จากเหตุการณ์การสลายการชุมนุมที่บริเวณหน้าอาคารรัฐสภาในช่วงเช้าวันที่นี้(7 ต.ค.) ที่ผ่านมา ยังผลให้ผู้เข้าร่วมชุมนุมกับพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยได้รับบาดเจ็บ จนต้องลำเลียงส่งโรงพยาบาล
ผู้บาดเจ็บรายหนึ่ง อายุ 41 ปี เพิ่งเดินทางมาจากจังหวัดสงขลา ได้รับบาดเจ็บ บริเวณแขนขวา ลำตัวด้านขวา และขาขวา กล่าวว่า ในช่วงเช้าตนร่วมชุมนุมอยู่บริเวณถนนพิชัย จากนั้นมีกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจเดินเท้าเข้ามาอยู่ในระยะ 100-200 เมตร จากนั้นก็ได้ยินเสียงระเบิดขึ้น จึงหมอบลงกับพื้นแต่ระเบิดแก๊สน้ำตามาตกอยู่ข้างตัวด้านขวาของตน และเกิดระเบิดขึ้น ตนเห็นเนื้อแขนด้านขวาหลุด จึงลุกขึ้นวิ่งเพราะคิดว่านอนหมอบอยู่คงไม่ปลอดภัย โดยมีผู้ชุมนุมคนอื่นเข้ามาช่วย ระหว่างนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจยังระดมยิงแก็สน้ำตาเข้ามาอีกหลายลูก
ระหว่างนั้นผู้ป่วยได้สอบถามความคืบหน้าของการชุมนุมจากผู้สื่อข่าวด้วยความเป็นห่วงว่า รัฐบาลแถลงนโยบายหรือยัง? เมื่อได้รับคำตอบว่าแถลงนโยบายแล้ว ผู้ป่วยกล่าวว่าแล้วจะทำอย่างไรกันต่อไป โดยผู้ป่วยกล่าวด้วยว่ารู้สึกตื้นตันใจที่ได้รับพระกรุณาจากสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถที่รับดูแลผู้บาดเจ็บทุกคนในพระอุปถัมภ์
ผู้ป่วยรายนี้เผยความรู้สึกต่อผู้สื่อข่าวว่า “ความรู้สึกเจอตำรวจกระทำการแบบนี้นั้น บอกคำเดียวว่า เหี้ยม ม.ม้าวิ่งหนี สำหรับพี่น้องที่ยังสู้อยู่ ขอให้มีกำลังใจ สู้ๆ ”
นางพงศ์พล ทวีสุข จากชลบุรี ได้รับบาดเจ็บเล็กน้อยบริเวณเท้าทั้งสองข้าง กล่าวว่า ช่วงเช้าตนนั่งชุมนุมตามปกติ จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้เดินเท้าเข้ามาและระดมยิงแก๊สน้ำตาเข้าใส่ 2 ชุด กว่าครึ่งชั่วโมง ซึ่งระหว่างนั้นก็มีคนเจ็บนอนอยู่ที่พื้น เมื่อผู้ชุมนุมจะเข้าไปช่วย ตำรวจก็กระหน่ำยิงแก๊สเข้ามาอีก ทำให้ไม่สามารถเข้าไปช่วยคนเจ็บได้ และไม่เพียงแต่มีแก๊สน้ำตาเท่านั้น เจ้าหน้าที่ยังโยนลูกกลมสีน้ำตาลคล้ายลูกกอล์ฟ เข้ามาในกลุ่มผู้ชุมนุม ซึ่งลูกกลมดังกล่าวจะเกิดระเบิดขึ้น ตนยืนยันว่า ไม่ได้มีเพียงแก๊สน้ำตาอย่างเดียว
“สิ่งที่ตำรวจทำครั้งนี้ ไม่ถูกต้อง ตำรวจบอกไม่ให้ผู้ชุมนุมใช้อาวุธ แต่กลับเอาปืนอาก้า ปืนยิงแก๊สน้ำตา มาทำร้ายประชาชน การเอากระเช้าดอกไม้มาให้ไม่ได้ช่วยทำให้ความรู้สึกดีขึ้น เป็นพฤติกรรมที่น่าชัง เพราะคนทำร้ายกับคนเอากระเช้าดอกไม้มาเป็นคนคนเดียวกัน มันไม่สมเหตุผล ไม่โทษเจ้าหน้าที่ตำรวจชั้นผู้น้อยที่ต้องปฏิบัติตามหน้าที่ แต่คนที่สั่งการคือเจ้าหน้าที่ตำรวจชั้นผู้ใหญ่” นายพงศ์พล กล่าว