xs
xsm
sm
md
lg

อาร์เอสเบรกทีวีดาวเทียม แย้มจีบ “เจลีก” ลงสนามไทย

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

อาร์เอสบีเอส ติดเบรกทีวีดาวเทียมระลอกสอง ขอดูสถานการณ์เมืองไทยก่อน แย้มเตรียมจีบ “เจลีก” ลงไทย ล่าสุด ปิดงานอีเวนต์สุดท้ายปีนี้ด้วย ศึก FIFA FUTSAL WORLD CUP 2008 หยอดกระปุกได้อีก 20 ล้านบาท คาดปี 53 คุ้มทุน แม้ปีนี้จะขาดทุนจากการแข่งขันยูโรที่ผ่านมา

ดร.สันติภาพ เตชะวณิช ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการ บริษัท อาร์เอสอินเตอร์เนชั่นแนล บรอดคาสติ้ง แอนด์ สปอร์ต แมเนจเม้นท์ หรือ RSBS บริษัทในเครือ RS เปิดเผยว่า แผนการทำธุรกิจทีวีดาวเทียม ยอมรับว่า มีความสนใจที่จะทำ แต่ต้องขอดูความชัดเจนในการจัดตั้งคณะกรรมการกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์แห่งชาติ (กสช.) ถึงแม้ว่าทางกระทรวงท่องเที่ยวและกีฬา มีแผนที่จะทำทีวีดาวเทียมช่องกีฬาขึ้นมานั้น มองว่าเป็นเรื่องที่ดี แต่ทางเราไม่สามารถเข้าไปร่วมได้ เพราะส่วนใหญ่เราได้ลิขสิทธิ์เพียงแค่เรื่องของการถ่ายทอดสดเท่านั้น

อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้ เมื่อต้นปี 2550 ที่ผ่านมา ทาง อาร์เอส ได้ทำสัมปทานสัญญาการทำธุรกิจโทรทัศน์ดาวเทียมจากประเทศลาว ผ่านพันธมิตร คือ บริษัท เพชรจำปา จำกัด ดร.สันติภาพ กล่าวว่า ขอดูนโยบายทีวีดาวเทียมบ้านเราก่อนดีกว่า ส่วนทางลาวยังไม่ความคืบหน้าว่าจะออกมาเป็นเช่นไร

ทั้งนี้ หลังจากที่ อาร์เอสบีเอส ได้สิทธิ์การถ่ายทอดสดประเภทสื่อทั้งหมดของการแข่งขันฟุตบอลนานาชาติฟีฟ่า รวมกว่า 12 รายการ ตั้งแต่ปี 2008-2010 ล่าสุด อาร์เอสบีเอส จะมีการถ่ายทอดสดการแข่งขัน FIFA FUTSAL WORLD CUP 2008 ผ่านมีเดียพาสเนอร์ ทั้งช่อง 3, 9 และ NBT เริ่ม 30-19 ต.ค.นี้ โดยมีพันธมิตรร่วมเป็นสปอนเซอร์แล้ว 6 ราย คือ การท่าเรือแห่งประเทศไทย, บริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน), บริษัท East Water จำกัด (มหาชน), บริษัท ปตท.จำกัด (มหาชน), บริษัท เอ.พี.ฮอนด้า จำกัด และบริษัท โอสถสภา จำกัด ซึ่งคาดว่าจากการถ่ายทอดสดการแข่งขันกีฬาดังกล่าว จะมีรายได้จากสปอนเซอร์และรูทสปอร์ตไม่ต่ำกว่า 20 ล้านบาท

ดร.สันติภาพ กล่าวต่อว่า สปอนเซอร์ 6 ราย ในสถานการณ์แบบนี้ ถือว่าเป็นจำนวนที่น่าพอใจ เพราะในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปี ยอมรับว่า เป็นช่วงที่มีการจัดอีเวนต์ที่หลากหลาย บวกกับเป็นช่วงที่จะมีการปิดบัญชีงบประมาณของภาคเอกชน ทำให้อาจจะมีเม็ดเงินจากบริษัทเอกชนมาสนใจทำอีเวนต์น้อย ส่วนภาครัฐเองก็เป็นช่วงรอรอบบัญชีงบประมาณปีต่อไป จึงยังไม่มีการอนุมัติเม็ดเงินมาใช้ ขณะที่ทั้งปี ธุรกิจอีเวนต์ปีนี้ถือว่าเหนื่อย เพราะมีปัจจัยลบหลายด้าน ทั้งเศรษฐกิจ การเมืองในประเทศ รวมถึงเศรษฐกิจโลกด้วย ที่กระทบเป็นระลอกคลื่นสู่บริษัทข้ามชาติในการใช้เงินมากขึ้น ส่งผลให้การถ่ายทอดสดฟุตบอลยูโรที่ผ่านมา มีรายได้ไม่เป็นไปตามเป้า เพราะขายโฆษณาและทำการตลาดได้น้อย ทำให้ปีนี้บริษัทมีรายได้อาจจะต่ำกว่าแผนที่วางไว้ แต่บริษัทมองในระยะยาว คือ ในปี 2553 โดยเฉลี่ยแล้ว เชื่อว่า จะมีรายได้ถึงจุดคุ้มทุน

ล่าสุด นอกจากลิขสิทธิ์การถ่ายทอดสดประเภทสื่อทั้งหมดของการแข่งขันฟุตบอลนานาชาติฟีฟ่า รวมกว่า 12 รายการ ตั้งแต่ปี 2008-2010 ที่ได้มา ทางบริษัทมีความสนใจสิทธิ์การถ่ายทอดสดเกี่ยวกับการแข่งขันกีฬาฟุตบอลเจแปนลีก และ บุนเดสลีกา เยอรมัน ด้วย โดยเฉพาะเจแปนลีก มีความเป็นไปได้ที่จะได้รับความสนใจจากคอบอล เพราะเทรนด์กระแสเจป๊อป กำลังได้รับความสนในในบ้านเรา

อย่างไรก็ตาม ในปีหน้า บริษัทจะมีการถ่ายทอดสดการแข่งขันรายการต่างๆ ของฟีฟ่าอีก 4รายการ รวมถึงยังได้เข้าไปดูแลบริหารจัดการด้านการตลาดและถ่ายทอดสด การแข่งขันกีฬาซีเกมส์ ปี 2552 ที่ประเทศลาว เชื่อว่า จะเป็นอีกส่วนหนึ่งที่จะมาเพิ่มรายได้ให้ในปีหน้าได้
กำลังโหลดความคิดเห็น