บอส “สหพัฒน์” โอ่ 8 เดือนแรกโต 10% คาดทั้งปีโต 10% ตามเป้าติดต่อกัน 5 ปี ย้ำวิกฤติสหรัฐไม่น่ากระทบไทยร้ายแรง ชี้การเมืองต้องพิจารณาคนมีคุณภาพมาเป็นรัฐมนตรี
นายบุญชัย โชควัฒนา ประธานกรรมการบริหาร บริษัท สหพัฒนพิบูล จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ช่วง 8 เดือนแรกปีนี้บริษัทยังมีอัตราการเติบโตด้วยดีประมาณ 10% และคาดว่า ทั้งปีจะเติบโตที่ 10% ซึ่งปีนี้เป็นปีที่ 5 ติดต่อกันแล้วที่บริษัฯสามารถทำยอดขายได้ถึงเป้าที่วางไว้ เนื่องมาจากบริษัทได้ใช้กลยุทธ์การบริหารจัดการ โดยการให้คนในองค์กรมีส่วนร่วมในการคิด ในการทำ เพื่อผลักดันยอดขายให้เป็นไปตามเป้าหมาย
อย่างไรก็ตาม ปัญหาในเวลานี้ไม่ได้อยู่ที่กำลังซื้อ ผู้บริโภคชะลอการตัดสินใจซื้อมากกว่า เนื่องจากว่าเมื่อต้นทุนการผลิตสูงขึ้นมากจากการผลิตโดยราคาน้ำมันในช่วงที่ผ่านมา ทำให้ต้องปรับราคาสินค้าขึ้นมาบ้าง ผู้บริโภคจึงชะลอการซื้อ ขณะที่คู่แข่งในตลาดเดียวกันก็ใช้วิธีการดั๊มราคาลงมาเพื่อดึงกำลังซื้อ ซึ่งจากนี้บริษัทฯยังไม่มีแผนที่จะปรับราคาสินค้าขึ้นเนื่องจากราคาน้ำมันได้ตกลงมาบ้างแล้ว ซึ่งผมเคยพูดมาตลอดว่า ราคาน้ำมันเมื่อขึ้นไปแล้วมันก็จะตกลงมา ไม่ใช่ขึ้นตลอดเวลา
ขณะที่ปัญหาวิกฤตสหรัฐฯขณะนี้ไม่น่าจะส่งผลกระทบอย่างรุนแรงกับประเทศไทยแต่แน่นอนว่าส่งผลกระทบต่อทั่วโลก ซึ่งประเทศไทยก็มีตลาดส่งออกทั้งสหรัฐฯและในประเทศอื่นอีกมาก ซึ่งไทยยังส่งออกต่ำมากเมื่อเทียบกับมวลรวมในประเทศ ผมไม่รู้ว่าค่าจีดีพีและคนแต่ละองค์กรเอาฐานอะไรตรงไหนมาคิด
การส่งออกของประเทศไทยยังเป็นสิ่งที่เน้นการส่งออก เรื่อง ข้าว สินค้าการเกษตร แต่สินค้าอื่นเรายังไม่ได้พัฒนามากนักในการส่งออก เราต้องพัฒนาต่อ เพราะตลาดในประเทศเราชำนาญแล้ว ซึ่งของบริษัทฯก็มีสัดส่วนส่งออกแค่ 10% เท่านั้น ยังต้องพัฒนาต่อ
ส่วนปัญหาการเมืองนั้น นายบุญชัย ให้ความเห็นว่า ต้องมีการเปลี่ยนแปลง แม้ว่าจะมีการยุบสภาเลือกตั้งใหม่ ก็ได้ แต่ขอให้พิจารณาจากคุณภาพ ไม่ใช่พิจารณาจากการเมือง ถ้าเอาผลประโยชน์มาก่อน บ้านเมืองก็จะไปไม่รอด การเปลี่ยนแปลงภาคการเมืองต้องทำให้เกิดการยอมรับทุกภาคส่วน ทั้งประชาชน กลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย กลุ่มชนชนกลาง ชนชั้นล่าง
ส่วนกรณีที่รัฐบาลได้ ดร.โอฬาร ไชยประวัติ มาเป็นรองนายกรัฐมนตรีดูแลด้านเศรษฐกิจ ซึ่งเป็นคนมีความรู้ความสามารถมั่นใจว่าจะนำพาประเทศไทยรอดวิกฤตได้
นายบุญชัย โชควัฒนา ประธานกรรมการบริหาร บริษัท สหพัฒนพิบูล จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ช่วง 8 เดือนแรกปีนี้บริษัทยังมีอัตราการเติบโตด้วยดีประมาณ 10% และคาดว่า ทั้งปีจะเติบโตที่ 10% ซึ่งปีนี้เป็นปีที่ 5 ติดต่อกันแล้วที่บริษัฯสามารถทำยอดขายได้ถึงเป้าที่วางไว้ เนื่องมาจากบริษัทได้ใช้กลยุทธ์การบริหารจัดการ โดยการให้คนในองค์กรมีส่วนร่วมในการคิด ในการทำ เพื่อผลักดันยอดขายให้เป็นไปตามเป้าหมาย
อย่างไรก็ตาม ปัญหาในเวลานี้ไม่ได้อยู่ที่กำลังซื้อ ผู้บริโภคชะลอการตัดสินใจซื้อมากกว่า เนื่องจากว่าเมื่อต้นทุนการผลิตสูงขึ้นมากจากการผลิตโดยราคาน้ำมันในช่วงที่ผ่านมา ทำให้ต้องปรับราคาสินค้าขึ้นมาบ้าง ผู้บริโภคจึงชะลอการซื้อ ขณะที่คู่แข่งในตลาดเดียวกันก็ใช้วิธีการดั๊มราคาลงมาเพื่อดึงกำลังซื้อ ซึ่งจากนี้บริษัทฯยังไม่มีแผนที่จะปรับราคาสินค้าขึ้นเนื่องจากราคาน้ำมันได้ตกลงมาบ้างแล้ว ซึ่งผมเคยพูดมาตลอดว่า ราคาน้ำมันเมื่อขึ้นไปแล้วมันก็จะตกลงมา ไม่ใช่ขึ้นตลอดเวลา
ขณะที่ปัญหาวิกฤตสหรัฐฯขณะนี้ไม่น่าจะส่งผลกระทบอย่างรุนแรงกับประเทศไทยแต่แน่นอนว่าส่งผลกระทบต่อทั่วโลก ซึ่งประเทศไทยก็มีตลาดส่งออกทั้งสหรัฐฯและในประเทศอื่นอีกมาก ซึ่งไทยยังส่งออกต่ำมากเมื่อเทียบกับมวลรวมในประเทศ ผมไม่รู้ว่าค่าจีดีพีและคนแต่ละองค์กรเอาฐานอะไรตรงไหนมาคิด
การส่งออกของประเทศไทยยังเป็นสิ่งที่เน้นการส่งออก เรื่อง ข้าว สินค้าการเกษตร แต่สินค้าอื่นเรายังไม่ได้พัฒนามากนักในการส่งออก เราต้องพัฒนาต่อ เพราะตลาดในประเทศเราชำนาญแล้ว ซึ่งของบริษัทฯก็มีสัดส่วนส่งออกแค่ 10% เท่านั้น ยังต้องพัฒนาต่อ
ส่วนปัญหาการเมืองนั้น นายบุญชัย ให้ความเห็นว่า ต้องมีการเปลี่ยนแปลง แม้ว่าจะมีการยุบสภาเลือกตั้งใหม่ ก็ได้ แต่ขอให้พิจารณาจากคุณภาพ ไม่ใช่พิจารณาจากการเมือง ถ้าเอาผลประโยชน์มาก่อน บ้านเมืองก็จะไปไม่รอด การเปลี่ยนแปลงภาคการเมืองต้องทำให้เกิดการยอมรับทุกภาคส่วน ทั้งประชาชน กลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย กลุ่มชนชนกลาง ชนชั้นล่าง
ส่วนกรณีที่รัฐบาลได้ ดร.โอฬาร ไชยประวัติ มาเป็นรองนายกรัฐมนตรีดูแลด้านเศรษฐกิจ ซึ่งเป็นคนมีความรู้ความสามารถมั่นใจว่าจะนำพาประเทศไทยรอดวิกฤตได้