xs
xsm
sm
md
lg

ตลาดเงินยุโรปโคม่า! FTS Eurofirst 300 index รูดกว่า 4% ธ.กลางอังกฤษอัดหมื่นล.

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


แบงก์ชาติอังกฤษตั้งวงเงินเสริมสภาพคล่องอีก 10 พันล้านดอลลาร์ เพื่อเตรียมอัดฉีดเข้าตลาดเงิน ด้านตลาดหุ้นยุโรปร่วงกว่า 4% นลท.ขาดความเชื่อมั่น แม้สหรัฐ-ยุโรป ประกาศใช้แผนฟื้นฟูภาคการเงิน หลัง ธ.ไฮโป เรียล เอสเตท แบงก์อันดับ 2 ของเยอร์มัน ต้องล้มตาม ธ.ฟอร์ติส ธนาคารใหญ่ของยุโรป

วันนี้ ( 6 ต.ค.) สำนักข่าวเอพีรายงานว่า ธนาคารกลางอังกฤษตั้งวงเงินเสริมสภาพคล่องอีก 10 พันล้านดอลลาร์ เพื่อรออัดฉีดเข้าตลาดเงินวันนี้ เพื่อรักษาสภาพคล่องในตลาดเงิน

โดยในแถลงการณ์ที่เผยแพร่ผ่านเว็บไซท์วันนี้ ธนาคารกลางอังกฤษได้ตั้งวงเงินเสริมสภาพคล่องมากที่สุดสำหรับ 10 ผู้เสนอกู้รายละ 1 พันล้านดอลลาร์

ตลาดหุ้นยุโรปร่วงลง 4% ในการซื้อขายช่วงเช้าวันนี้ เนื่องจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับปัญหาในภาคการเงิน แม้สหรัฐและยุโรปประกาศใช้มาตรการฟื้นฟูภาคการเงิน

ทั้งนี้ ณ เวลา 14.13 น.ตามเวลาประเทศไทยในวันนี้ ดัชนี FTS Eurofirst 300 index ซึ่งเป็นดัชนีชี้วัดราคาหุ้นของบริษัทยักษ์ใหญ่ในยุโรป ร่วงลง 4.2% แตะที่ 1,044.16 จุด

นักลงทุนยังคงขาดความเชื่อมั่น แม้สภาคองเกรสของสหรัฐฯ จะอนุมัติแผนฟื้นฟูภาคการเงินมูลค่า 7 แสนล้านดอลลาร์ และแม้ว่าประธานาธิบดีจอร์จ ดับเบิ้ลยู บุช ได้ลงนามให้แผนดังกล่าวมีผลบังคับใช้ตามกฎหมายเมื่อวันศุกร์ก็ตาม ความมั่นใจของนักลงทุนส่งผลให้เกิดการเทขายอย่างหนัก โดยหุ้นกลุ่มธนาครดิ่งลงหนักสุด

ทั้งนี้ หุ้นบีเอ็นพี พาริบาส์ ดิ่งลง 4.2% หุ้นเครดิต อกริโคล ร่วงลง 6% หุ้นเด็กเซีย ร่วงลง 12.8% และหุ้นโซซิเอเต เจนเนอรัล ร่วงลง 6.9%

ธนาคารบีเอ็นพี พาริบาส์ ธนาคารรายใหญ่ที่สุดของฝรั่งเศส เปิดเผยว่า ธนาคารได้ทุ่มเงิน 1.45 หมื่นล้านยูโร หรือประมาณ 2.01 หมื่นล้านดอลลาร์ เพื่อเทคโอเวอร์กิจการธนาคารฟอร์ติสของยุโรป

นอกจากนี้ มีรายงานว่ารัฐบาลเยอรมนีตัดสินใจอุ้มกิจการ ไฮโป เรียล เอสเตท สถาบันการเงินด้านการจำนองอสังหาริมทรัพย์ที่ใหญ่เป็นอันดับที่ 2 ของเยอรมนี ด้วยการอนุมัติวงเงินกู้ฉุกเฉิน 5 หมื่นล้านยูโร หลังจากบริษัทขาดสภาพคล่องอย่างหนัก

ทั้งนี้ รัฐบาลเยอรมนี ได้ดำเนินการยับยั้งความผันผวนในภาคการเงินเมื่อวานนี้ โดยจัดทำแผนช่วยเหลือครั้งใหม่สำหรับไฮโป เรียล เอสเตท (HRE) ซึ่งเป็นสถาบันการเงินปล่อยกู้รายใหญ่ที่กำลังประสบปัญหา และยืนยันที่จะให้การค้ำประกันบัญชีเงินฝากเอกชน

ซึ่งหลังจากที่ธนาคารและบริษัทประกันภัยของเยอรมัน สร้างความวิตกให้กับรัฐบาลเมื่อวันเสาร์ด้วยการถอนการสนับสนุนสำหรับแผนความช่วยเหลือในวงเงิน 3.5 หมื่นล้านยูโร (4.850 หมื่นล้านดอลลาร์) ที่นำโดยรัฐบาลสำหรับ HRE ทางการเยอรมนีก็เร่งรีบจัดทำข้อตกลงฉบับใหม่ก่อนที่ตลาดจะเปิดทำการในวันนี้

กระทรวงการคลังเปิดเผยว่า ภายใต้ข้อตกลงที่จัดทำขึ้นเมื่อวานนี้ ภาคการเงินตกลงที่จะจัดหาสภาพคล่องอีก 1.5 หมื่นล้านยูโร (2.08 หมื่นล้านดอลลาร์) สำหรับ HRE นอกเหนือจาก 3.5 หมื่นล้านยูโรที่ภาคการเงินได้จัดหาร่วมกับธนาคารกลางเยอรมนีแล้ว

"ด้วยแนวทางแก้ปัญหาที่เห็นพ้องกันนี้ HRE จะมีเสถียรภาพ และส่งผลให้ตลาดการเงินของเยอรมันมีความแข็งแกร่งขึ้นในช่วงเวลาที่ยากลำบาก" ทางกระทรวงระบุ

นอกจากนี้ รัฐบาลยังเปิดเผยว่าได้ตกลงที่จะรับประกันเงินฝากภาคเอกชนเพื่อช่วยฟื้นความเชื่อมั่นในตลาด ท่ามกลางวิกฤติการเงินที่เลวร้ายที่สุดนับแต่ช่วงทศวรรษ 1930

"เราแจ้งแก่ผู้ฝากเงินว่าเงินฝากของพวกเขามีความปลอดภัย" นายกรัฐมนตรี แองเจลา เมอร์เคล กล่าวในการแถลงข่าวในเบอร์ลิน

การดำเนินการดังกล่าวได้สร้างความประหลาดใจ เนื่องจากเจ้าหน้าที่ของเยอรมนีเคยวิพากษ์วิจารณ์ไอร์แลนด์อย่างมาก เมื่อมีการประกาศการดำเนินการที่คล้ายคลึงกันเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว

การเปลี่ยนแปลงท่าทีของทางการเยอรมนีสะท้อนถึงลักษณะที่มีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วของวิกฤตการณ์ ซึ่งได้ลุกลามไปทั่วยุโรปเร็วกว่าที่บรรดาผู้นำจำนวนมากในยุโรปได้คาดไว้มาก ซึ่งกระทรวงการคลังเยอรมนี เปิดเผยว่า การรับประกันดังกล่าวจะครอบคลุมเงินฝากมูลค่ากว่า 5 แสนล้านยูโร

นายเพียร์ สไตน์บรูค รมว.คลังเยอรมนี กล่าวว่า นี่เป็นสัญญาณเพื่อให้สิ่งต่างๆ ได้เข้าสู่ภาวะปกติ และสามารถหลีกเลี่ยงปฏิกริยาที่มากเกินไป ซึ่งจะทำให้การรับมือและความพยายามในการป้องกันวิกฤตการณ์ในปัจจุบันมีความยากลำบากมากขึ้น

ด้านนักวิเคราะห์ ระบุว่า ปัญหาภาคธนาคารในยุโรป และแผนกู้วิกฤตการเงินที่คล้ายกับในสหรัฐ ภายหลังวิกฤตสินเชื่อในสถาบันการเงินของสหรัฐลุกลามเข้าไปในยุโรปแล้ว แม้ภายหลังการหารือร่วมกันของผู้นำ 4 ชาติยุโรป คือ ฝรั่งเศส เยอรมนี อังกฤษ และอิตาลี ในวันที่ 4 ต.ค.51 ที่ผ่านมา จะยังไม่มีแผนช่วยเหลือใดออกมา เพียงแต่เรียกร้องให้คณะกรรมาธิการยุโรปออกข้อเสนอด้านกฎหมายในอนาคตด้านการค้ำประกันเงินฝากธนาคารในยุโรป รวมทั้งจัดตั้งหน่วยงานควบคุมข้ามพรมแดน และให้แต่ละประเทศประสานมาตรการแก้ปัญหาเข้าด้วยกัน
กำลังโหลดความคิดเห็น