เอกชนท่องเที่ยว 3 จังหวัดอันดามัน ภูเก็ต กระบี่ พังงา เสนอ 4 มาตรการ กู้วิกฤตฟื้นท่องเที่ยวไฮซีซันปีนี้ พร้อมจี้รัฐยกเลิก พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ฟากเอกชนเตรียมจับมืออัดโปรโมชัน ลด แจก แถม โรงแรมที่พัก หวังฟื้นนักท่องเที่ยวให้ทันกลับมาปีนี้
วานนี้ (10 ก.ย.) นายวีระศักด์ โควสุรัตน์ รมว.กระทรวงการท่องเที่ยวละกีฬา ได้นำคณะสมาคมผู้ประกอบการด้านการท่องเที่ยวจากส่วนกลาง พร้อมเอกอัครราชทูตนิวซีแลนด์ ประจำประเทศไทย ลงตรวจเยี่ยมพื้นที่แหล่งท่องเที่ยวและสนามบิน จังหวัดภูเก็ต โดยมีจุดประสงค์ เพื่อรับฟังความคิดเห็นของผู้ประกอบการท่องเที่ยวใน 3 จังหวัดอันดามัน ได้แก่ ภูเก็ต กระบี่ พังงา พร้อมมุ่งหวังให้ภาพการของการตรวจเยี่ยมพื้นที่ในครั้งนี้ ได้ออกเผยแพร่ผ่านสื่อมวลชน ทั้งในประเทศ และต่างประเทศ ยืนยันว่า สนามบินภูเก็ต และกระบี่ มีความพร้อมที่จะต้อนรับนักท่องเที่ยว ที่จะเดินทางเข้าสู่ไทยในไฮซีซันช่วงนี้ อย่างไรก็ตาม ตนได้มีการเสนอ ครม.เรื่องของให้ยกเลิก พ.ร.ก.ฉุกเฉิน แล้ว ที่ประชุมเห็นด้วย แต่ยังไม่มีคำสั่งออกมา ทั้งนี้ในการประชุมสัปดาห์หน้า จะนำเรื่องนี้เสนออีกครั้ง
นายภูริต มาศวงศา อุปนายกสมาคมท่งเที่ยว จังหวัดภูเก็ต ฝ่ายการตลาด กล่าวว่า ขณะนี้ยอดการจองห้องพักของ 3 จังหวัดอันดามัน มีการยกเลิกจำนวนมาก เฉลี่ย 10-30% ขณะที่ในเดือน พ.ย.-ธ.ค.มียอดจองล่วงหน้าเข้ามาเพียง 20% จากปกติของปีก่อนๆ ที่จะมียอดจอง 50% ของจำนวนห้องพัก จาก 60,000 ห้องแล้วในช่วงนี้ ดังนั้น สิ่งที่ผู้ประกอบการต้องการจากภาครัฐโดยเร่งด่วน คือ การยกเลิก ประกาศใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน และขอให้ภาครัฐ ยืนยันว่าจะไม่มีการปิดเสนามบินอีก ไม่ว่ากรณีใดๆ ทั้งสิ้น เพื่อสร้างความมั่นใจให้แก่นักท่องเที่ยว ที่กำลังตัดสินใจจะจองห้องพักเพื่อจะเดินทางเข้ามาเที่ยวช่วงไฮซีซันปีนี้
ขณะที่ภาคเอกชน ได้จัดแคมเปญโปรโมชันเพื่อที่จะฟื้นฟูให้การท่องเที่ยวใน 3 จังหวัดอันดามันกลับมาคึกคักอีกครั้งหนึ่ง โดยภายในเดือน ต.ค.นี้ โรงแรมจะจัดทำโปรโมชัน ลด แจก แถม ห้องพัก สำหรับผู้ที่จะเดินทางเข้าพักในช่วง พ.ย.-ม.ค.นี้ โดยลดราคาไม่น้อยกว่า 20% นอกจากนั้น ในส่วนของกิจกรรมด้านการท่องเที่ยวอื่นๆ เช่น สปา กอล์ฟ แพกเกจทัวร์ และชอปปิ้ง พร้อมใจกันลดราคา 10-20% โดยจะทำโฆษณาผ่านสื่อที่มีอยู่ทั้งอินเทอร์เน็ต และทัวร์โอเปอเรเตอร์ที่เป็นพันธมิตรในต่างประเทศ เว็บไซต์ของ ททท.ทุกรูปแบบ
อย่างไรก็ตาม ยอมรับว่า การลดราคา จะทำให้โครงสร้างราคาเกิดความเสียหายในอนาคต ต่อสถานการณ์เช่นนี้ มีความจำเป็นที่ผู้ประกอบการต้องตัดสินใจทำ เพราะ ณ วันนี้ อัตราเข้าพักล่วงหน้าของช่วงปลายปีมียอดจองเพียง 20-30% จากทุกปีช่วงเวลาดังกล่าวจะมีอัตราเข้าพักสูงถึง 85-90%
นายเมธี ตันมานะตระกูล นายกสมาคมท่องเที่ยว จังหวัดภูเก็ต กล่าวว่า ทางสมาคม และผู้ประกอบการ 3 จังหวัดอันดามัน เสนอ 4 มาตรการ แก่ นายวีระศักดิ์ โควสุรัตน์ ให้เร่งดำเนินการ ได้แก่ 1.การยกเลิก พ.ร.ก.ฉุกเฉิน และการยืนยันจะไม่ปิดสนามบิน 2.การทำพีอาร์โดยให้ภาครัฐ ว่าจ้างบริษัทประชาสัมพันธ์ชื่อดังระดับโลกให้ประชาสัมพันธ์ประเทศไทยในเชิงการรรับประกันความสงบและปลอดภัยของประเทศไทย 3.ให้ภาครัฐเชิญทูตจากทั่วโลก เข้ามาเที่ยวประเทศไทย โดยภาคเอกชน 3 จังหวัดอันดามัน จะออกค่าใช้จ่ายในเรื่องของห้องพักและการเลี้ยงรับรอง ขณะที่ต้องการให้การบินไทยเข้ามารองรับค่าใช้จ่ายเรื่องตั๋วโดยสาร โดยเน้นเชิญใน 23 ประเทศ ที่ออกเตือนหนังสือนักท่องเที่ยว 4.ทำแผนระยะยาว ดูแลเรื่องความปลอดภัยให้เข้มงวดให้เป็นมาตรฐานที่ทั่วโลกทำกัน เพื่อความอุ่นใจของนักท่องเที่ยวที่สนามบินและแหล่งท่องงเที่ยว
อย่างไรก็ตาม มีรายงานจากท่าอากาศยานนานาชาติ จังหวัดภูเก็ต แจ้งว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างการดำเนินการทำแผนขยายสนามบิน มูลค่าโครงการ 5,000 ล้านบาท ระยะเวลาการดำเนินการตั้งแต่ปี 2552-2555 โดยจะมีการแยกผู้โดยสารต่างประพดทศตังหาก เพื่อให้รองรับผู้โดยสารต่อปีที่ 12 ล้านคน จากปัจจุบันรองรับ 5-6 ล้านคน
วานนี้ (10 ก.ย.) นายวีระศักด์ โควสุรัตน์ รมว.กระทรวงการท่องเที่ยวละกีฬา ได้นำคณะสมาคมผู้ประกอบการด้านการท่องเที่ยวจากส่วนกลาง พร้อมเอกอัครราชทูตนิวซีแลนด์ ประจำประเทศไทย ลงตรวจเยี่ยมพื้นที่แหล่งท่องเที่ยวและสนามบิน จังหวัดภูเก็ต โดยมีจุดประสงค์ เพื่อรับฟังความคิดเห็นของผู้ประกอบการท่องเที่ยวใน 3 จังหวัดอันดามัน ได้แก่ ภูเก็ต กระบี่ พังงา พร้อมมุ่งหวังให้ภาพการของการตรวจเยี่ยมพื้นที่ในครั้งนี้ ได้ออกเผยแพร่ผ่านสื่อมวลชน ทั้งในประเทศ และต่างประเทศ ยืนยันว่า สนามบินภูเก็ต และกระบี่ มีความพร้อมที่จะต้อนรับนักท่องเที่ยว ที่จะเดินทางเข้าสู่ไทยในไฮซีซันช่วงนี้ อย่างไรก็ตาม ตนได้มีการเสนอ ครม.เรื่องของให้ยกเลิก พ.ร.ก.ฉุกเฉิน แล้ว ที่ประชุมเห็นด้วย แต่ยังไม่มีคำสั่งออกมา ทั้งนี้ในการประชุมสัปดาห์หน้า จะนำเรื่องนี้เสนออีกครั้ง
นายภูริต มาศวงศา อุปนายกสมาคมท่งเที่ยว จังหวัดภูเก็ต ฝ่ายการตลาด กล่าวว่า ขณะนี้ยอดการจองห้องพักของ 3 จังหวัดอันดามัน มีการยกเลิกจำนวนมาก เฉลี่ย 10-30% ขณะที่ในเดือน พ.ย.-ธ.ค.มียอดจองล่วงหน้าเข้ามาเพียง 20% จากปกติของปีก่อนๆ ที่จะมียอดจอง 50% ของจำนวนห้องพัก จาก 60,000 ห้องแล้วในช่วงนี้ ดังนั้น สิ่งที่ผู้ประกอบการต้องการจากภาครัฐโดยเร่งด่วน คือ การยกเลิก ประกาศใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน และขอให้ภาครัฐ ยืนยันว่าจะไม่มีการปิดเสนามบินอีก ไม่ว่ากรณีใดๆ ทั้งสิ้น เพื่อสร้างความมั่นใจให้แก่นักท่องเที่ยว ที่กำลังตัดสินใจจะจองห้องพักเพื่อจะเดินทางเข้ามาเที่ยวช่วงไฮซีซันปีนี้
ขณะที่ภาคเอกชน ได้จัดแคมเปญโปรโมชันเพื่อที่จะฟื้นฟูให้การท่องเที่ยวใน 3 จังหวัดอันดามันกลับมาคึกคักอีกครั้งหนึ่ง โดยภายในเดือน ต.ค.นี้ โรงแรมจะจัดทำโปรโมชัน ลด แจก แถม ห้องพัก สำหรับผู้ที่จะเดินทางเข้าพักในช่วง พ.ย.-ม.ค.นี้ โดยลดราคาไม่น้อยกว่า 20% นอกจากนั้น ในส่วนของกิจกรรมด้านการท่องเที่ยวอื่นๆ เช่น สปา กอล์ฟ แพกเกจทัวร์ และชอปปิ้ง พร้อมใจกันลดราคา 10-20% โดยจะทำโฆษณาผ่านสื่อที่มีอยู่ทั้งอินเทอร์เน็ต และทัวร์โอเปอเรเตอร์ที่เป็นพันธมิตรในต่างประเทศ เว็บไซต์ของ ททท.ทุกรูปแบบ
อย่างไรก็ตาม ยอมรับว่า การลดราคา จะทำให้โครงสร้างราคาเกิดความเสียหายในอนาคต ต่อสถานการณ์เช่นนี้ มีความจำเป็นที่ผู้ประกอบการต้องตัดสินใจทำ เพราะ ณ วันนี้ อัตราเข้าพักล่วงหน้าของช่วงปลายปีมียอดจองเพียง 20-30% จากทุกปีช่วงเวลาดังกล่าวจะมีอัตราเข้าพักสูงถึง 85-90%
นายเมธี ตันมานะตระกูล นายกสมาคมท่องเที่ยว จังหวัดภูเก็ต กล่าวว่า ทางสมาคม และผู้ประกอบการ 3 จังหวัดอันดามัน เสนอ 4 มาตรการ แก่ นายวีระศักดิ์ โควสุรัตน์ ให้เร่งดำเนินการ ได้แก่ 1.การยกเลิก พ.ร.ก.ฉุกเฉิน และการยืนยันจะไม่ปิดสนามบิน 2.การทำพีอาร์โดยให้ภาครัฐ ว่าจ้างบริษัทประชาสัมพันธ์ชื่อดังระดับโลกให้ประชาสัมพันธ์ประเทศไทยในเชิงการรรับประกันความสงบและปลอดภัยของประเทศไทย 3.ให้ภาครัฐเชิญทูตจากทั่วโลก เข้ามาเที่ยวประเทศไทย โดยภาคเอกชน 3 จังหวัดอันดามัน จะออกค่าใช้จ่ายในเรื่องของห้องพักและการเลี้ยงรับรอง ขณะที่ต้องการให้การบินไทยเข้ามารองรับค่าใช้จ่ายเรื่องตั๋วโดยสาร โดยเน้นเชิญใน 23 ประเทศ ที่ออกเตือนหนังสือนักท่องเที่ยว 4.ทำแผนระยะยาว ดูแลเรื่องความปลอดภัยให้เข้มงวดให้เป็นมาตรฐานที่ทั่วโลกทำกัน เพื่อความอุ่นใจของนักท่องเที่ยวที่สนามบินและแหล่งท่องงเที่ยว
อย่างไรก็ตาม มีรายงานจากท่าอากาศยานนานาชาติ จังหวัดภูเก็ต แจ้งว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างการดำเนินการทำแผนขยายสนามบิน มูลค่าโครงการ 5,000 ล้านบาท ระยะเวลาการดำเนินการตั้งแต่ปี 2552-2555 โดยจะมีการแยกผู้โดยสารต่างประพดทศตังหาก เพื่อให้รองรับผู้โดยสารต่อปีที่ 12 ล้านคน จากปัจจุบันรองรับ 5-6 ล้านคน
