ที่จะคิดเดินทางท่องเที่ยว และมองว่าการลดราคาครั้งนี้จะส่งผลกระทบต่อโครงสร้างราคาในอนาคต
ด้าน นายทัศพล แบเลเว็ลด์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไทยแอร์เอเชีย กล่าวว่า การบินไทยลดค่าตั๋วโดยสาร อาจมีผลกระทบต่อลุกค้าของไทยแอรืเอเชียเพียงเล้กน้อย 1-2% เพราะทุกสายการบินก็จะมีกลุ่มลุกค้าที่แตกต่างกัน โดยไทยแอรืเอเชียมั่นใจว่า แม้การบินไทยจะลดค่าตั๋วโดยสาร แต่เมื่อรวมค่าภาษีน้ำมันแล้ว ตั๋วของไทยแอรืเอเชียก็ยังถูกกว่า
อย่างไรก็ตาม จากภาวะวิกฤตเศรษฐกิจ ไทยแอร์เอเชียได้ปรับกลยุทธ์ ด้วยวิธี เพิ่มความถี่ของการออกแคมเปญ เป็นทุกสัปดาห์ จากก่อนหน้านี้ จะออกแคมเปญทุก 2 สัปดาห์
นายพาที สารสิน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร สายการบินนกแอร์ กล่าวว่า ได้ปรับแผนธุรกิจปี 2551-2553 ให้มีความสอดคล้องกับวิกฤตเศรษฐกิจโลก ปัญหาการเมืองภายในประเทศ ปัญหาภาคใต้ และ ผลกระทบที่จะเกิดขึ้นจากข้อพิพาทระหว่างไทย กับ กัมพูชา โดยตัดสินใจที่จะปรับลดฝูงบินเหลือ 5 ลำ จากแผนเดิมกำหนดจะเพิ่มฝูงบินเป็น 12 ลำ จากปัจจุบันมีอยู่ 3 ลำ รวมถึงชะลอแผนขยายเส้นทางบินระหว่างประเทศ เช่น กรุงเทพ-บังกาลอร์, กรุงเทพฯ-มาเก๊า และ กรุงเทพฯ-ฮานอย ออกไปอย้าไม่มีกำหนด การปรับลดพนักงานเอาต์ซอร์สลง 50% รวมถึงการควบคุมต้นทุนบริหารจัดการ
นอกจากนั้น ขณะนี้นกแอร์ยังได้รับอานิสงส์จากเหตุนักบินของการบินไทยไล่ผู้โดยสารที่เป็นนักการเมือง ในช่วงที่ผ่านมา ทำให้ลูกค้ากลุ่มนักการเมืองหันมาใช้บริการนกแอร์เพิ่มขึ้น ปัจจุบันผู้โดยสารนกแอร์ในแต่ละเที่ยวบินเฉลี่ยที่ 80% ตลอดทั้งปี คาดว่า จะขนผู้โดยสารได้ไม่น้อยกว่า 3 ล้านคน โดยเดือนกันยายนที่ผ่านมา นกแอร์ ปรับขึ้นค่าตั๋วโดยสาร 20% ตามต้นทุนที่เพิ่มขึ้น เพื่อให้ธุรกิจสามารถดำเนินต่อไปได้
อย่างไรก็ตาม กรณีการบินไทยปรับลดราคาตั๋วโดยสารในเส้นทางระหว่างประเทศ เพื่อกระตุ้นให้คนไทยเดินทางท่องเที่ยวมากขึ้นนั้น จะไม่ส่งผลกระทบต่อนกแอร์ เพราะเชื่อว่าในสถานการณ์ปัจจุบันนี้ ส่งผลให้คนไทยหมดอารมณ์ที่จะคิดเดินทางท่องเที่ยว และมองว่าการลดราคาครั้งนี้จะส่งผลกระทบต่อโครงสร้างราคาในอนาคต
ด้าน นายทัศพล แบเลเว็ลด์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไทยแอร์เอเชีย กล่าวว่า การบินไทยลดค่าตั๋วโดยสาร อาจมีผลกระทบต่อลุกค้าของไทยแอรืเอเชียเพียงเล้กน้อย 1-2% เพราะทุกสายการบินก็จะมีกลุ่มลุกค้าที่แตกต่างกัน โดยไทยแอรืเอเชียมั่นใจว่า แม้การบินไทยจะลดค่าตั๋วโดยสาร แต่เมื่อรวมค่าภาษีน้ำมันแล้ว ตั๋วของไทยแอรืเอเชียก็ยังถูกกว่า
อย่างไรก็ตาม จากภาวะวิกฤตเศรษฐกิจ ไทยแอร์เอเชียได้ปรับกลยุทธ์ ด้วยวิธี เพิ่มความถี่ของการออกแคมเปญ เป็นทุกสัปดาห์ จากก่อนหน้านี้ จะออกแคมเปญทุก 2 สัปดาห์