โลว์คอสต์รวมหัว จับมือกำหนดราคากลางค่าธรรมเนียมภาษีน้ำมัน โขกผู้โดยสารที่นั่งละ 1,200-1,500 บาท มีผลแล้ววันนี้ อ้างป้องกันปัญหาตายหมู่ เหตุราคาน้ำมันปรับขึ้นรายวัน แต่ธุรกิจแข่งขันสูง เกิดสงครามราคาหั่นค่าตั๋วต่ำกว่าทุน
นายอุดม ตันติประสงค์ชัย ประธานเจ้าหน้าที่สายการบินวัน ทู โก ผู้ให้บริการสายการบินต้นทุนต่ำ (โลว์คอสต์ แอร์ไลน์) เปิดเผยว่า ได้จับมือกับสายการบินโลว์คอสต์อีก 2 ราย คือ ไทยแอร์เอเชีย และ นกแอร์ ตั้งราคากลางค่าธรรมเนียมภาษีน้ำมันร่วมกัน คือ ประมาณ 1,200-1,500 บาท ต่อที่นั่ง โดยประกาศใช้ตั้งแต่วันที่ 1 ก.ค.นี้ เป็นต้นไป
ทั้งนี้ เพราะต้องการแก้ปัญหาต้นทุนค่าเชื้อเพลิงที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง และเป็นการป้องกันการแข่งขันด้านราคาในหมู่ผู้ประกอบการในธุรกิจเดียวกัน ทำให้ราคาตั๋วที่จำหน่วยไม่ตรงกับต้นทุนที่แท้จริง
“เบื้องต้น วันทูโก และ นกแอร์ จะเริ่มใช้ราคากลางตั้งแต่วันนี้เลย แต่ไทยแอร์เอเชียอยู่ระหว่างการปรับปรุงระบบ คาดว่า จะเริ่มใช้ราคากลางได้ภายในเดือนนี้เช่นกัน”
สำหรับการปรับตัวเพื่อให้ธุรกิจอยู่รอดได้ในสถานการณ์เช่นนี้ วัน ทู โก ใช้กลยุทธ์ปรับลดเที่ยวบินลง 15-20% ให้สอดคล้องกับปริมาณของลูกค้าที่ใช้บริการ
ทางด้าน นายพาที สารสิน ประธานเจ้าหน้าบริหาร สายการบินนกแอร์ กล่าวว่า นกแอร์ จะทยอยปรับค่าธรรมเนียมภาษีน้ำมัน จาก 750 บาท ต่อที่นั่ง เป็น 950 บาทต่อที่นั่ง ซึ่งเป็นราคาที่เท่ากับสายการบินไทย จากนั้นจะค่อยปรับขึ้นให้เต็มวงเงินที่จับมือกันไว้กับกลุ่มผู้ประกอบการโลว์คอสต์ คือ 1,200-1,500 บาทต่อที่นั่ง คาดว่า จะใช้เวลาประมาณ 1-2 สัปดาห์ เพื่อให้ผู้โดยสารเริ่มปรับตัวเช่นกัน ซึ่งจะทำให้ค่าโดยสารของนกแอร์แพงขึ้นราว 15%
นายทัศพล แบเลเว็ล์ด ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร สายการบินไทย แอร์ เอเชีย กล่าวว่า บริษัทอยู่ระหว่างการพิจารณาที่จะนำข้อตกลงกับกลุ่มสายการบินโลว์คอสต์มาดำเนินการ ซึ่งปัจจุบัน ไทยแอร์เอเชีย เก็บค่าธรรมเนียมภาษีน้ำมันอยู่ที่ 550 บาทต่อที่นั่ง บวกกับการเก็บค่าสัมภาระที่ผู้โดยสารจะโหลดเข้าใต้ท้องเครื่อง
นายอุดม ตันติประสงค์ชัย ประธานเจ้าหน้าที่สายการบินวัน ทู โก ผู้ให้บริการสายการบินต้นทุนต่ำ (โลว์คอสต์ แอร์ไลน์) เปิดเผยว่า ได้จับมือกับสายการบินโลว์คอสต์อีก 2 ราย คือ ไทยแอร์เอเชีย และ นกแอร์ ตั้งราคากลางค่าธรรมเนียมภาษีน้ำมันร่วมกัน คือ ประมาณ 1,200-1,500 บาท ต่อที่นั่ง โดยประกาศใช้ตั้งแต่วันที่ 1 ก.ค.นี้ เป็นต้นไป
ทั้งนี้ เพราะต้องการแก้ปัญหาต้นทุนค่าเชื้อเพลิงที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง และเป็นการป้องกันการแข่งขันด้านราคาในหมู่ผู้ประกอบการในธุรกิจเดียวกัน ทำให้ราคาตั๋วที่จำหน่วยไม่ตรงกับต้นทุนที่แท้จริง
“เบื้องต้น วันทูโก และ นกแอร์ จะเริ่มใช้ราคากลางตั้งแต่วันนี้เลย แต่ไทยแอร์เอเชียอยู่ระหว่างการปรับปรุงระบบ คาดว่า จะเริ่มใช้ราคากลางได้ภายในเดือนนี้เช่นกัน”
สำหรับการปรับตัวเพื่อให้ธุรกิจอยู่รอดได้ในสถานการณ์เช่นนี้ วัน ทู โก ใช้กลยุทธ์ปรับลดเที่ยวบินลง 15-20% ให้สอดคล้องกับปริมาณของลูกค้าที่ใช้บริการ
ทางด้าน นายพาที สารสิน ประธานเจ้าหน้าบริหาร สายการบินนกแอร์ กล่าวว่า นกแอร์ จะทยอยปรับค่าธรรมเนียมภาษีน้ำมัน จาก 750 บาท ต่อที่นั่ง เป็น 950 บาทต่อที่นั่ง ซึ่งเป็นราคาที่เท่ากับสายการบินไทย จากนั้นจะค่อยปรับขึ้นให้เต็มวงเงินที่จับมือกันไว้กับกลุ่มผู้ประกอบการโลว์คอสต์ คือ 1,200-1,500 บาทต่อที่นั่ง คาดว่า จะใช้เวลาประมาณ 1-2 สัปดาห์ เพื่อให้ผู้โดยสารเริ่มปรับตัวเช่นกัน ซึ่งจะทำให้ค่าโดยสารของนกแอร์แพงขึ้นราว 15%
นายทัศพล แบเลเว็ล์ด ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร สายการบินไทย แอร์ เอเชีย กล่าวว่า บริษัทอยู่ระหว่างการพิจารณาที่จะนำข้อตกลงกับกลุ่มสายการบินโลว์คอสต์มาดำเนินการ ซึ่งปัจจุบัน ไทยแอร์เอเชีย เก็บค่าธรรมเนียมภาษีน้ำมันอยู่ที่ 550 บาทต่อที่นั่ง บวกกับการเก็บค่าสัมภาระที่ผู้โดยสารจะโหลดเข้าใต้ท้องเครื่อง