พาโนราม่า ดิ้นตาย กรุยตลาดสารคดีต่างประเทศ ประเดิม 7 ประเทศ ในแถบเอเชีย พร้อมจีบช่องดิสคัฟเวอรี่ให้ช่วยขายสารคดีให้ในทวีปยุโรปและอเมริกา หลังใจเสียครึ่งปีแรกรายได้พลาดเป้าลดลง 30% เหตุเศรษฐกิจร่ายพิษใส่ ยังมีหวังสิ้นปีรายได้รวมคาดแตะ 90 ล้านบาท
นายชนินทร์ ชมะโชติ กรรมการผู้จัดการ บริษัท พาโนราม่า เวิลด์ไวด์ จำกัด ผู้ผลิตรายการสารคดีสำหรับโทรทัศน์ และวิดีทัศน์ เปิดเผยว่า ครึ่งปีหลังนี้ บริษัทมีแผนที่จะเข้าไปทำตลาดสารคดีในต่างประเทศ โดยจะเริ่มจากประเทศในแถบเอเชียก่อน ใน 7 ประเทศหลักๆ คือ ลาว, เวียดนาม, จีนตอนใต้, มาเลเซีย, สิงคโปร์, พม่า และกัมพูชา ซึ่งระหว่างนี้มีการศึกษาและพิจารณาความเป็นไปได้อยู่ แต่คาดว่าช่วงเดือน ธ.ค.นี้ จะเริ่มจำหน่ายได้
ส่วนตลาดยุโรปและอเมริกา ทางบริษัทกำลังมีการเจรจากับทางช่องสารคดีรายใหญ่ อย่าง ดิสคัฟเวอรี่ ให้เป็นผู้ดูแลลิขสิทธิ์และจัดจำหน่ายให้ คาดว่า สารคดีเรื่องแรกที่ขายในต่างประเทศ คือ แผ่นดินสุวรรณภูมิ เรื่องจริง หรือตำนาน โดยคาดว่าจะเริ่มดำเนินการผลิตเพื่อจำหน่ายประเทศต่างๆ นั้น ในช่วงเดือนธันวาคม เป็นต้นไป เนื่องจากช่วงเวลาดังกล่าวสารคดีชุดนี้ได้ทำการออกอากาศจบแล้วในประเทศไทย โดยขั้นตอนแรกจะเริ่มจากการแปลภาษาไทยให้เป็นภาษาอังกฤษและขยายไปสู่ภาษาอื่นๆ ต่อไป ซึ่งกลุ่มเป้าหมายหลักในตลาดต่างประเทศ คือ กลุ่มผู้ประกอบการสถานีโทรทัศน์ เนื่องจากเป็นกลุ่มลูกค้าที่มีกำลังซื้อสูง โดยราคาจำหน่ายจะคิดเป็นชั่วโมงเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 2-5 พันเหรียญสหรัฐฯ
อย่างไรก็ตาม สำหรับภาพรวมของบริษัทในช่วงครึ่งปีแรกที่ผ่านมานั้น ยอมรับว่า ต่ำกว่าเป้าที่วางไว้ถึง 30% เนื่องจากปัญหาทางเศรษฐกิจและการเมืองเป็นหลัก ส่งผลให้ลูกค้าหลายบริษัทเกิดการชะลอตัวในเรื่องของการใช้งบโฆษณาผ่านสื่อและบางรายทำการตัดงบโฆษณาในส่วนที่ไม่จำเป็นออกไป ทำให้ทั้งปีมองว่ายังสามารถรักษารายได้ที่ 90 ล้านบาท เท่าปีที่ผ่านมาก็ดีที่สุดแล้ว จากปัจจุบันบริษัทฯผลิตรายการอยู่ 3-4 รายการ ได้แก่ พาโนราม่า สเปเชียล, ถนนของแผ่นดิน, ปราชญ์เดินดิน และ 1 ในพระราชดำริ ขณะเดียวกันก็ยังได้เปิดธุรกิจรับจ้างผลิตรายการอีกด้วย โดยสัดส่วนรายได้สามารถแบ่งได้เป็น รายการโทรทัศน์ 70% และรับจ้างผลิต 30%
ล่าสุด บริษัทได้จัดทำผลิตสารคดีซีรีย์ชุด “แผ่นดินสุวรรณภูมิ เรื่องจริงหรือตำนาน” ออกอากาศผ่านทางสถานีโทรทัศน์โมเดิร์นไนน์ทีวี เวลา 22.00 น.ทุกวันจันทร์ โดยจะออกอากาศทั้งหมด 12 ตอน ตอนละ 50 นาที เริ่มวันที่ 22 ก.ย.นี้เป็นต้นไป อาทิ ตอนแกะรอยสุวรรณภูมิ, การค้า ผู้คน ความเชื่อบนแผ่นดิน, เมื่อพุทธมาถึงสุวรรณภูมิ, ย้อนรอยศรัทธาแห่งสุวรรณภูมิ, สุวรรณภูมิ ศูนย์กลางการค้าสองมหาสมุทร, จากอินเดียสู่สุวรรณภูมิ, และวันนี้ของสุวรรณภูมิ ซึ่งทั้งหมดจะเป็นการนำเสนอเรื่องราวความเป็นมาของแผ่นดินสุวรรณภูมิตั้งแต่ต้นจนจบ
โดยทีมงานได้ทำการศึกษาและสำรวจหาข้อมูลทั้งทางด้านเอกสาร และลงพื้นที่จริงมาเป็นเวลา 3 ปี ภายใต้งบการลงทุนในเรื่องของการผลิตสารคดีอยู่ที่ประมาณ 12 ล้านบาท เฉลี่ยตอนละ 1 ล้านบาท ซึ่งที่ผ่านมาการทำซีรีย์สารคดีในแต่ละเรื่องจะใช้งบลงทุนเฉลี่ยตอนละ 1 ล้านบาท โดยงบลงทุนที่บริษัทนำมาใช้ในการผลิตสารคดีในแต่ละชุดนั้นบริษัทเป็นผู้ลงทุนเองทั้งหมด สำหรับเงินลงทุนที่ได้มานั้นมาจากการที่บริษัทได้เสนอสารคดีที่ผลิตเสร็จแล้วไปเสนอขายให้กับลูกค้า
นายชนินทร์ ชมะโชติ กรรมการผู้จัดการ บริษัท พาโนราม่า เวิลด์ไวด์ จำกัด ผู้ผลิตรายการสารคดีสำหรับโทรทัศน์ และวิดีทัศน์ เปิดเผยว่า ครึ่งปีหลังนี้ บริษัทมีแผนที่จะเข้าไปทำตลาดสารคดีในต่างประเทศ โดยจะเริ่มจากประเทศในแถบเอเชียก่อน ใน 7 ประเทศหลักๆ คือ ลาว, เวียดนาม, จีนตอนใต้, มาเลเซีย, สิงคโปร์, พม่า และกัมพูชา ซึ่งระหว่างนี้มีการศึกษาและพิจารณาความเป็นไปได้อยู่ แต่คาดว่าช่วงเดือน ธ.ค.นี้ จะเริ่มจำหน่ายได้
ส่วนตลาดยุโรปและอเมริกา ทางบริษัทกำลังมีการเจรจากับทางช่องสารคดีรายใหญ่ อย่าง ดิสคัฟเวอรี่ ให้เป็นผู้ดูแลลิขสิทธิ์และจัดจำหน่ายให้ คาดว่า สารคดีเรื่องแรกที่ขายในต่างประเทศ คือ แผ่นดินสุวรรณภูมิ เรื่องจริง หรือตำนาน โดยคาดว่าจะเริ่มดำเนินการผลิตเพื่อจำหน่ายประเทศต่างๆ นั้น ในช่วงเดือนธันวาคม เป็นต้นไป เนื่องจากช่วงเวลาดังกล่าวสารคดีชุดนี้ได้ทำการออกอากาศจบแล้วในประเทศไทย โดยขั้นตอนแรกจะเริ่มจากการแปลภาษาไทยให้เป็นภาษาอังกฤษและขยายไปสู่ภาษาอื่นๆ ต่อไป ซึ่งกลุ่มเป้าหมายหลักในตลาดต่างประเทศ คือ กลุ่มผู้ประกอบการสถานีโทรทัศน์ เนื่องจากเป็นกลุ่มลูกค้าที่มีกำลังซื้อสูง โดยราคาจำหน่ายจะคิดเป็นชั่วโมงเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 2-5 พันเหรียญสหรัฐฯ
อย่างไรก็ตาม สำหรับภาพรวมของบริษัทในช่วงครึ่งปีแรกที่ผ่านมานั้น ยอมรับว่า ต่ำกว่าเป้าที่วางไว้ถึง 30% เนื่องจากปัญหาทางเศรษฐกิจและการเมืองเป็นหลัก ส่งผลให้ลูกค้าหลายบริษัทเกิดการชะลอตัวในเรื่องของการใช้งบโฆษณาผ่านสื่อและบางรายทำการตัดงบโฆษณาในส่วนที่ไม่จำเป็นออกไป ทำให้ทั้งปีมองว่ายังสามารถรักษารายได้ที่ 90 ล้านบาท เท่าปีที่ผ่านมาก็ดีที่สุดแล้ว จากปัจจุบันบริษัทฯผลิตรายการอยู่ 3-4 รายการ ได้แก่ พาโนราม่า สเปเชียล, ถนนของแผ่นดิน, ปราชญ์เดินดิน และ 1 ในพระราชดำริ ขณะเดียวกันก็ยังได้เปิดธุรกิจรับจ้างผลิตรายการอีกด้วย โดยสัดส่วนรายได้สามารถแบ่งได้เป็น รายการโทรทัศน์ 70% และรับจ้างผลิต 30%
ล่าสุด บริษัทได้จัดทำผลิตสารคดีซีรีย์ชุด “แผ่นดินสุวรรณภูมิ เรื่องจริงหรือตำนาน” ออกอากาศผ่านทางสถานีโทรทัศน์โมเดิร์นไนน์ทีวี เวลา 22.00 น.ทุกวันจันทร์ โดยจะออกอากาศทั้งหมด 12 ตอน ตอนละ 50 นาที เริ่มวันที่ 22 ก.ย.นี้เป็นต้นไป อาทิ ตอนแกะรอยสุวรรณภูมิ, การค้า ผู้คน ความเชื่อบนแผ่นดิน, เมื่อพุทธมาถึงสุวรรณภูมิ, ย้อนรอยศรัทธาแห่งสุวรรณภูมิ, สุวรรณภูมิ ศูนย์กลางการค้าสองมหาสมุทร, จากอินเดียสู่สุวรรณภูมิ, และวันนี้ของสุวรรณภูมิ ซึ่งทั้งหมดจะเป็นการนำเสนอเรื่องราวความเป็นมาของแผ่นดินสุวรรณภูมิตั้งแต่ต้นจนจบ
โดยทีมงานได้ทำการศึกษาและสำรวจหาข้อมูลทั้งทางด้านเอกสาร และลงพื้นที่จริงมาเป็นเวลา 3 ปี ภายใต้งบการลงทุนในเรื่องของการผลิตสารคดีอยู่ที่ประมาณ 12 ล้านบาท เฉลี่ยตอนละ 1 ล้านบาท ซึ่งที่ผ่านมาการทำซีรีย์สารคดีในแต่ละเรื่องจะใช้งบลงทุนเฉลี่ยตอนละ 1 ล้านบาท โดยงบลงทุนที่บริษัทนำมาใช้ในการผลิตสารคดีในแต่ละชุดนั้นบริษัทเป็นผู้ลงทุนเองทั้งหมด สำหรับเงินลงทุนที่ได้มานั้นมาจากการที่บริษัทได้เสนอสารคดีที่ผลิตเสร็จแล้วไปเสนอขายให้กับลูกค้า