แพน-เวสต์ ตั้งเป้าขยายธุรกิจอุปกณ์กอล์ฟในไทย มั่นใจตลาดไปได้สวย เล็งเพิ่มร้านจำหน่าย สินค้าใหม่
นายเดวิด เรคคอร์ด ผู้จัดการประจำประเทศไทย บริษัท แพน-เวสต์ ประเทศไทย จำกัด ผู้แทนจำหน่ายผลิตภัณฑ์กีฬากอล์ฟ กล่าวว่า บริษัทวางแนวทางการขยายธุรกิจในปีหน้าและเพิ่มจำนวนร้านจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์สำหรับแบรนด์สินค้าต่างๆ มากขึ้น รวมถึงการเพิ่มประเภทของบริการต่างๆ จากแพน-เวสต์
เนื่องจากกีฬากอล์ฟในประเทศไทยยังคงมีการเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่องภายในปีสองปีนี้ ประกอบกับสนามกอล์ฟใหม่ๆ จำนวนมากที่กำลังเตรียมพร้อมที่จะเปิดให้บริการ และจำนวนผู้เล่นกอล์ฟ ทั้งคนไทยและนักท่องเที่ยวที่มีเพิ่มมากขึ้นทุกปี
โดยมองว่า กรุงเทพฯ เป็นตลาดหลักที่ แพน-เวสต์ ให้ความสำคัญ แต่ในขณะเดียวกัน เราก็มองเห็นโอกาสในการขยายธุรกิจไปยังภูเก็ต พัทยา และหัวหิน ซึ่งทั้ง 3 ทำเลนี้ สามารถดึงดูดความสนใจของนักกอล์ฟได้เป็นอย่างดี พร้อมด้วยสนามกอล์ฟระดับมาตรฐานที่ตั้งอยู่เป็นจำนวนมากในทำเลดังกล่าว
“แพน-เวสต์ วางแผนที่จะขยายการเติบโตให้กับตลาดในกลุ่มองค์กรธุรกิจ เนื่องจากเรามองเห็นโอกาสในการนำเสนอบริการต่างๆ จากบริษัท โดยเฉพาะอย่างยิ่งผลิตภัณฑ์ ลูกกอล์ฟ และถุงกอล์ฟ ซึ่งมีบริการพิมพ์โลโก้ลงบนตัวสินค้า นอกจากนั้น Callaway ยังมีอุปกรณ์หลากหลายประเภทที่สามารถจำหน่ายคู่กับผลิตภัณฑ์อื่นๆ ได้ และจะมุ่งเน้นขยายตลาดให้กับอุปกรณ์ลูกกอล์ฟภายใต้แบรนด์ Top-Flite อีกด้วย” นายเรคคอร์ด กล่าว
ทั้งนี้ แพน-เวสต์ เตรียมเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่กว่า 15 ประเภท จะเริ่มเปิดตัวตั้งแต่ปีหน้าเป็นต้นไป และจะมีผลิตภัณฑ์ที่เหมาะสมสำหรับนักกอล์ฟหญิงโดยเฉพาะเข้ามาทำตลาดในประเทศไทย
ปัจจุบัน แพน-เวสต์ มีร้านค้าสำหรับจำหน่ายผลิตภัณฑ์ที่ตั้งอยู่ภายในสนามกอล์ฟจำนวน 22 แห่ง ทั้งยังมีร้านค้าทั่วไปจำนวน 25 แห่ง และร้านค้าภายในสนามฝึกซ้อมกอล์ฟจำนวน 5 แห่งภายในภูมิภาคเอเชีย และกำลังเร่งขยายตลาดในประเทศไทยที่ในขณะนี้มีร้านจำหน่ายผลิตภัณฑ์ภายใต้ชื่อ แพน-เวสต์ ทั้งหมดจำนวน 3 แห่งด้วยกัน ตั้งอยู่ที่สยามพารากอน สนามฝึกซ้อมกอล์ฟ All Star และธนิยะพลาซ่า และจัดจำหน่ายให้กับห้างสรรพสินค้าเดอะมอลล์, ซูเปอร์สปอร์ต, Active Nation และ อิเซตัน
แพน-เวสต์ เป็นผู้จัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์สำหรับกีฬากอล์ฟชั้นนำในประเทศไทยให้กับ แบรนด์ต่างๆ อาทิเช่น Callaway, Odyssey, Top-Flite, Yamaha, MacGregor, Cutter & Buck และ Katana ทั้งนี้ แพน-เวสต์มียอดรายรับโดยรวมประมาณเกือบ 300 ล้านบาท ในปีที่ผ่านมา และบริษัทประเมินว่า ตลาดธุรกิจการจำหน่ายผลิตภัณฑ์ให้กับกลุ่มลูกค้ารายย่อย (Retail Market) ในประเทศไทยมีมูลค่าตลาดโดยรวมประมาณ 2 พันล้านบาท
นายเดวิด เรคคอร์ด ผู้จัดการประจำประเทศไทย บริษัท แพน-เวสต์ ประเทศไทย จำกัด ผู้แทนจำหน่ายผลิตภัณฑ์กีฬากอล์ฟ กล่าวว่า บริษัทวางแนวทางการขยายธุรกิจในปีหน้าและเพิ่มจำนวนร้านจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์สำหรับแบรนด์สินค้าต่างๆ มากขึ้น รวมถึงการเพิ่มประเภทของบริการต่างๆ จากแพน-เวสต์
เนื่องจากกีฬากอล์ฟในประเทศไทยยังคงมีการเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่องภายในปีสองปีนี้ ประกอบกับสนามกอล์ฟใหม่ๆ จำนวนมากที่กำลังเตรียมพร้อมที่จะเปิดให้บริการ และจำนวนผู้เล่นกอล์ฟ ทั้งคนไทยและนักท่องเที่ยวที่มีเพิ่มมากขึ้นทุกปี
โดยมองว่า กรุงเทพฯ เป็นตลาดหลักที่ แพน-เวสต์ ให้ความสำคัญ แต่ในขณะเดียวกัน เราก็มองเห็นโอกาสในการขยายธุรกิจไปยังภูเก็ต พัทยา และหัวหิน ซึ่งทั้ง 3 ทำเลนี้ สามารถดึงดูดความสนใจของนักกอล์ฟได้เป็นอย่างดี พร้อมด้วยสนามกอล์ฟระดับมาตรฐานที่ตั้งอยู่เป็นจำนวนมากในทำเลดังกล่าว
“แพน-เวสต์ วางแผนที่จะขยายการเติบโตให้กับตลาดในกลุ่มองค์กรธุรกิจ เนื่องจากเรามองเห็นโอกาสในการนำเสนอบริการต่างๆ จากบริษัท โดยเฉพาะอย่างยิ่งผลิตภัณฑ์ ลูกกอล์ฟ และถุงกอล์ฟ ซึ่งมีบริการพิมพ์โลโก้ลงบนตัวสินค้า นอกจากนั้น Callaway ยังมีอุปกรณ์หลากหลายประเภทที่สามารถจำหน่ายคู่กับผลิตภัณฑ์อื่นๆ ได้ และจะมุ่งเน้นขยายตลาดให้กับอุปกรณ์ลูกกอล์ฟภายใต้แบรนด์ Top-Flite อีกด้วย” นายเรคคอร์ด กล่าว
ทั้งนี้ แพน-เวสต์ เตรียมเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่กว่า 15 ประเภท จะเริ่มเปิดตัวตั้งแต่ปีหน้าเป็นต้นไป และจะมีผลิตภัณฑ์ที่เหมาะสมสำหรับนักกอล์ฟหญิงโดยเฉพาะเข้ามาทำตลาดในประเทศไทย
ปัจจุบัน แพน-เวสต์ มีร้านค้าสำหรับจำหน่ายผลิตภัณฑ์ที่ตั้งอยู่ภายในสนามกอล์ฟจำนวน 22 แห่ง ทั้งยังมีร้านค้าทั่วไปจำนวน 25 แห่ง และร้านค้าภายในสนามฝึกซ้อมกอล์ฟจำนวน 5 แห่งภายในภูมิภาคเอเชีย และกำลังเร่งขยายตลาดในประเทศไทยที่ในขณะนี้มีร้านจำหน่ายผลิตภัณฑ์ภายใต้ชื่อ แพน-เวสต์ ทั้งหมดจำนวน 3 แห่งด้วยกัน ตั้งอยู่ที่สยามพารากอน สนามฝึกซ้อมกอล์ฟ All Star และธนิยะพลาซ่า และจัดจำหน่ายให้กับห้างสรรพสินค้าเดอะมอลล์, ซูเปอร์สปอร์ต, Active Nation และ อิเซตัน
แพน-เวสต์ เป็นผู้จัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์สำหรับกีฬากอล์ฟชั้นนำในประเทศไทยให้กับ แบรนด์ต่างๆ อาทิเช่น Callaway, Odyssey, Top-Flite, Yamaha, MacGregor, Cutter & Buck และ Katana ทั้งนี้ แพน-เวสต์มียอดรายรับโดยรวมประมาณเกือบ 300 ล้านบาท ในปีที่ผ่านมา และบริษัทประเมินว่า ตลาดธุรกิจการจำหน่ายผลิตภัณฑ์ให้กับกลุ่มลูกค้ารายย่อย (Retail Market) ในประเทศไทยมีมูลค่าตลาดโดยรวมประมาณ 2 พันล้านบาท
